
#วงในบอกมา
- ทางร้านจะไม่มีพริกน้ำปลาให้กินกับข้าว แต่จะมีพริกเหลืองดองที่วางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งเป็นสูตรของทางร้านที่ตกทอดมา
- นอกจากกลิ่นหอมของเตาถ่านแล้ว ยังมีสูตรเด็ดคือ ทางร้านจะใช้ข้าวเสาไห้หุงมาผัดกับเต้าเจี้ยวแล้วพักไว้ให้เย็นก่อนนำมาผัดอีกครั้ง ทำให้ได้รสชาติไม่เหมือนใคร
- ใครชอบกินอาหารตามสั่งแบบจีนโบราณ วัตถุดิบดี รสชาติเฉพาะตัว สามารถสั่งได้ ที่นี่

หากมาถึงย่านตรอกจันทน์ และถามถึงร้านที่เก่าแก่และเป็นตำนาน ทุกคนในย่านล้วนลงเสียงให้กับร้าน เส็งโภชนา ร้านที่ร้อนแรงด้วยประกายไปอันโชติช่วงของเตาถ่าน อาหารส่งกลิ่นหอมเย้ายวนให้ใครที่ผ่านเป็นต้องแวะ แต่ในวันนี้เหมือนกับว่าไฟอันโชติช่วงนั้นริบรี่ลงเต็มที วันนี้เราเจอ “คุณสุรีรัตน์ ศรีสาน” หรือ “พี่อำไพร” อีกครั้ง และครั้งนี้ความรู้สึกช่างแตกต่างกับทุกครั้งอย่างชัดเจน

“ตอนที่รัฐฯ ประกาศหยุดให้ลูกค้าเข้ามานั่งกินในร้าน วันรุ่งขึ้นยอดขายเราตกลงทันที คือบางคนเขาแวะมาทำธุระ ไม่สะดวกเอาไปกินที่บ้าน เราเสียยอดตรงนั้นเลย และเราไม่มีทางเลือกไหนเลย มีแต่คำสั่งให้เราทำ และเราเข้าใจทั้งหมด แต่เราแค่เคว้งว่า เราต้องเอาตัวรอดยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้” พี่อำไพรกล่าว
จากร้านที่มีผู้คนแวะเวียนมาไม่ขาดสาย เหลือเพียงบรรยากาศที่ว่างเปล่า ไม่ต่างกับแววตาของพี่อำไพรที่ต้องต่อสู้ไปในวิกฤตนี้เพียงลำพัง
“หนูเคยมาร้านนี้แล้วเห็นป้าว่างไหมละ” พี่อำไพรกล่าวติดตลก

“ป้าว่างจนถามตัวเองว่า เฮ้ย จริงหรอ จะไม่มีลูกค้าแวะเข้ามาเลยหรอ ร้านเราขายมาตั้งหลายสิบปี จะมาจบเอาตอนนี้จริง ๆ หรอ ทุกวันนี้เราขายแค่กับคนรู้จักจริง ๆ คือร้านเราก็เงียบมานานแล้ว เราเคยคิดว่ามันคงถึงจุดอิ่มของร้านคงไม่แย่ไปกว่านั้นแล้ว แต่พอเจอวิกฤตครั้งนี้ มันแย่ลงไปจนเราคาดไม่ถึงเลย แต่จะให้ปิดพี่คงไม่ทำ เพราะอย่างน้อยการทำร้านนี้ก็ทำให้พี่ได้รู้ว่าตัวเองยังมีเรื่องให้สู้ มีเรื่องให้ทำในตอนแก่ ถ้าเฮียยังอยู่เฮียก็คงบอกให้เราสู้นั้นแหละ”

ทุกครั้งที่เรามาร้าน เราจะเจอพี่อำไพที่ถึงแม้จะเหนื่อยล้า แต่แววตาชั่งเต็มไปด้วยความสุข และความสนุก แต่ครั้งนี้เราเห็นถึงความเหนื่อยล้าทางใจที่เราได้แต่นึกว่าคนแข็งแกร่งอย่างพี่อำไพร ต้องเจออะไรถึงเหนื่อยได้แบบนี้ ลึก ๆ เราก็แอบกลัวว่าร้านนี้จะเป็นอีกร้านที่หายไป
“ถามว่าปิดไหม เราบอกไม่ได้ คือมันไม่มีวี่แววว่ายอดขายเราจะดีขึ้นเลย สามีเราอยากให้เราสานต่อร้านนี้ให้ได้นานที่สุด เราไม่รู้ว่านานที่สุดของเราได้นานแค่ไหน เพราะเราพูดตรง ๆ ว่าตอนนี้ร้านเราขายไม่ได้จริง ๆ แต่หนึ่งสิ่งที่เรียนรู้ตอนเจอปัญหาแบบนี้คือเราได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำหลายอย่างอยู่นะ เช่นพูดคุยกับหนูแบบไม่ต้องรีบแบบนี้ไง” พี่อำไพรกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่เราไม่ได้เห็นมานานมากแล้

“ขอบใจที่มาหากันนะ ค่อยชื่นใจหน่อย มีลูกค้าให้นั่งคุยบ้าง” ป้าอำไพรกล่าวพร้อมลุกไปที่เตา
ภาพที่เราคุ้นเคยดี พี่อำไพรเติมถ่านอย่างดี จุดเตาถ่านให้ร้อนแรง เตรียมกระทะให้ร้อน นำข้าวผัดสูตรลับของทางร้านมาผัดอีกครั้ง “ข้าวผัด” (50 บาท) ของทางร้านจะมีกลิ่นหอมของกระทะเป็นเม็ดร่วนซุย หากสั่งเป็น “ข้าวผัดกุ้ง” (120 บาท) ไม่ต้องตกใจราคาไป เพราะย้ำว่ากุ้งของทางร้านตัวใหญ่ สดใหม่ ได้เนื้อเต็ม ๆ เนื้อหวานกรอบ เข้ากับรสชาติผัดจีน รสชาติอ่อน ๆ หอมกระทะ



ส่วน “ราดหน้า” (50 บาท) ที่ร้านจะคัดเอาแต่ยอดยอดตัดใบใหญ่ทิ้ง น้ำราดมีรสชาติของเต้าเจี้ยวหมักสูตรพิเศษที่มีกลิ่นโดดเด่นขึ้นจมูก เส้นใหญ่หอมกลิ่นกระทะ สไตล์จีน


หากร้านนี้ยังคงมีรสชาติที่ติดตรึงใจ แต่เราเผลอหลงลืมไปก็อย่าลืมแวะไปซื้อเพื่อส่งกำลังใจให้พี่อำไพรสู้ต่อไปอย่างไม่โดดเดียว นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเดลิเวอรีได้ ที่นี่ ช่วยกันรักษาร้านดี ๆ ให้อยู่กับเราไปนาน ๆ
ติดตามบทความน่าสนใจได้ที่




