พูดถึงการลดน้ำหนักเนี่ย เพื่อน ๆ อาจจะคิดว่ามันช่างยากช่างเย็นสุดอะไรสุด ไหนจะต้องเตรียมกายและใจให้พร้อม อาหารก็ต้องคุมอีก! จนเพื่อน ๆ จำนวนไม่น้อยก็ได้ทำการถอดใจกันไป ส่วนเพื่อน ๆ ที่ยัง On The Way แต่กลับพบว่าไม่เกิด Progress ใด ๆ ขึ้นกับตัวฉันเลย อาจเป็นเพราะว่าทำผิดวิธีอยู่ก็ได้นะคะ ฉะนั้นวันนี้ Wongnai Beauty เลยรวบรวมความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการลดน้ำหนักเพื่อมาเตือนสติสาว ๆ ให้หยุดทำตามกัน และในขณะเดียวกัน ใครที่หยุดลดน้ำหนักไปแล้ว พอได้อ่านอาจจะเปลี่ยนใจมาสู้อีกสักแมตช์ก็ได้นะ ใครจะรู้
ความเชื่อที่ 1 : แค่ลดน้ำหนัก = ลดความอ้วน

สิ่งที่คิด: โอ้ยยย สองอย่างนี้มันก็เหมือนกันละค่ะ! โนสน เอาเป็นว่าโมเมนต์ที่ขึ้นเครื่องชั่งแล้วพบว่าน้ำหนักลงไป 1 กรุบ 2 กรุบ ฉันรู้สึกฟินก็เป็นพอแล้วค่ะ
เอิ่ม อันนี้ผิดค่ะ เพราะความจริงคือแบบนี้ค่ะ…
ความเป็นจริง: ความจริงแล้วน้ำหนักคนเราขึ้นลงเล็กน้อยอยู่ทุกวันค่ะ ที่เป็นแบบนี้เพราะหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะทั้ง
- อาหารที่กิน บางครั้งปริมาณอาหารการกินในแต่ละวันก็มีส่วนทำให้น้ำหนักขึ้นลงได้ค่ะ ยิ่งถ้าวันไหนกินโซเดียมเยอะ ก็จะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากเป็นปกติ อันเป็นเหตุให้น้ำหนักเราขึ้นมานั่นเอง
- ฮอร์โมนในร่างกาย นอกจากอาหารที่มีโซเดียมแล้ว การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายของแต่ละวันก็มีส่วนทำให้น้ำในร่างกายขึ้นลง จนไปส่งผลกับน้ำหนักนั่นเองค่ะ
- มวลกล้ามเนื้อ อันนี้เราเชื่อว่าเป็นอะไรที่หลายคนมองข้ามไป ยิ่งถ้าสาว ๆ คนไหนออกกำลังกายไปสักพักอาจพบว่าน้ำหนักขึ้น ซึ่งถ้าเรามั่นใจว่าไม่ใช่เพราะการตามใจปากของเราเองล่ะก็ หมดห่วงได้เลยค่ะ น้ำหนักคนเราก็ขึ้นได้ด้วยมวลกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นหลังการออกกำลังกายเป็นประจำในระยะหนึ่ง ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ อยากวัดความก้าวหน้าในการลดน้ำหนัก เราแนะนำให้สังเกตว่ามวลไขมันลดลงและมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนจะชัดเจนกว่าค่ะ
ความเชื่อที่ 2 : กินน้อย ๆ จะได้ผอมเร็ว!

สิ่งที่คิด: พอเคยได้ยินใครหลาย ๆ คนกรอกหูกันเหลือเกินว่า “ถ้าหล่อนอยากผอม หล่อนก็ต้องกินน้อย ๆ” โดยเริ่มตั้งแต่กินน้อย กินแบบจำกัดแคลอรี หรือถ้าใจถึงกว่านั้นหน่อยก็ต้องจิบแต่น้ำเปล่าทั้งวัน ถ้าหิวก็พรีออร์เดอร์น้ำผลไม้ Cold Pressed มาแบบจุก ๆ
วิธีพวกนี้เนี่ยบ้างก็ช่วยให้บางคนเห็นผล บ้างก็ไม่ สลับสับวนปนเปกันไป แต่… โอ้ย! นี่คือการกินอาหารลดน้ำหนักที่ผิดค่ะ! ถึงเวลาตั้งสติ แล้วมาดูกันค่ะว่าความจริงแล้วเป็นอย่างไร
ความเป็นจริง: หลายคนยังเข้าใจกันอยู่ว่าแค่เรากินอาหารที่แคลอรีน้อย ๆ ใน 1 วันนาน ๆ ก็ทำให้น้ำหนักลดได้ อันนี้ไม่จริงค่ะ เพราะบางทีอาหารแคลอรีน้อยก็อาจมาพร้อมความอ้วนแอบแฝง นึกภาพตามง่าย ๆ ถ้ามื้อหนึ่งเราเลือกที่จะกินน้ำผลไม้แทนข้าว 1 จาน แม้ว่าด้วยตัวแคลอรีของน้ำผลไม้จะน้อยกว่าจริง ๆ แต่ด้วยจำนวนน้ำตาลที่อาจมากกว่าก็ทำให้ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว
ส่วนเรื่องการจำกัดแคลอรีนี่ดีค่ะ แต่ถ้ามันมากไปก็จะแย่เอา เพราะถ้ากินน้อยเกินเหตุจะส่งผลเสียกับระบบการย่อยอาหารในระยะยาวได้ แถมบางทีก็อาจทำให้หิวจนเผลอตัวได้มากกว่าเดิม ซึ่งถ้าจะทำจริง ๆ เราควรกินให้ได้ 1,200-1,600 แคลอรีต่อวัน แต่อาหารที่กินนั้นควรมีประโยชน์ ผักผลไม้ก็ควรเป็นสดไม่ใช่แปรรูป และเน้นที่ไฟเบอร์สูงเข้าไว้ ส่วนน้ำเปล่านี่ก็จิบได้ดื่มได้เท่าที่ต้องการ แต่น้ำผลไม้นี่ยิ่งน้อยยิ่งดีค่ะ ต่อให้จะเป็นสูตรพาสเจอร์ไรซ์หรือ Cold Pressed ก็ตาม
ความเชื่อที่ 3 : กลัวอ้วน เลยงดคาร์บ กลูเตน และไขมันซะเลย!

สิ่งที่คิด: คาร์โบไฮเดรตให้พลังงานเยอะก็จริง ถ้ามากเกินไปก็ต้องลดซะเลย แถมพวกกลูเตนนี่น่ากลัวใช่เล่น ต้องตัดขาด ไปหาอาหาร Gluten-Free แทนดีกว่า ส่วนไขมันอย่ามาเข้าใกล้ ออกไป! ฉันจะกินแต่อะไรคลีน ๆ! รับรองเดี๋ยวก็ผอม…
ความเป็นจริง: จะบ้าตายรายวัน! เพราะทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นคือผิดหมดเลยค่ะ การที่เรางดคาร์โบไฮเดรต กลูเตน และไขมัน ไม่ได้ช่วยทำให้เราผอมลงเร็วแต่อย่างใด บางทีอาจจะทำให้อ้วนขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ คือมันเป็นแบบนี้ค่ะ เดี๋ยวอธิบายสั้น ๆ ง่าย ๆ แยกเป็นหัวข้อแบบ 1 แมตช์ให้ฟัง
- คาร์บ หรือ คาร์โบไฮเดรต บางครั้งการที่เราลดคาร์บมากไปก็ทำให้เพื่อน ๆ ขาดไฟเบอร์ได้แบบไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้นการกินคาร์บที่ถูกต้องคือมองหาธัญพืชไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี และผักจำพวกที่ไม่เป็นแป้ง เช่น บรอกโคลี มันเทศ มะเขือเทศ กะหล่ำดอก แล้วทำให้ส่วนหนึ่งของทุกมื้ออร่อย พวกนี้ถือว่าเป็นคาร์บเชิงซ้อน รับรองปลอดภัยแน่นอน หรือถ้าเพื่อน ๆ อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการกินคาร์บที่ถูกต้องก็ ติดตามได้ที่นี่ค่ะ
- กลูเตน สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้อ้วนค่ะ แต่สำหรับบางคนอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ เขาเลยต้องมองหาอาหาร Gluten-Free เข้าไว้ แต่ถ้าใครไม่แพ้กลูเตนก็สามารถทานอาหารทั่วไปได้ โดยให้ยึดหลักตามที่เราแนะนำในหัวข้อก่อนหน้าค่ะ คือเน้นคาร์บที่มีประโยชน์เข้าไว้
- ไขมัน ถูกแล้วค่ะถ้าเพื่อน ๆ จะบอกลาไขมันไม่ดี แต่การไม่กินไขมันเลยนี่ก็ผิดและเกินเหตุค่ะ ไขมันที่ทานได้ ปลอดภัย คือไขมันที่ได้จากปลา ถั่วต่าง ๆ หรือผลไม้อย่างอะโวคาโดค่ะ
ความเชื่อที่ 4 : อาหารเสริมช่วยได้

สิ่งที่คิด: วัน ๆ นึงทำอะไรตั้งหลายอย่าง ออกกำลังก็เหนื่อย คุมอาหารก็ยาก งานพรีอาหารเสริมต้องมาละค่ะทุกคน รับรองผอมชัวร์
ความเป็นจริง: นี่ก็เป็นอะไรที่เราจะบ้าตายรายวันเช่นกัน อาหารเสริมไม่ช่วยซะทีเดียวนะคะ เพราะฉะนั้นถ้าเพื่อน ๆ ได้อ่านจากรีวิว หรือฟังจากคนใกล้ตัวแล้วบอกสิ่งนี้ดีเช่นนั้น สิ่งนั้นดีขนาดนี้ก็ต้องหาร 100 สักนิด บางทีคนเหล่านั้นอาจจะกำลังเจอสิ่งที่เรียกว่า Placebo Effect ที่ทำให้เขารู้สึกดีจนอาจคิดไปเองว่าอาหารเสริมตั่งต่างนั้นได้ผลเสียเหลือเกินค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ละ ย้ำอีกครั้ง ไม่มีอะไรจะได้ผลเท่ากับการเลือกกินอาหารและออกกำลังกายประจำค่ะ ท่องกันอีกรอบนะคะ เลือกกินอาหาร และออกกำลังกายประจำค่ะ อีกครั้งค่ะ เลือกกินอาหาร และออกกำลังกายประจำค่ะ
ความเชื่อที่ 5 : Cheat Day สักวันให้ฉันสบายใจ

สิ่งที่คิด: ถึงจุดนี้ฉันรู้สึกว่าฉันทำได้ละ มากินให้จุก ๆ แตก ๆ สักวันจะเป็นอะไรไป แล้วค่อยกลับไปออกกำลังพรุ่งนี้ละกันเนอะ
ความเป็นจริง: หยุดค่ะ ถ้าจะทำ Cheat Day เราอยากให้เพื่อน ๆ นึกถึงความสำเร็จก่อนหน้า เพราะถ้าพลาดนิดเดียวก็เหมือนกลับไปนับหนึ่งใหม่เลยนะ ถ้าอยากตามใจปากจริง ๆ เราแนะนำว่าโกงเป็นรายมื้อ หรือ Cheat Meal เอาจะดีกว่านะคะ แต่จะให้ Cheat แค่ไหน คำนึงถึงคุณค่าและสารอาหารสักนิดก็ดี จากนั้นก็อย่าลืมกลับไปออกกำลังกันด้วยละ
ความเชื่อที่ 6 : ยิ่งออกกำลังหนักก็ยิ่งเห็นผลเร็ว

สิ่งที่คิด: ถ้าอยากผอมเร็ว ๆ ก็ต้องยอมทรมาน ยอมเหนื่อยสักหน่อย ต้องออกกำลังกายให้หนัก ให้ร่างพัง ให้ปวดน่อง ให้เหงื่อออกเป็นแกลลอน สู้ค่ะแม่!
ความเป็นจริง: การออกกำลังที่หักโหมไปมีแต่จะทำร้ายร่างกายนะคะ แถมบางทีอาจทำให้เราหิวจนหมดสติก็ได้ เพราะฉะนั้นวางแผนดี ๆ เลือกการออกกำลังกายที่หนักสลับเบาใน 1 สัปดาห์แต่เป็นประจำสม่ำเสมอก็ทำให้เห็นผลได้ไม่แพ้กันเลยค่ะ
จริง ๆ ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราอยากพูดเกี่ยวกับการลดน้ำหนักแต่ก็กลัวจะยาวไปกว่านี้เนอะ แต่เราก็หวังนะคะว่าทั้งหมดนี้พอจะเป็นประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อน ๆ ฮึดสู้เพื่อเอวเอสกันต่อไปได้ สุดท้ายนี้ ท่องจำไว้นะคะ “เลือกกิน ออกกำลัง พักผ่อนให้พอ” ทำสามสิ่งนี้วนไป รับรองว่าเห็นผลอย่างแน่นอน สวัสดีค่ะ
อ่านบทความที่น่าสนใจอื่น ๆ