#วงในบอกมา
Kurasu และ % Arabica ไม่ได้เริ่มต้นธุรกิจในเมืองเกียวโต แต่กลับสร้างชื่อและโด่งดังในเมืองเกียวโต
Kurasu เริ่มต้นในฐานะร้านขายอุปกรณ์กาแฟออนไลน์ในออสเตรเลีย ก่อนเปิดเป็นร้านกาแฟในแบบคอฟฟี่สแตนด์ในเมืองเกียวโต
% Arabica เริ่มต้นด้วยธุรกิจเครื่องคั่วสัญชาติญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Tornado King Coffee Roaster ในเกาะฮ่องกง แต่เร่ิมต้นเปิดร้านกาแฟแห่งแรกในย่านฮิกาชิยามะ เมืองเกียวโต
กระแสร้านกาแฟสัญชาติญี่ปุ่นเริ่มต้นขึ้นแบบจริงจังก็เมื่อตอนที่ Omotesando Koffee เปิดตัวที่สยามพารากอน พร้อมข่าวลือเรื่องการเปิดตัวของ % Arabica เนื่องจากเว็บไซต์ของแบรนด์ปักหมุด “กรุงเทพฯ” ลงไปบนแผนที่ของร้าน แม้ว่าจะยังไม่ระบุสถานที่และวันเวลาที่จะเปิด แต่คนก็เริ่มสนใจ แต่แล้วก็มีความคืบหน้าอีกครั้งเมื่อแบรนด์ % Arabica โพสต์ Google Map ของสนามบินสุวรรณภูมิว่าพร้อมแล้ว และระบุว่าจะเปิดสาขาแรกที่ ICONSIAM ภายในเดือนมกราคม 2020 แต่ใครจะรู้ได้ว่า Kurasu กลับพร้อมกว่า มาเงียบ ๆ เหมือนเมื่อครั้ง Omotesando Koffee ทำ และชิงลงมือเปิดตัวในเสาร์ที่ 24 สิงหาคมนี้ ภายในโครงการ Bambini Villa ซอยสุขุมวิท 26
เอาล่ะก่อนจะไปดื่มกาแฟของทั้ง 2 แบรนด์ Wongnai จะพาไปทำความรู้จักกันว่าร้านกาแฟทั้ง 2 แห่งจากเมืองเกียวโต เริ่มต้นและโด่งดังกันได้อย่างไร
ร้านกาแฟจากเมืองเกียวโตที่เตรียมเปิดให้บริการให้คาเฟ่ฮอปปิงกันในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ มีจุดเริ่มต้นจากคุณโยโซ โอซึกิ (Yozo Otsuki) นายแบงค์หนุ่มที่ลาออกจากงานแล้วย้ายตามภรรยาที่ต้องไปทำงานที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย นั่นคือจุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ในต่างแดน คุณโยโซค้นพบว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเองก็ไม่ต่างจากคนญี่ปุ่นทั่วไปที่ชอบสิ่งละอันพันละน้อย หรือที่เรียกกันว่า Zakka และสุดท้ายกลายเป็นธุรกิจสินค้าไลฟ์สไตล์ออนไลน์ในชื่อ “Kurasu” เมื่อเดือนมิถุนายน 2013 แน่นอนว่าตัวเขาคือคนญี่ปุ่นจึงนำเอาวัฒนธรรมกาแฟใส่ลงไปในเว็บไซต์ออนไลน์ และนั่นคือการค้นพบว่าสินค้าที่ขายดีที่สุดคือ สินค้าในหมวดของกาแฟ ทำให้เส้นทางธุรกิจของแบรนด์เบนมาสนใจที่สินค้าเกี่ยวกับกาแฟอย่างจริงจังในปี 2015
Kurasu เริ่มนำเข้าสินค้าเกี่ยวกับกาแฟจากญี่ปุ่นมาขายจนกลายเป็นแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์เกี่ยวกับกาแฟที่คอฟฟี่เลิฟเวอร์ส่วนใหญ่รู้จักคุ้นเคย อาทิ เครื่องชง ดริปเปอร์ กา เหยือก แก้วมัค โดยเฉพาะแก้วเซรามิกผลงานของศิลปินญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังนำเอาเมล็ดกาแฟที่คั่วโดยโรสเตอร์ชาวญี่ปุ่นส่งออกให้ทั่วโลกรู้จัก
หลังจากเริ่มเป็นที่รู้จัก คุณโยโซก็เดินทางกลับญี่ปุ่นและเปิด Flagship Store ของ Kurasu ขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2016 ใกล้กับสถานีรถไฟในเมืองเกียวโต โดยเขาเปิดในรูปแบบของคอฟฟี่สแตนด์และโชว์รูมขนาดย่อม จนในปีต่อมาเร่ิมเปิดโรงคั่วของตัวเองในฟูจิมิอินาริใกล้กับตัวเมืองเกียวโต แต่ที่ทำให้แบรนด์นี้น่าจับตามองคือการขยายออกสู่ต่างแดนที่ Kurasu Singapore ซึ่งเป็นความร่วมมือกันกับ Co-Working Space District 6 ใกล้สถานี MRT City Hall โดยนำเอาเมล็ดกาแฟจากโรสเตอร์ทั่วญี่ปุ่นมาให้คนสิงคโปร์ได้ดื่ม อาทิ Trunk Coffee, Glitch Coffee Roasters, Onibus Coffee, Weekenders Coffee และ Taoca The Roaster Coffee
และในโอกาสครบรอบ 3 ปี ของแบรนด์ Kurasu เตรียมเดินหน้าเปิดสาขาในกรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม ภายในโครงการ Bambini Villa ซอยสุขุมวิท 26 ตามที่เฟซบุ๊กแฟนเพจและไอจีของแบรนด์ได้แจ้งไว้ เรียกว่าแซงหน้า % Arabica ที่มีข่าวลือมาตลอดหลายปี และกว่าจะเปิดก็น่าจะภายในเดือนมกราคมปีหน้าโน่นเลย
% Arabica Bangkok
ไหน ๆ ก็เล่าแล้ว เราขอปูถึงแบรนด์ % Arabica ไปด้วยเลยแล้วกัน % Arabica ไม่ต่างจาก Kurasu ที่เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในต่างแดนก่อนกลับไปโด่งดังในเมืองเกียวโต โดยคุณเคนเนท โชจิ (Kenneth Shoji) ตัวแทนจำหน่ายเครื่องชงเอสเพรสโซ่แบรนด์สเลเยอร์ (Slayer) และเจ้าของเครื่องคั่วสัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์ Tornado King Coffee Roaster โดยสร้างสำนักงานใหญ่ของตัวเองเมื่อปี 2013 ในฮ่องกง
แน่นอนว่าด้วยปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของแบรนด์ที่ว่า “See The World, Through Coffee” ทำให้คุณเคนเนทเริ่มสร้าง Flagship Store ของ % Arabica ในปี 2014 ใจกลางเมืองเกียวโตในย่านฮิกาชิยามะ โดยมีคุณจุนนิชิ ยามากูชิ (Junichi Yamaguchi) แชมป์ลาเต้อาร์ตโลกรับหน้าที่เป็น Global Head Barista เพื่อสร้างแบรนด์ให้แข็งก่อนออกสู่ตลาดโลก และที่นี่เองได้สร้างชื่อให้กับแบรนด์ในเวลาอันรวดเร็วผ่านดีไซน์ร้านสีขาวผสมไม้ โดยมีเครื่องชงเอสเพรสโซ่แบรนด์สเลเยอร์ (Slayer) สีขาวที่ดีไซน์เฉพาะของแบรนด์เป็นจุดดึงสายตา ไม่เพียงเท่านั้นการสั่งคั่วกาแฟแบบ Made to Order ยังทำให้แบรนด์ได้ประโยชน์ถึง 2 ทาง ระหว่างนั่งรอกาแฟที่สั่งคั่วใหม่ ๆ ลูกค้าย่อมต้องนั่งดื่มกาแฟรอ
หลังจากนั้น % Arabica ก็ขยาย 2 สาขา ในเมืองเกียวโต คือ % Arabica Arashiyama และ % Arabica Fujii Daimaru ความน่าสนใจคือ % Arabica หยุดขยายตัวเองภายในญี่ปุ่นเพียงเท่านั้น แต่กลับมุ่งหน้าออกสู่โลกกว้างตามที่คุณเคนเนทตั้งใจไว้ “See The World, Through Coffee” โดยเริ่มชิมลางที่ฮ่องกง ซึ่งเคยทำธุรกิจมาก่อนและเป็นการทดลองที่ดี ปัจจุบันมี 5 สาขาในฮ่องกง อาทิ % Arabica Star Ferry, % Arabica IFC Mall, % Arabica Monster Mansion, % Arabica Kennedy Town และสาขาล่าสุด % Arabica Roastery โรงคั่วกลางย่านเซ็นทรัล สาขาเยอะกว่าญี่ปุ่นเสียอีก
ความน่าสนใจของ % Arabica ยังอยู่ที่การเจาะตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ 8 สาขา ยุโรป 3 สาขา และตะวันออกกลางกลายเป็นศูนย์รวมของแบรนด์นี้เนื่องจากเปิดมาถึง 17 สาขา โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และคูเวตที่เปิดประเทศละ 7 สาขา ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดให้บริการเพียง 2 สาขา คือ สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ รวม 11 ประเทศ 39 สาขา (และเชื่อว่าระหว่างคุณอ่านอยู่อาจจะมีสาขาเปิดใหม่ก็เป็นได้) ยังไม่นับรวมแผนการเปิดร้านใหม่ในอีก 7 ประเทศ อาทิ กาตาร์ อินโดนีเซีย สหราชอาณาจักร กัมพูชา ซาอุดิอะราเบีย มาเลเซีย และประเทศไทย
และอย่างที่ทราบกันว่า % Arabica เตรียมตัวเปิดให้บริการในประเทศไทยที่ ICONSIAM ภายในเดือนมกราคมปีหน้า ตามที่เฟซบุ๊กแฟนเพจและไอจีของแบรนด์ได้แจ้งไว้ พร้อมปล่อยภาพดีไซน์ร้านให้คาเฟ่ฮอปปิงตื่นเต้นกันตั้งแต่เนิ่นๆ ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ จาก #ห้ามพลาด ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่