เช็กให้ชัวร์ก่อนสายเกินแก้ "อาการปวดท้อง" เรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนมักมองข้าม อาจมีต้นเหตุที่ร้ายแรงมากกว่าที่คิด ปวดท้องซ้าย ปวดท้องบน ปวดท้องล่างนี่ไม่ใช่เล่น ๆ แล้วนะคะ เพราะอาการปวดท้องนั้น มีสาเหตุมาจากอวัยวะภายในร่างกายของเรา มีอาการผิดปกติ หรือมีอาการบาดเจ็บภายใน ปล่อยทิ้งไว้ไม่ดีแน่ มาเช็กกันดูหน่อยดีกว่าค่ะ ว่าอาการปวดท้องแต่ละจุด ปวดท้องตรงไหนบอกโรคอะไรเราบ้าง

9 ตำแหน่งปวดท้องยอดฮิต ปวดตรงไหน ป่วยเป็นอะไร?
- ปวดท้องตรงใต้ซี่โครงขวา : ตับหรือถุงน้ำดีผิดปกติ
ถ้าปวดตรงนี้ให้ลองกดดูก่อนเลยค่ะ ถ้าเจอก้อนแข็งพร้อมมีอาการตัวเหลือง แสดงว่าตับและถุงน้ำดีผิดปกติ ยิ่งมีอาการปวดมาก ๆ ควรไปหาหมอด่วน เพราะอาจจะเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี หรือโรคเกี่ยวกับตับได้ค่ะ - ปวดท้องใต้ซี่โครงซ้าย : ภาวะม้ามโต โรคเกี่ยวกับตับ โรคเลือด หรือมะเร็ง
จุดนี้เป็นตำแหน่งของม้าม อาจมีภาวะม้ามโตอยู่ เป็นภาวะที่ม้ามใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ทำให้มีอาการปวดแน่นเหมือนจุกตลอดเวลา อาจมีสาเหตุมาจากโรคตับ หรือมีการติดเชื้อที่ม้าม เป็นวัณโรค ร้ายแรงสุดคือมะเร็งเม็ดเลือดขาว บางคนที่เป็นโรคโลหิตจางก็อาจมีอาการเจ็บตรงนี้ได้เหมือนกันค่ะ - ปวดท้องใกล้เอวด้านขวา : นิ่วที่ไต
จุดนี้เป็นตำแหน่งของท่อไต ถ้าสาว ๆ มีอาการปวดเอวแล้วมีปัสสาวะร่วมด้วย ให้คิดไว้ก่อนเลยค่ะว่าน่าจะเป็นนิ่วที่ไต ยิ่งถ้าปวดมากจนเหงื่อออก รู้สึกร้อน ๆ ปวดร้าวไปถึงต้นขาคือใช่เลย ควรไปหาหมอทันที - ปวดท้องใกล้เอวด้านซ้าย : นิ่วที่ไต
เป็นจุดเดียวกันกับท่อไตเหมือนกันค่ะ ส่วนใหญ่จะมีอาการปวดแบบเจ็บจี๊ด ๆ บีบเป็นระยะ บางคนปวดจนลามไปถึงขาหนีบ มีอาการปัสสาวะเปลี่ยนสี เป็นสีชมพู สีแดงเหมือนมีเลือดผสม รู้สึกเจ็บเวลาปัสสาวะ - ปวดท้องใต้ลิ้นปี่ : โรคหัวใจขาดเลือด โรคกระเพาะ หรือนิ่วในถุงน้ำดี
ถ้าปวดใต้ลิ้นปี่แล้วมีอาการเจ็บหรือแน่นหน้าอกร่วมด้วย อาจเป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้ กลับกันถ้าเป็นโรคกระเพาะจะปวดจุดนี้บ่อย ๆ เวลาเพิ่งกินอิ่มค่ะ ซึ่งการปวดจุดนี้จะอันตรายมาก ๆ ถ้ามีอาการปวดรุนแรง แล้วอาเจียนร่วมด้วย เพราะนั่นเป็นสัญญาณของตับอ่อนอักเสบ ยิ่งถ้าเจอก้อนเนื้อตอนคลำแสดงว่ามีอาการตับโต น่ากลัวกว่าที่คิดมาก ๆ - ปวดท้องรอบสะดือ : ปัญหาลำไส้เล็ก หรือใส้ติ่งอักเสบ
ปวดรอบสะดือ กด ๆ แล้วปวดไม่มากอาจเป็นเพราะลำไส้ทำงานผิดปกติ หลายคนที่ปวดตรงนี้มักจะมีอาการท้องเสีย ปวดบิด คลื่นไส้ร่วมด้วย แต่ถ้าปวดมาก ๆ อาจมีปัญหาจากไส้ติ่งอักเสบ ตรงนี้ถ้าเจ็บแล้วห้ามปล่อยไว้ เพราะไม่หายเองแน่นอน จะยิ่งปวดเรื่อย ๆ ถ้าพบแพทย์ไม่ทันคืออันตรายถึงชีวิตได้เลยค่ะ - ปวดท้องน้อยขวา : กรวยไตอักเสบ นิ่วท่อไต ปีกมดลูกอักเสบ หรือไส้ติ่ง
อีกตำแหน่งที่อันตรายมาก ๆ เพราะเป็นตำแหน่งของไส้ติ่ง และยังเป็นท่อไต ปากมดลูก และปีกรังไข่ข้างขวา ถ้าปวดเกร็งตรงนี้เป็นระยะ ๆ แบบปวดเรื่อย ๆ อาจเป็นนิ่วท่อไต หรือกรวยไตอักเสบ แต่สำหรับสาว ๆ ที่มีไข้ แล้วยังมีตกขาวด้วย อันนี้เป็นอาการของปีกมดลูกอักเสบ หรือรังไข่ผิดปกติ - ปวดท้องน้อยกลาง : นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือมดลูกอักเสบ
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนเคยปวดท้องตรงนี้กันแน่นอน เพราะเป็นตำแหน่งของมดลูก ถ้าเป็นหนุ่ม ๆ แล้วปวดตรงนี้และมีอาการปัสสาวะบ่อย อาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่สาว ๆ ที่ปวดท้องตรงนี้ มีไข้ ก็เป็นสัญญาณของมดลูกอักเสบ อาจต้องปรึกษาคุณหมอเพราะมดลูกผิดปกติ - ปวดท้องน้อยซ้าย : นิ่วในท่อไต ลำไส้ใหญ่อักเสบ เนื้องอกในลำไส้ หรือมดลูกอักเสบ
ใครปวดท้องน้อยข้างซ้าย อาจมีปัญหาเรื่องนิ่วในท่อไตค่ะ ซึ่งถ้ามีอาการท้องเสียร่วมด้วย ถือเป็นอาการของลำไส้ใหญ่อักเสบ ในบางคนถ่ายแล้วมีเลือดปนมาด้วย หรือน้ำหนักลดลงควรรีบหาหมอเพราะเป็นหนึ่งในอาการของเนื้องอกในลำไส้ ส่วนสาว ๆ ที่ปวดบริเวณนี้ พร้อมมีไข้ ตกขาว ก็เป็นอีกอาการที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของมดลูกจ้า
และนี่ก็เป็นข้อสันนิษฐาน เกี่ยวกับอาการปวดท้องที่ทุกคนอาจต้องเจอกัน ซึ่งอาการปวดท้องที่ทุกคนเป็นกันปกติ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติในร่างกาย ยังไงก็อย่ามัวนิ่งนอนใจไปค่ะ ปวดมากยิ่งอันตรายมาก อย่าปล่อยทิ้งไว้นานรีบไปหาหมอเพื่อตรวจเช็กโรค เพื่อทำการรักษากันเถอะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ


