Baltic Blunos อาหารบอลติกที่ใช้วัตถุดิบจากป่าและทะเล
  1. Baltic Blunos อาหารบอลติกที่ใช้วัตถุดิบจากป่าและทะเล

Baltic Blunos อาหารบอลติกที่ใช้วัตถุดิบจากป่าและทะเล

แทบไม่มีใครรู้ว่า เชฟมาร์ติน บลูโนส เชฟหนวดงามแห่งร้าน Blunos เป็นชาวลัตเวียโดยกำเนิด จนเขามาเปิดร้าน Baltic Blunos ร้านอาหารบอลติกที่ใช้วัตถุดิบจากป่าและทะเล
writerProfile
2 มี.ค. 2020 · โดย

#วงในบอกมา

  • Baltic Blunos เป็นร้านอาหารบอลติกแห่งแรก ๆ ในกรุงเทพฯ 

  • เชฟมาร์ติน บลูโนส (Martin Blunos) เป็นชาวลัตเวียโดยกำเนิด แต่ไปเติบโตและใช้ชีวิตในสหราชอาณาจักร สมัยเด็กเขาแทบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่ปัจจุบันเขากลับพูดภาษาลัตเวียไม่ได้เลย 

  • เชฟอเล็กซ์ซานเดอร์นาซิไคลอฟส์(Aleksandrs Nasikailov) เชฟหล่อชาวลัตเวียคือเชฟที่เชฟบลูโนสไว้ใจชวนมาทำอาหารบอลติกที่กลั่นกรองจากประสบการณ์การเดินทางของทั้งคู่ Baltic Blunos เป็นหนึ่งในร้านอาหารของเครือเทอร์เทิล ทเวนตี้ทรี ที่ตั้งใจเปิดขึ้นมาให้เป็นกรุ๊ปของร้านอาหารและเครื่องดื่มที่วางแผนไว้ว่าจะมีร้านอาหารไม่ต่ำกว่า 7 ร้าน ซึ่งร้านอาหารแห่งต่อไปที่กำลังจะเปิดภายในปีนี้เป็นร้านอาหารที่ดูแลโดยเชฟเมียร์โค เคลเลอร์ (Mirco Keller) อดีตเชฟของร้านอาหาร Water Library ที่จะมาทำอาหารที่บอกความเป็นตัวเองที่มากขึ้น  

Baltic Blunos ประดับร้านด้วยภาพศิลปะจากศิลปินแห่งชาติลัตเวีย
Baltic Blunos ประดับร้านด้วยภาพศิลปะจากศิลปินแห่งชาติลัตเวีย

อาหารบอลติกเป็นอย่างไร เชื่อว่าหลายคนอยากถามไปยัง เชฟมาร์ติน บลูโนส (Martin Blunos) และเชฟอเล็กซ์ซานเดอร์นาซิไคลอฟส์(Aleksandrs Nasikailov) สองพ่อครัวของร้านอาหาร Baltic Blunos “เสน่ห์ของอาหารบอลติกอยู่ที่วิธีการปรุงแต่งที่น้อย เน้นชูรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบเป็นหลัก ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำเสนออาหารจากประเทศต้นกำเนิดให้กับคนไทยได้ลิ้มลอง อีกทั้งการได้นำวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย รวมไปถึงรสชาติที่คุ้นเคยมารังสรรค์และผสมผสานให้เข้ากันกับอาหารสไตล์บอลติก ผมมั่นใจมากว่าคนที่ได้มาลิ้มลองจะต้องรู้สึกสนุกไปกับการผสมผสานทางวัฒนธรรมนี้เหมือนอย่างที่ผมรู้สึกสนุกกับมัน” เชฟมาร์ตินอธิบายให้เราฟังคร่าว ๆ ก่อนบอกว่าให้อาหารของเขาเล่าให้เราฟังจะดีกว่า

โซนบาร์ของ Baltic Blunos
โซนบาร์ของ Baltic Blunos

ความน่าสนใจของ Baltic Blunos ไม่ได้อยู่ตรงที่เป็นอาหารบอลติกอย่างไร แต่อยู่ที่ปรัชญาในการทำอาหารของเชฟทั้ง 2 คนมากกว่า เชฟทั้งคู่ใช้วิธีการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศส แต่บอกเล่าผ่านวัตถุดิบจากป่าและทะเล โดยเชฟมาร์ตินบอกว่าประเทศลัตเวียเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศที่เรียกว่า ป่าล้อมทะเล พูดง่าย ๆ คือมีพื้นที่ป่ามากกว่า 80 % และมีพื้นที่ติดทะเลเพียง 20 % ที่นี่เชฟบลูโนสรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโดยมีเชฟอเล็กซ์ซานเดอร์ #เชฟหล่อบอกต่อด้วยเป็นคนสร้างสรรค์อาหารเป็นหลักแน่นอนว่ามันคืออาหารที่เล่าถึงลัตเวียและทะเลบอลติกซึ่งเป็นอาหารที่คนไทยแทบไม่คุ้นเคยแต่เชฟนำเอาวัตถุดิบท้องถิ่นบางอย่างมาเชื่อมโยงให้เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น หรือจะเรียกว่าอาหารโมเดิร์นยูโรเปียนก็คงได้

Foie Gras Ferrero Rocher
Foie Gras Ferrero Rocher
Smoked Salmon Tartare
Smoked Salmon Tartare

Baltic Blunos แบ่งโซนของร้านอาหารและบาร์ออกจากกัน สำหรับโซนร้านอาหาร เชฟมาร์ตินนำเอาภาพงานศิลปะของคุณลุงของเขา ซึ่งเป็นศิลปินแห่งชาติลัตเวีย มาประดับไว้ในร้านอาหาร โดยภาพส่วนใหญ่เป็นภาพแลนด์สเคปของประเทศลัตเวีย และภาพอาหาร โดยมุมหนึ่งเป็นครัวเปิด มุมโคลด์คัต ไวน์รูม และแปลงผักในร่ม แนะนำให้มานั่งบาร์ก่อนไปปล่อยใจไปกับอาหารบอลติกที่ใช้เวลาเสิร์ฟราว 2 ชั่วโมง ผ่านอาหาร 6 และ 8 คอร์ส

Carrots in Soi
Carrots in Soil

Suckling Pig Croquette
Suckling Pig Croquette

Bar Snack ของที่นี่น่าสนใจ มาแบบพอดีคำ แต่ไม่แนะนำให้สั่งเยอะเดี๋ยวจะไม่ได้รื่นรมย์กับอาหารบอลติก “Foie Gras Ferrero Rocher” ช็อกโกแลตสอดไส้ฟัวกราส์และฮาเซลนัท “Smoked Salmon Tartare” แซลมอนทาร์ทาร์กับมูสและไข่ปลาแซลมอน “Carrots in Soil” แป้งกรอบห่อแครอทและไก่จิ้มกับดินกินได้ และ “Suckling Pig Croquette” เนื้อหมูบดกับมัสตาร์ดไอโอลีชุบแป้งทอด 

ต้นไม้สี่ฤดูที่เล่าความเป็นลัตเวีย
ต้นไม้สี่ฤดูที่เล่าความเป็นลัตเวีย

Pearl of Siam
Pearl of Siam

อาหารบอลติกของที่นี่เสิร์ฟคู่กับคอมบูชะทั้งหมด มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะช่วยเรื่องการย่อยได้ดี ที่สำคัญก็แทบไม่มีร้านอาหารใดในกรุงเทพฯ ที่เสิร์ฟคอมบูชะตลอด 6-8 คอร์ส เท่าที่เห็นมีแพริ่งกับชา และน้ำผลไม้ แต่แพริ่งกับคอมบูชะคงต้องบอกว่าเป็นเจ้าแรก ๆ เร่ิมที่อะมุชบุชที่เชฟทำเป็น "ต้นไม้สี่ฤดู" ที่เล่าความเป็นลัตเวียผ่านมูสทรัฟเฟิลกับแป้งกรอบที่มี 3 รส เห็ดพอร์ชินี ลูกหม่อน และสาหร่าย ตามด้วย “Pearl of Siam” น้ำแข็งก้อนกลมบางที่ห่อหุ้มอะมุชบุชที่เชฟทำคล้ายเมี่ยงคำเอาไว้ ใบชะพลู ดอกบัว อะโวคาโด และเนื้อปู นอกจากนั้นยังมีขนมปังซาวร์โดว์ที่ใช้น้ำมะพร้าวทำเป็นขนมปังซาวร์โดว์แบบไทย ๆ

Sea Urchin
Sea Urchin

Moon Flower
Moon Flower

ก่อนเริ่มคอร์สแรกต้องบอกว่าภาชนะของที่นี่ดูแปลกตาเพราะเป็นแฮนด์เมดที่เชฟดีไซน์และสั่งทำมาพิเศษเพื่ออาหารจานนั้นโดยเฉพาะ “Sea Urchin” มาในจานที่ดีไซน์เหมือนเปลือกหอยเม่นที่บรรจุคอนซอมเม่เย็น ๆ หอยเม่น กิ่งซัฟฟรานดอง (Sapane Tree) และฟองน้ำมะกรูด จานนี้ให้รสเปรี้ยวสดชื่นกับความครีมมีของหอยเม่น “Moon Flower” ดอกชมจันทร์ของไทยกลายเป็นอาหารบอลติกด้วยการสอดไส้ครีมชีสที่ทำจากเม็ดกระบกพูเร ราดด้วยซอสที่คล้ายกับต้มข่า แพริ่งกับคอมบูชะน้ำกระเจี๊ยบ

Mackerel
Mackerel

Cold Smoked Salmon
Cold Smoked Salmon

“Mackerel” จะเรียกว่าปลาแมคเคอเรลทูเวย์ก็คงได้ เชฟนำเอาปลามาปรุง 2 แบบ ปลาที่เป็นตัว ด้านหนึ่งดอง อีกด้านเผาให้เป็นคาราเมลกินกับฮอร์สแรดิชที่คนลัตเวียใช้ชูรสแบบวาซาบิญี่ปุ่น อีกส่วนทำเป็นปลารมควันกับซาวร์ครีมในพ็อกเก็ตชาร์โคล “Cold Smoked Salmon” จานนี้ดูผิวเผินเป็นแซลมอนรมควันเย็น แต่องค์ประกอบบอกเลยว่าดีและเก๋ เราสัมผัสได้ถึงความไทยที่เชฟแอบใส่เข้ามา อาทิ กระเจี๊ยบ และกุ้งแห้ง แต่ได้รสอย่างฝรั่งจากเจลมะนาว

Foie Gras
Foie Gras

Bisque
Bisque

“Foie Gras” พาสต้าทอร์เทลลินีสอดไส้เห็ดเผาะไทย เห็ดเผาะดอง โฟมทรัฟเฟิล และซอส Birch Sap’ ซอสของลัตเวียที่คล้ายกับบัลซามิกวินีการ์ “Bisque” กุ้งนึ่งน้ำสมุนไพรร้อนๆ จนสุก กินกับซุปบิสท์ครีมมันของมันหัวกุ้ง แพริ่งกับคอมบูชะตะไคร้และข่า

Black Chicken
Black Chicken

Coconut Malibu
Coconut Malibu

มาที่จานที่ดีที่สุดของมื้อนี้ "Black Chicken" เพียงรูปลักษณ์ก็ต้องบอกว่าเชฟกล้ามาก จานนี้ทำไก่ออกมา 3 รสสัมผัส เนื้ออกไก่ น่องไก่ และเครื่องในไก่ ให้รสสัมผัส 3 แบบ ราดซอสแกงกะหรี่ที่เข้ากันดี กินกับพูเรแก่นตะวัน และหนังไก่ทอด แพริ่งกับคอมบูชะน้ำอัญชัน

Coconut
Coconut

เชฟมาร์ติน บลูโนส (Martin Blunos) และเชฟอเล็กซ์ซานเดอร์ นาซิไคลอฟส์ (Aleksandrs Nasikailov)
เชฟมาร์ติน บลูโนส (Martin Blunos) และเชฟอเล็กซ์ซานเดอร์ นาซิไคลอฟส์ (Aleksandrs Nasikailov) 

คั่นด้วยของหวานล้างปาก “Coconut Malibu” ต่อด้วย “Coconut” ไอศกรีมมะพร้าวที่นำไปคารามาไลซ์ มะพร้าวคั่ว เจลลีมะพร้าว และครีมมะพร้าว แพริ่งกับคอมบูชะไม้ชิโครี ก่อนตบท้ายด้วย “Bon Bon Chocolate” ช็อกโกแลตสอดไส้รสต่าง ๆ กินแล้วชอบรสไหนสามารถซื้อกลับบ้านได้

Bon Bon Chocolate
Bon Bon Chocolate

หลังจากที่เชฟมาร์ติน และเชฟอเล็กซ์ซานเดอร์พาเราเที่ยวลัตเวียนผ่านจานอาหารแล้วต้องบอกว่าเราเข้าใจเทคนิควิธีการของอาหารบอลติกในระดับหนึ่งจะว่าไปก็คล้ายกับทางสแกนดิเนเวียแต่รุ่มรวยวัตถุดิบมากกว่าและไม่ต้องเผชิญกับอากาศหนาวเย็นที่ยาวนานเท่านอกจากนี้การดื่มคอมบูชะเพื่อย่อยก็ดูเหมือนเป็นสิ่งที่คนแถบนั้นให้ความสำคัญเมื่อถามว่าอาหารบอลติกถูกปากไหมเราก็คงต้องบอกว่าถูกปากเพราะเชฟอินสปายวัตถุดิบไทยเข้าไปให้เราเข้าใจง่ายขึ้นแต่ถ้าอาหารบอลติกดั้งเดิมเลยเราเองก็ยังไม่แน่ใจแต่ไปเถอะดีมาก

ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ จาก #ห้ามพลาด ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่ 

เมนูห้ามพลาด

Sea Urchin, Moon Flower, Black Chicken

แผนที่

static-map

การติดต่อ

restaurantClosed
Baltic Blunos
131, ซอยทองหล่อ 11, คลองตันเหนือ, กรุงเทพมหานคร, 10110, ประเทศไทย,วัฒนา