แก ๆ ไปเที่ยวลาดกระบังกัน! สงสัยกันไหมว่าแถวลาดกระบังเนี่ยมีอะไรให้เที่ยวบ้าง เอ๊ะ! มีแต่มหา’ลัยหรือเปล่า? จะมีร้านอะไรเด็ด ๆ บ้างไหมนะ เอาละ วันนี้ออกไปตะลุย เที่ยวลาดกระบังงบ 500! เที่ยวย้อนรอย เดินเล่นตลาดเก่า ชมวิถีชาวบ้านกัน บอกเลยว่าลาดกระบังเนี่ยไม่ธรรมดากำเงินเพียงแค่ 500 บาทก็เที่ยวได้แล้ว อย่ารอช้าเตรียมตัวให้พร้อมแล้วออกเดินทางกันเลย!
ไก่ย่างหนังกรอบป้าแก้ว
เริ่มต้นทริปขอเติมพลังกันก่อนดีกว่า เพราะหนทางวันนี้ยังอีกยาวไกล ร้านเด็ดที่หากมาเที่ยวลาดกระบังแล้วไม่มา บอกเลยว่าเหมือนมาไม่ถึง กับร้าน “ไก่ย่างหนังกรอบป้าแก้ว” ไม่บอกก็รู้ว่าเมนูอะไรเด็ด ถ้ามาแล้วต้องสั่งนั่นก็คือเมนู “ไก่ย่างหนังกรอบ” (70 บาท) ไก่ที่ย่างมาสุกกำลังดี และหนังไก่กรอบสนั่น ห้ามพลาดเลยเมนูนี้ จะต้องสั่งมากินคู่กับ “เกาเหลาปูม้าปลาร้า” (130 บาท) ปูม้าสดมากผสมกับน้ำปลาร้าที่นัวสุด ๆ บอกเลยว่าเด็ดมาก และต้องตบท้ายด้วย "วุ้นมะพร้าว" (25 บาท) ของหวานสูตรเด็ดจากทางร้านกินแล้วละลายในปากเลย รสชาติอาหารที่ร้านแซ่บสุด ๆ ไปเลย และราคาดีมากไม่แพงเลยละ



ตลาดหัวตะเข้
เอาละ ทริปตามหาที่เที่ยวลาดกระบังของเรากำลังเริ่มขึ้นแล้ว สถานที่แรกที่เราจะไปกันนั่นก็คือ “ตลาดหัวตะเข้” ที่นี่เป็นชุมชนตลาดเก่าที่มีมานานกว่า 100 ปี ที่อยู่ริมคลองประเวศบุรีรมย์ ภายในตลาดก็จะมีทั้งของขาย ของกินโบราณ ร้านขายงานอาร์ต หรือจะเป็นเวิร์คช็อปงานคราฟต์นั้นก็มี แถมรอบ ๆ ชุมชนก็ยังมีสตรีทอาร์ตให้ได้ถ่ายรูปเล่นอีกด้วย


ร้านกลิ่นฝัน
เดินเล่นในตลาดไปเรื่อย ๆ สายตาก็มาชวนหยุดอยู่ที่ร้านนี้เลย “ร้านกลิ่นฝัน” ร้านกาแฟออร์แกนิก ที่ใช้วัตถุดิบแบบใส่ใจสุขภาพของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามา แต่ทางร้านสงวนสิทธิ์ให้กินที่ร้านเท่านั้นนะ เพราะทางร้านนั้นพยายามที่จะช่วยโลกของเราลดพลาสติกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเพื่อน ๆ แวะมาที่ตลาดหัวตะเข้ก็แวะเข้ามานั่งจิบกาแฟคุยกับพี่เจ้าของร้านที่ชื่อพี่โอ๊ค มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และพูดคุยกัน บอกเลยว่าพี่เค้าเป็นกันเองและยังให้ความรู้เกี่ยวกับชุมชนได้อย่างดีเลยอีกด้วย และที่สำคัญที่นี่ยังมีบริการจักรยานให้เช่าปั่นรอบชุมชน ให้เพื่อน ๆ ได้ไปชมวิถีชาวบ้าน ค่าบริการเช่าอยู่ที่ 100 บาท/คัน หากเพื่อน ๆ เก็บขยะกลับมาจะได้ลดราคาเหลือเพียง 50 บาท/คันเท่านั้น!



ร้าน ณ ลาดกระบัง
ยังคงเดินเล่นอยู่ในตลาดหัวตะเข้ เดินถัดมาเรื่อย ๆ อีกหน่อยก็จะสะดุดตากับร้านคาเฟ่ริมน้ำอย่างร้าน “ณ ลาดกระบัง” ร้านคาเฟ่สองฝั่งตลาดริมน้ำ ที่ไว้ให้เพื่อน ๆ ได้มานั่งพักกายมองสายน้ำไหลผ่าน บอกเลยว่าชิลมาก! เมนูของทางร้านก็จะเป็นเครื่องดื่มและขนมกินเล่น วันนี้เราสั่งเป็นน้ำ “เสาวรสโซดา” (55 บาท) รสชาติเปรี้ยวของเสาวรสและความโซดาทำให้ตื่นจนสร่างจากอากาศร้อน ๆ เลยละ แถมสั่งมากินคู่กับ “ปังเย็นนมชมพู” (65 บาท) บอกเลยว่าเย็นชื่นใจ มีแรงเดินเล่นต่อเลย


พายเรือคายักเก็บขยะ
ระหว่างทางเดินกลับแอบเห็นเรือคายักตรงร้าน “ฮั่วฮง คายัค คลับ” จนต้องเข้าไปสอบถามจนรู้ว่า ที่นี่มีบริการให้เช่าเรือคายักให้พายเล่นริมคลอง ราคา 350 บาท/ชม. แต่มีข้อแลกเปลี่ยนที่สำคัญนั่นก็คือ หากเพื่อนลงพายเรือและเก็บขยะมาให้ไม่เกิน 10 ชิ้น จะได้ลดราคาเหลือ 250 บาท แต่ถ้าเกิน 10 ชิ้นขึ้นไป ลดเหลือเพียง 100 บาทเท่านั้น บอกเลยว่าเป็นการเที่ยวที่ได้ประโยชน์ต่อเราและชุมชนจริง ๆ ตอนที่ลงไปพายบอกเลยว่าหาขยะได้ยากมาก เพราะคลองที่นี่สะอาดจริง ๆ แทบจะไม่มีขยะเลย สะอาดมองแล้วสบายตาเลยจริง ๆ ละ


ตลาดนัดสุวรรณภูมิ
หลังจากที่ทำกิจกรรมกันมาทั้งวันแล้ว ร่างกายก็เรียกร้องหาของกินเข้าแล้ว เรามาเดินเล่นกันต่อที่ “ตลาดนัดสุวรรณภูมิ” ที่เที่ยวลาดกระบังยอดฮิตที่คนย่านนี้ต้องรู้จักแน่นอน ตลาดนัดที่มีทุกวัน เปิดตั้งแต่เวลา 16:00-21:30 น.ที่นี่ก็จะมีขายตั้งแต่ของกินเล่น ยันอาหารมื้อหนัก วัตถุดิบอาหาร หรือจะเสื้อผ้าทั้งมือ 1 มือ 2 ของใช้จิปาถะทั้งหลายมีหมดเลย บอกเลยว่ามาเดินตอนเย็น ๆ หน่อยจะชิลมาก ๆ แนะนำว่ากำเงินมาเยอะ ๆ เพราะของกินที่นี่เยอะมาก!



จบวันเป็นที่เรียบร้อยกับ เที่ยวลาดกระบัง 1 วัน! เที่ยวย้อนรอย เดินเล่นตลาดเก่า ชมวิถีชาวบ้าน บอกเลยว่าที่เที่ยว ที่กินลาดกระบัง ยังมีอีกเยอะเลยละ แนะนำว่าให้เพื่อน ๆ ลองมาเที่ยวลาดกระบังกันดู แต่ถ้าหากยังไม่จุใจ อยากจะหาที่เที่ยวกรุงเทพฯเพิ่มเติม ก็ตามไปดูกันได้ที่ เที่ยวกรุงเทพฯงบหลักร้อย สนามหลวง 2 - ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต ของเด็ดฝั่งธน หากเพื่อน ๆ มีที่เที่ยวกรุงเทพฯ ที่ไหนเด็ด ๆ ก็มาแชร์กับเราได้ผ่าน Wongnai Travel หรือจะเข้าไปดูเพื่ออัปเดตสถานที่เที่ยวใหม่ ๆ จะได้ไม่ตกเทรนด์กัน!
ติดตามบทความที่เที่ยวกรุงเทพฯ ได้ที่นี่