วันนี้ Wongnai ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “วิปปิงครีม” ผลิตภัณฑ์จากนมโคที่มีความหอมมัน และช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับเมนูขนมหวานและเครื่องดื่มของเรา นอกจากจะเพิ่มรสชาติแล้ว “วิปครีม” เนื้อฟูนุ่มยังสามารถเอามาใช้ตกแต่งเป็นท็อปปิงได้อีก ไม่ว่าจะอยู่บนเค้กหรือน้ำปั่นก็ฟินไปหมด ถ้าเพื่อน ๆ พร้อมกันแล้ว เราไปทำความรู้จักวิปปิงครีมแต่ละชนิดกันเลยดีกว่า ว่าแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะสำหรับเมนูไหนบ้าง!
“วิปปิงครีม” ต่างจาก “วิปครีม” อย่างไร?
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนค่ะ ว่า “วิปปิงครีม” และ “วิปครีม” แตกต่างกันยังไง เห็นชื่อคล้าย ๆ กันแบบนี้ก็มีสับสนอยู่บ้างใช่ไหมล่ะคะ “วิปปิงครีม” ก็คือผลิตภัณฑ์จากนมโคที่ลักษณะเป็นของเหลว มีไขมันเนยสูง มีความเข้มข้น เมื่อตีด้วยตะกร้อสามารถทำให้ขึ้นฟูได้ ตีให้ขึ้นฟูในที่นี้ ก็คือการตีรวมอากาศเข้าไปในเนื้อครีม ส่วน “วิปครีม” ก็คือวิปปิงครีมที่ตีจนขึ้นฟูแล้วนั่นเองค่ะ นอกจากวิธีการตีด้วยตะกร้อแล้ว ยังสามารถทำวิปครีมด้วยการใช้กระป๋องอัดแก๊สได้ด้วยนะคะ เป็นวิธีที่เราจะเห็นได้ทั่วไปตามร้านกาแฟหรือร้านไอศกรีมนั่นเองจ้า
เปิดตำรา “วิปปิงครีม” มีกี่ชนิด ใช้อย่างไร เหมาะกับเมนูไหน มีคำตอบ!
1.วิปปิงครีมแท้
วิปปิงครีมแท้ หรือ Dairy Whipping Cream คือวิปปิงครีมที่มาจากนมโคแท้ จะมีความหอมมันกลิ่นนมโดยธรรมชาติ ส่วนมากมักไม่แต่งกลิ่นหรือรสเพิ่มเติม วิปปิงครีมชนิดนี้สามารถใช้ทำได้ทั้งอาหารคาว ขนมหวาน และใช้เป็นท็อปปิง เรียกได้ว่าเป็นวิปปิงครีมแบบครอบจักรวาลเลยค่ะ
เนื้อสัมผัส : เมื่อตีจนขึ้นฟูวิปครีมที่ได้จะมีความฟูเบา ละลายในปาก และละลายง่ายในอากาศร้อน
วิธีตีวิปครีม : การตีวิปครีมจากวิปปิงครีมแท้จะต้องใช้อุณหภูมิเย็นจัด ควรใช้ภาชนะสแตนเลสในการตี และวางชามน้ำผสมน้ำแข็งรองด้านล่างเพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็นอยู่ตลอดเวลา และต้องคอยสังเกตไม่ให้ตีนานเกินไปจนแยกตัว เมื่อตีจนขึ้นฟูแล้วก็ควรเก็บในตู้เย็น ไม่อย่างนั้นจะละลายได้
2.วิปปิงครีมเทียม
วิปปิงครีมเทียม หรือ Non-Dairy Whipping Cream เป็นวิปปิงครีมจากไขมันพืช ส่วนมากจะมีการแต่งกลิ่นนมและรสชาติหวานอ่อน ๆ เหมาะสำหรับการตีให้ขึ้นฟูเพื่อแต่งหน้าเค้กหรือเครื่องดื่ม แต่ไม่เหมาะสำหรับการทำอาหารคาวค่ะ นิยมใช้เป็นวิปครีมแต่งหน้าเค้กหรือเบเกอรีต่าง ๆ เนื่องจากละลายช้าและอยู่ตัวกว่าวิปครีมจากวิปปิงครีมแท้
เนื้อสัมผัส : เมื่อตีจนขึ้นฟูวิปครีมที่ได้จะมีเนื้อแน่นกว่าวิปครีมแท้ ละลายในปากแต่จะมีความันเลื่อมติดลิ้นเล็กน้อย สามารถอยู่ในอุณภูมิห้องได้นานกว่า
วิธีตีวิปครีม : สามารถตีในอุณหภูมิห้องได้ แต่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น ตีตั้งยอดได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องไขมันแตกตัวเหมือนเวลาตีวิปครีมแท้
3.วิปครีมสำเร็จรูป
วิปครีมสำเร็จรูป หรือวิปครีมกระป๋อง (Canned Whipped Cream) เป็นวิปครีมที่ใช้ง่ายที่สุด เพราะสามารถใช้ได้ทันทีไม่ต้องตีก่อน โดยมีหลักการทำงานเหมือนกับการใช้กระป๋องอัดแก๊ส คือผสมอากาศลงในเนื้อครีมขณะที่บีบออกมานั่นเอง วิปครีมแบบกระป๋องมีทั้งแบบครีมแท้ และครีมเทียม โดยส่วนมากจะมีการแต่งรสหวานอ่อน ๆ และแต่งกลิ่นเช่นวานิลลาหรือช็อกโกแลต เหมาะใช้เป็นท็อปปิงเครื่องดื่ม ไอศกรีม หรือกินคู่กับขนมหวานค่ะ
เนื้อสัมผัส : เนื้อมีความฟูเบา และละลายเร็ว ตัวกระป๋องต้องเก็บในกุณหภูมิต่ำและเสิร์ฟทันทีหลังจากบีบออกมา
วิธีตีวิปครีม : สำหรับวิปครีมสำเร็จรูป จะต้องเขย่ากระป๋องก่อนใช้ทุกครั้ง ถ้าไม่เขย่าวิปครีมอาจออกมาเป็นน้ำได้ เวลากดต้องกดให้มั่นคง วิปครีมที่ออกมาจะไม่ขาดๆเป็นฟอง ๆ ค่ะ
4.วิปปิงครีมแบบผง
วิปปิงครีมแบบผง เป็นวิปปิงครีมที่ถูกนำไปกำจัดความชื้นและอัดเป็นผง เวลาจะใช้ต้องนำมาผสมกับน้ำเย็นก่อนแล้วจึงตีให้ขึ้นฟู วิปปิงครีมแบบผงมีทั้งแบบครีมแท้และครีมเทียมค่ะ จะมีรสชาติคล้าย ๆ นมผง หอม มัน และมีทั้งแบบหวานและไม่หวาน เหมาะสำหรับเมนูเบเกอรีที่ต้องการความคงทนในอุณหภูมิห้อง สามารถเก็บได้นานกว่าแบบน้ำ
เนื้อสัมผัส : เนื้อแน่น มันลื่นและอาจมีการจับตัวเป็นก้อนเล็กน้อย มีความอยู่ตัวและละลายช้าโดยไม่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น
วิธีตีวิปครีม : ผสมวิปปิงครีมแบบผง 1 ส่วน กับน้ำเย็นจัด 2 ส่วน คนให้เข้ากันแล้วตีด้วยความเร็วสูงจนขึ้นฟู
ต่อไปนี้จะทำเค้ก จะแต่งหน้าขนม หรือจะท็อปเครื่องดื่มก็สามารถเลือก “วิปปิงครีม” ได้อย่างโปรแล้วใช่ไหมคะ ไม่ยากเลย ถ้าต้องการทำเค้กที่ทนร้อน แต่ก็อยากได้ความฟูเบา เพื่อน ๆ ก็สามารถนำวิปปิงครีมแท้และวิปปิงครีมเทียมหรือวิปปิงครีมแบบผงมาผสมกันได้เช่นกันนะคะ ดดยปรับสัดส่วนตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ จะทำให้ได้วิปครีมฟู ๆ แบบที่ต้องการโดยที่มีความคงทนมากกว่าวิปครีมแท้ทั่ว ๆ ไปอีกด้วยนะคะ ได้เคล็ดลับกันไปแล้ว ทำขนมคราวหน้าก็ลองใช้ดู อย่าลืมถ่ายรูปสวย ๆ มาอวดกันด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่าา~
ดูบทความที่น่าสนใจเพิ่มตรงนี้เลย!
