#วงในบอกมา
โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ปิดตัวไปเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา กว่าโรงแรมใหม่จะสร้างเสร็จก็ต้องรอนาน 4 ปีเต็ม จึงเป็นที่มาของ “บ้านดุสิตธานี” ที่สร้างขึ้นมาให้ทุกคนไม่ลืมดุสิตธานี
บ้านดุสิตธานี รวมเอาร้านอาหารและบริการของโรงแรมดุสิตธานี ผ่านคาเฟ่และบิสโทร Dusit Gourmet ร้านอาหารไทยเบญจรงค์ และร้านอาหารเวียดนามเธียนดอง ที่ล้วนเป็นร้านที่อยู่คู่ดุสิตธานีมาโดยตลอด
ใครเป็นแฟนโรงแรมดุสิตธานีไปบ้านดุสิตธานีก็เหมือนได้ไปพบเพื่อนเก่าหน้าตาคุ้นเคย เราจึงได้เห็นภาพของลูกค้าประจำพูดคุยอย่างสนิทสนมกับพนักงานดั้งเดิมที่ยังคงทำงานอยู่กับดุสิตธานีทุกครั้งที่เดินผ่านซอยศาลาแดง เราสะดุดตากับป้ายของ “Baan Dusit Thani” หรือ “บ้านดุสิตธานี” เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าจะถูกสร้างขึ้นมาเป็นอะไร จนในวันที่ Dusit Gourmet คาเฟ่แห่งใหม่เปิดทำการ เราถึงได้รู้ว่าที่นี่คือโรงแรมดุสิตธานีขนาดย่อส่วนที่รวมเอาตำนานของดุสิตธานีเอาไว้ด้วยกัน ใครคิดถึงดุสิตธานีก็แวะกลับไปคาเฟ่ฮอปปิงรำลึกถึงกันได้แล้ว


หากทราบประวัติของโรงแรมดุสิตธานี หลายคนคงทราบดีว่าโรงแรมฯ เคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทยในสมัยนั้น และที่ตั้งของโรงแรมฯ เดิมใช้ชื่อว่า “บ้านศาลาแดง” ทำให้ดุสิตธานีผูกพันกับศาลาแดงมากว่า 50 ปี และการที่ดุสิตธานีเช่าที่ดินผืนปัจจุบันก็เท่ากับยืนยันถึงความผูกพันกับย่านนี้ โดยได้ขอเช่าที่ดินของตระกูลโอสถานุเคราะห์เพื่อปรับโฉมให้กลายเป็น “บ้านดุสิตธานี” บ้านดุสิตธานียังคงเอาสถาปัตยกรรมเดิมเอาไว้ทั้งหมดในรูปของกลุ่มอาคารบนพื้นที่เกือบ 5 ไร่ โดยมีบ้านหลังใหญ่เป็นศูนย์กลางของบ้านดุสิตธานี ซึ่งเตรียมเปิดเป็น “ร้านอาหารไทยเบญจรงค์” ภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนอาคารเก็บของกำลังก่อสร้างเป็น “ร้านอาหารเวียดนามเธียนดอง” และ “ศาลาเต้นรำ” สำหรับจัดเลี้ยง

ส่วนบ้านหลังเล็กริมรั้วบ้านเปิดให้บริการแล้วในชื่อ “Dusit Gourmet” ที่เปรียบได้กับบทแรกของการกลับมาอีกครั้งของบ้านดุสิตธานี โดยเฉพาะ Secret Room ห้องที่รวบรวมเอาภาพประวัติศาสตร์ของโรงแรมดุสิตธานีมาประดับไว้คล้ายพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ยกมาจากโรงแรมฯ เดิม ส่วนพื้นที่ต้อนรับ Social Room เป็นโชว์เคสของเบเกอรีขึ้นชื่อของโรงแรมฯ และ Glass House เรือนกระจกที่มองเห็นสวนของบ้าน นอกจากนี้ช่วงเย็นยังใช้สวนหลังบ้านและสระว่ายน้ำเปิดเป็น Garden Bar ดื่มค็อกเทลที่ได้บาร์ดังอย่าง Tropic City มาช่วยคิดสูตร


คงต้องบอกว่า Dusit Gourmet คงเอาประวัติศาสตร์ของดุสิตธานีซ่อนไว้ในความทันสมัยที่มีมากขึ้น รวมถึงอาหารเช้าแบบออลเดย์ไดนิ่งที่ใส่เอาความเป็นตะวันตกผสมไว้กับตะวันออก เบเกอรีฝรั่งเศสสุดคลาสสิก รวมถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ


Acai Bowl อาหารเช้าเพื่อสุขภาพที่เหมาะสำหรับกินเบา ๆ อาซาอิที่ปั่นผสมกับแก้วมังกร กล้วย สตรอว์เบอร์รี และมะพร้าวจนได้ของเหลวเนื้อเนียน ๆ สีอมม่วง ใส่ด้วยผลไม้สดตามฤดูกาลและธัญพืช
Grilled Chicken Wrap แป้งตอติญาห่อไก่ย่าง อะโวคาโด เห็ดหอม ต้นหอม และมายองเนส กินกับซัลซ่ามะม่วงสุกรสสดชื่น


แต่ถ้าอยากกินหนักหน่อย Rice Korean Bowl ก็เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่อิ่มท้องหน่อย ไอเดียมาจากข้าวยำเกาหลีเสิร์ฟพร้อมไก่ซูวีด์กับซอสงา กิมจิ มะม่วงสุก อะโวคาโด และบรอกโคลี
หรือถ้าชอบเส้นเป็น Soba Noodles & Kimchi Bowl เส้นโซบะบัควีท เต้าหู้หมัก กิมจิ อะโวคาโด ราดซอสงา กินกับสลัดผักโขม


เรายังชอบ Detox Juices ที่มีให้เลือก 2 รส Clean Green ที่รวมเอาวัตถุดิบสีเขียวเพื่อสุขภาพเอาไว้ด้วยกันแต่รสไม่เขียว แตงกวา แอปเปิล เคล ขึ้นฉ่าย นอกจากนั้นยังมีขิงและน้ำมะนาว อีกแก้วเป็น Wakey Wakey แครอท ส้ม สับปะรด เลมอน และขมิ้น Bubblicious Afternoon Tea ชุดชายามบ่ายพร้อมเค้ก เบเกอรี ที่เติมได้เรื่อย ๆ มาพร้อมสปาร์กคลิงไวน์

ใครคิดถึงโรงแรมดุสิตธานี แนะนำให้ไปเลย ขนาดเราไปโรงแรมดุสิตธานีไม่บ่อย เรายังรู้สึกว่าพนักงานที่นี่ดูแลเราดีจนเราก็เข้าใจว่าทำไมคาเฟ่อย่าง Dusit Gourmet ถึงแน่นด้วยคนที่เข้าออกตลอดวัน ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ จาก #ห้ามพลาด ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่