#วงในบอกมา
- ทางร้านได้รับผลกระทบจากการสั่งปิดร้านจากโควิด-19 ในรอบแรกส่งผลให้ร้านต้องแบกรับหนี้สินจำนวนมาก จากยอดขายวันละ 50,000 สู่การขายได้เพียงวันละ 59 บาทเท่านั้น ร้านจึงพยายามสู้สุดทางเพื่อที่จะลบล้างหนี้ในช่วงที่ผ่านมาเพื่อรักษาปากท้องคนในครอบครัวและลูกน้องไว้
- ทันทีที่มีข่าวเกิดการระบาดของโรค โควิด-19 รอบสอง ร้าน “โกดังชาบู” ก็ประกาศจุดยืนว่าจะไม่ปิดร้านตามมาตราการใด ๆ เพราะร้านได้รับผลกระทบจากรอบแรกมามากพอสมควรแล้ว
- การประกาศกร้าวจากร้านโกดังชาบูจึงถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการอื่น ๆ กล้าที่จะเรียกร้องสิทธิ์ของตนเอง ภายในข้ามคืน จากสเตตัสดังกล่าวที่มีผู้ส่งต่อกันถึง 25,000 แชร์เลยทีเดียว
- โกดังชาบูคือร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู-หมูกระทะ ท่านละ 149 บาทเท่านั้น รวมรีฟิลน้ำแล้ว เปิดตั้งแต่เวลา 16.00-05.00 น.

นับเป็นเวลากว่า 5 เดือน ที่เราหลาย ๆ คนต้องสูญเสีย และเจ็บปวดกับการเกิดโรคระบาด โควิด-19 จากแผลเล็ก ๆ เริ่มลามไปถึงการปิดกิจการ ชีวิตลูกน้องที่ต้องแบกรับหนี้สินและดูแลครอบครัว มีคนจำนวนไม่น้อยถอดใจจนยอมจบชีวิตตัวเองลงก่อนจะรอให้โรคนั้นมาคร่าชีวิตไป แต่บนความเจ็บปวดนั้น ก็เริ่มมีแสงสว่างเล็ก ๆ บอกว่า เราทำได้ ยอดผู้ติดเชื้อกลายเป็น 0 กว่า 50 วัน ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ร้านเริ่มฟื้นฟูอีกครั้ง หลาย ๆ คนยอมควักเงินก้อนสุดท้ายมาเสี่ยงเพื่อหวังจะต่อชีวิตลมหายใจให้ร้านและพนักงาน สถานที่ท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมายิ้มอีกครั้งเตรียมรับผู้คนในช่วงหยุดยาว

แต่ทุกอย่างไม่สวยงามแบบที่เราคิดไว้นัก เพียงชั่วข้ามคืนที่มีข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพ ฯ และระยอง การประกาศครั้งนี้สร้างความเจ็บปวดให้หลาย ๆ คนอย่างทั่วหน้า น้ำตาแห่งความผิดหวัง เสียใจ และไม่รู้ว่าชีวิตจะเอายังไงต่อ ไหลออกมาจากทั่วจังหวัดระยองและกรุงเทพ ฯ มันคือคืนที่ยากสำหรับหลาย ๆ คนอีกครั้ง โดยเฉพาะร้านอาหารที่กำลังพยายามสู้เฮือกสุดท้านอย่าง “โกดังชาบู” ร้านชาบูที่ต้องหยุดยาว เพราะมาตรการห้ามนั่งกินที่ร้าน ช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ช่วงที่ง่ายของใครเลย เพราะรายได้หยุด แต่รายจ่ายไม่เคยหยุดตาม หนี้สินมากมายที่ติดตามและชีวิตครอบครัว พนักงาน ที่ลำบากกันมาอย่างยาวนาน

ความอัดอั้นตันใจนี้ทำให้ “คุณพยุหะ ลลิตพงค์พาณิช” หรือ “คุณตึ๋ง” เจ้าของร้าน โกดังชาบู ตัดสินใจประกาศจุดยืนที่หนักแน่นผ่านสเตตัสบนเฟซบุ๊กร้าน ซึ่งแม้จะแลกกับความเสี่ยงอันตราย แต่เมื่อสิ่งที่เจอนั้นยากและมีผลกับคนร่วมสิบชีวิต การสู้หัวชนฝาอาจเป็นทางเดียวที่ทำให้ทุกชีวิตรอดในช่วงเวลาอันเลวร้ายนี้

“คือเราวิกฤตมากแล้วจริง ๆ เราไม่เคยเป็นหนี้เลย เมื่อก่อนขายได้วันละ 30,000 - 50,000 บาท แต่พอรัฐสั่งปิดปุ๊ป ของสดที่เราเตรียมไว้ต้องทิ้งหมด และสถานการณ์ก็ค่อย ๆ แย่ลงเรื่อย ๆ มีวันหนึ่งเราขายได้แค่ 59 บาทเอง จนหนี้สินเรามากขึ้นเรื่อย ๆ จนประกาศคลายล็อกดาวน์เอาจริง ๆ เราก็ยังไม่ฟื้นนะ แค่เรามีทางต้องไปต่อ ก็ต้องไปให้ถึงที่สุด จนมาเจอข่าวจะสั่งล็อกดาวน์ครั้งที่ 2 คือถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราตายแน่ ๆ เราไม่เหลืออะไรจะเสียแล้วจริง ๆ เราเลยโพสต์สเตตัสเพื่อบอกลูกค้าเพื่อยืนยันว่า “กูไม่ปิด” ยังไงเราก็จะเปิดต่อไป เพราะผมกลัวครอบครัวต้องอดตายก่อนติดโรคระบาดตายมากกว่า”

หลายต่อหลายครั้งความกลัวไม่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงใด ๆ มีแต่รั้งให้ทุกอย่างดิ่งลงไป และเชื่อเถอะว่า เสียงเล็ก ๆ ที่หนักแน่นหนึ่งเสียงปราศจากความกลัว มีเพียงการสู้อย่างเด็ดเดี่ยว ส่งให้หลาย ๆ คน กล้าที่จะออกมาสู้ทั้งเพื่อตัวเองและคนที่เรารัก
“เราเป็นคนสู้มาตั้งแต่เด็ก กว่าจะเปิดร้านนี้มาก็ไม่ง่าย เราผ่านความกลัวมามากพอแล้ว และเราเรียนรู้ว่าความกลัวไม่ได้ช่วยอะไรเลย เราทุกคนมีสิทธิ์พูด มีสิทธิ์เอาชีวิตรอด มีสิทธิ์มีชีวิตที่ดี เราไม่คาดหวังว่าเสียงของเราจะดังขนาดนั้น เราขอแค่มีคนฟังสักคนก็ยังดี ผมไม่เหลืออะไรจะเสียไปมากกว่าที่ผ่านมาแล้ว พอเราพูดออกไป เสียงของเราก็กลายเป็นกำลังใจให้หลาย ๆ คน เป็นตัวอย่างให้หลาย ๆ คนต้องสู้ สู้เพื่อตัวเองจะมีชีวิตแบบที่ควรจะเป็น”

ต้องบอกก่อนเลยว่า ชาบูและหมูกระทะของที่ร้านมีราคาย่อมเยามาก ทางร้านเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู-หมูกระทะ ท่านละ 149 บาทเท่านั้น รวมรีฟิลน้ำแล้ว เปิดตั้งแต่ 16.00-05.00 น. หรือใครสายเนื้อทางร้านก็มีบุฟเฟ่ต์แบบ 249 บาท เพิ่มความจุใจด้วยเมนู เนื้อลิบอาย น่องลาย สันคอหมูสไลด์ไปจนถึงกุ้งกุลา และอาหารตามสั่งนานาชนิด สั่งได้แบบไม่คิดเงินเพิ่มเลยนะเออ


ใครอยากแวะมาอุดหนุนที่ร้านก็สามารถแวะไปได้ที่ ปากซอยวุฒากาศ 6 โดยนอกจากหมูกระทะ ชาบู ยังมีอาหารตามสั่ง ส้มตำ และเมนูอื่น ๆ อีกเพียบ สามารถสั่ง LINE MAN ได้ ที่นี่โทรสำรองที่นั่งได้ที่ 084-699-7899, 086-389-5486
ติดตามบทความน่าสนใจได้ที่