ในยุคที่เรื่องของความสัมพันธ์มีความซับซ้อนมากกว่าเดิมมาก ๆ การจะสร้างความสัมพันธ์ในทุกรูปแบบอาจจะต้องระมัดระวังมากขึ้น แม้ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม วันนี้ Wongnai Beauty จะพาทุกคนไปทำความรู้จักความสัมพันธ์แบบ Situationshi กันค่ะ เขาว่ากันว่าสิ่งนี้ฮิตในกลุ่มคน Gen Z มาก ๆ ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันต่อเลยกว่าค่ะ ว่า situationship คืออะไรรับรองว่ากระจ่างคาตาแน่นอน!
Situationship คืออะไรกันนะ?
Situationship เป็นรูปแบบของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนที่เชื่อมต่อกันทั้งทางอารมณ์ ทางกายภาพ แต่ไม่มุ่งหวังหรือพัฒนาสู่การพัฒนาผูกมัดครอบครอง บางครั้งในความสัมพันธ์แบบนี้ก็ไม่มีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนขนาดนั้น ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายขึ้นเช่น เราเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีสุดท้ายสองคนอาจยังไม่ได้ตกลงเป็นคู่รักกันเพราะทั้งคู่ต่างรู้ดีกว่าพอจบแล้วก็อาจจะต้องแยกย้ายกันไปเพื่อเติบโต หลังจากเรียนจบจึงปล่อยจอยกับความสัมพันธ์ไปแบบที่ไม่ได้เรียกร้องกับสถานะ เป็นต้น ความสัมพันธ์แบบนี้เป็นตัวอย่างของการคุยกันได้ทุกเรื่อง ทำทุกอย่างเหมือนแฟน แต่ไม่มีสถานะอะไรทั้งนั้น
เหตุผลที่ความสัมพันธ์แบบ Situationship เป็นที่นิยมมากขึ้น
บางงานวิจัยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับ situationship ว่าเป็นเรื่องของปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจที่เพิ่มความท้าท้ายให้กับการใช้ชีวิต เพราะต้องการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้คนยังเริ่มให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระมากขึ้นและมีความต้องการใช้ชีวิตของตัวมากขึ้นนี่จึงเป็นเหตุผลกลาย ๆ ว่าทำไมความสัมพันธ์แบบ situationship ถึงเป็นนิยมนั่นเองค่ะ
นอกจากนี้เราจะสังเกตได้อีกว่าในปัจจุบันผู้คนมักให้ความสำเร็จกับเรื่องของเงิน ความเป็นอยู่มากกว่าเรื่องของความรักใคร่ อาจเป็นเพราะการถูกปลูกฝังให้มองว่าการมีทรัพย์สินเงินทองแปลว่าประสบความสำเร็จ (ตามสภาพสังคมทุนนิยม) ถ้าทุกคนอยากเห็นภาพมากขึ้นสามารถดูได้จากภาพยนตร์เรื่อง ลัดดาแลนด์ ค่ะ ตัดคราบของความเป็นหนังผีออกไปเราจะเห็นได้ความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ต้องสู้กับภาวะทางเศรษฐกิจที่ยากลำบากเราคิดว่าภาพยนต์เรื่องนั้นสามารถ้ล่าถึงนิยามของการประสบความสำเร็จได้ดีค่ะ กลับเข้ามาที่เรื่องของความสัมพันธ์ situationship กันอีกหน่อยด้วยเหตุผลนี้ผู้คนอาจจะไม่ได้พร้อมมีครอบครัว หรือลงหลักปักฐานอย่างจริงจังก็เป็นที่มาของคุยแบบไร้สถานะก็ได้ค่ะ
ทำความเข้าใจความสัมพันธ์ Situationship มีรูปแบบยังไงบ้าง?
เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีชื่อเรียก : สำหรับความสัมพันธ์นี้ทั้งสองคนอาจจะไม่ได้เปิดใจคุยกันอย่างจริงจังว่า "ระหว่างเรา" มันคืออะไรกันนะ อาจจะเพราะรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป หรือแม้แต่ยังไม่รู้สึกสบายใจก็เลยทำให้เรื่องนี้ถูกปัดตกไปได้
ไม่มีความสม่ำเสมอ : ต้องบอกว่าใครที่ชอบความสัมพันธ์แบบ Situationship จะไม่คาดหวังความเอาใจใส่ขนาดนั้นค่ะ เพราะว่าถ้าคาดหวังการตตอบข้อความทันที การนัดเจอกันบ่อย ๆ หรือแม้การพยายามจะทำบางสิ่งบางด้วยกันก็อาจจะต้องมูฟไปหาความสัมพันธ์แบบอื่น เนื่องจากคนกลุ่มนี้จะไม่มีความสม่ำเสมอเลยล่ะค่ะ
ไม่พูดคุยถึงเรื่องของอนาคต : ปกติในความสัมพันธ์ทั่วไปถ้าคบกันระยะหนึ่งก็จะมีการพูดถึงอนาคตร่วมกันบ้าง สำหรับเราในความสัมพันธ์ที่มันสามารถพัฒนาต่อได้ควรมีการพูดคุยกันตั้งแต่แรกว่ามีความคาดหวังในความสัมพันธ์แบบไหน ถ้าไม่มีเรื่องนี้ในก็อาจจะคิดได้ว่าเราอาจจะตกอยู่ในสถานะ Situationship แน่ ๆ
สะดวกเมื่อไรก็ค่อยเจอกัน : การจะเจอกันในความสัมพันธ์ Situationship จะขึ้นอยู่กับความสะดวกค่ะ ว่าแล้วค่อยเจอกัน ไมาว่างก็ไม่ได้มีปัญหาว่าจะต้องเจอ ถ้าต่างคนต่างมีธุระก็จะเลือกให้ความสำคัญหรือเวลากับสิ่งอื่นมากกว่า พูดง่าย ๆ คือจะไม่มีการพยายามหาเวลามาเพื่อเจอกัน และส่วนมากจะคุยกันผ่านแชทมากกว่า ไม่ได้มีโพสต์รูปหรือว่าเปิดตัวแต่อย่างใด
ข้อดีและข้อด้อยในความสัมพันธ์แบบ Situationship
ข้อดีในความสัมพันธ์
เราอยากเสนอข้อดีในความสัมพันธ์ Situationship กันสักหน่อยเพราะว่าในความล่องลอยเราคิดว่ามีข้อดีสำหรับคนที่อยากเรียนรู้ในความสัมพันธ์จนเกิดความช่ำชองก่อน แล้วอาจจะมูฟไปหาความสัมพันธ์อื่นเพื่อเริ่มต้นอย่างจริงจังได้ค่ะ ซึ่งการอยู่ในความสัมพันธ์นี้เราต้องมั่นใจประมาณหนึ่งว่าเราเจ๋งพอตัวที่จะไม่เป็นคนที่รู้สึกมากกว่านั่นเองค่ะ
- ทำให้รู้สึกสนุกและไม่เครียด
- ไม่มีการผูกมัดทางอารมณ์
- ไม่ต้องรับผิดชอบความรู้สึกของใคร
- ไม่ต้องแบกรับความกดดันจากอีกฝ่ายมากเกินไป
- สามารถไล่สเต็ปการทำความรู้จักกันแบบไม่กลัวความผิดหวัง
ข้อด้อยในความสัมพันธ์
มีข้อดีก็ต้องมีข้อด้อยในความสัมพันธ์เหรียญยังมีสองด้านแล้วเราจะไม่รู้อีกด้านของความสัมพันธ์ได้ยังไงกัน เราคิดว่าสิ่งที่จะเกิดในความสัมพันธ์รูปแบบนี้อาจจะต้องแลกมาด้วยสุขภาพจิตที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเลยค่ะ เพราะถ้าใครที่มีจิตใจไม่มั่นคงก็อาจจะเป๋ได้เลย เรียกว่าเราเตือนทุกคนให้มีสติในทุก ๆ ความสัมพันธ์แบบนี้ก็ได้ค่ะ
- อาจมีคนที่รู้สึกมากกว่าในความสัมพันธ์นี้
- เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจมีคนเริ่มคาดหวังอยากได้อะไรมากกว่านี้
- ไม่มีความสม่ำเสมอในความสัมพันธ์
- สามารถทำให้เกิด Toxic Relationship ได้
- ปิดกั้นโอกาสให้เจอคนที่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่ความรักที่มั่นคงได้
สุดท้ายสำหรับเราคิดว่าทุก ๆ ความสัมพันธ์มันขึ้นอยู่กับคนที่อยู่ในสนามค่ะ ถ้าทั้งสองคนต่างโอเคที่จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Situationship แล้วมีความสุขมันจบแค่นั้นเลย เพราะในปัจจุบันเรามีเรื่องให้ต้องคิดกันเยอะมาก ๆ อยู่แล้ว การที่เราจะตักตวงความสุขง่าย ๆ จากบางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหายอะไร ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องถามใจตัวเองดี ๆ นะคะ ว่าเรามั่นใจพอที่จะลงสนามนี้หรือเปล่าถือว่าเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพจิตที่ดีระหว่างมีความสัมพันธ์ทุกรูปแบบนะคะ เพราะถ้าใจป่วยทีซ่อมนานเลยทีเดียวเชียวแหละเราเตือนด้วยความหวังดีจริง ๆ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ