เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ การเดินทางไปยังไง ค่าใช้จ่าย พักที่ไหน? ครบ!
  1. เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ การเดินทางไปยังไง ค่าใช้จ่าย พักที่ไหน? ครบ!

เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ การเดินทางไปยังไง ค่าใช้จ่าย พักที่ไหน? ครบ!

ไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ การเดินทาง ค่าใช้จ่าย พักผ่อนบนหาดทราย เล่นน้ำใส ดำน้ำตื้นชมความสวยงามโลกใต้ทะเล รับรองทริปนี้ไม่มีหลง ทั้งกิน เที่ยว และที่พัก มีครบ
writerProfile
21 ส.ค. 2023 · โดย

เที่ยวทะเลที่ไหนดี? เชื่อว่าคำตอบต้องมี “เกาะหลีเป๊ะ” เป็นหนึ่งในตัวเลือกแน่นอน เพราะที่เที่ยวสตูลแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของหาดทรายขาวและน้ำทะเลสวย จนกลายเป็นที่เที่ยวทะเลในฝันของหลายคน แต่จะเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะยังไงดี? ใครยังไม่มีไอเดียก็ตามลายแทง เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ กิน เที่ยว พักที่ไหน? จัดมาให้ครบ! อ่านจบเก็บกระเป๋าไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะได้เลย

ตั้งแต่ Covid-19 ระบาด เกาะหลีเป๊ะได้ปิดไปนาน จนเพิ่งกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เมื่อ 15 ต.ค. 2564 ที่ผ่าน ซึ่งตรงกับช่วงไฮซีซั่นของเกาะหลีเป๊ะพอดี ที่จะเริ่มตั้งแต่ 15 ต.ค. - 15 เดือน พ.ค. ของปีถัดไป แต่เนื่องจากยังเป็นช่วงที่ยังมีการระบาดของ Covid-19 ใครที่จะไปท่องเที่ยวผ่อนคลายหลีเป๊ะ ต้องมีเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่งใน 5 ข้อดังนี้

  1. มีใบแสดงผลการได้รับวัคซีน ไม่น้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทาง - Sinovac 2 เข็ม- Sinopharm 2 เข็ม- Sinovac + AstraZeneca 2 เข็ม- Moderna หรือ Pfizer หรือ J&J หรือ AstraZeneca 1 เข็ม
  2. มีใบรับรองแพทย์ ว่าเป็นผู้ติดเชื้อ Covid19 มาแล้วไม่เกิน 90 วัน
  3. มีใบแสดงผลการตรวจ ด้วย PT- PCR ที่ออกให้ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง
  4. มีใบตรวจ ATK ผลเป็นลบ หรือไม่พบเชื้อ Covid19 ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง
  5. มีเอกสารยืนยันการกักตัวครบ 14 วัน และเดินทางมาเกาะภายใน 72 ชั่วโมง

สำหรับใครที่ต้องการไปเที่ยวหลีเป๊ะ เพื่อให้ได้ดื่มด่ำบรรยากาศน้ำทะเลใส ๆ หาดทรายสวย ควรมีเวลา 3 วัน 2 คืน แต่ถ้าจะดำน้ำด้วยเพื่อไม่ให้เหนื่อยมาก 4 วัน 3 คืน จะได้เต็มอิ่มกับความงามของเกาะหลีเป๊ะ เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมเอกสารกันพร้อมแล้ว ออกเดินทางไปหลีเป๊ะกันเลย

จุดำน้ำและภาพบรรยากาศการดำน้ำของเกาะหลีเป๊ะ
ปะการังที่เกาะหลีเป๊ะ เป็นอันอะไรที่สวยปังจริง ๆ 

การเดินทางเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

จากกรุงเทพฯเดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะยังไงดี? วิธีที่สะดวกและประหยัดเวลาที่สุดคือ เครื่องบิน มีหลายสายการบิน เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ นกแอร์ แอร์เอเชีย และ ไทยไลอ้อนแอร์ โดยมาลงที่สนามบินหาดใหญ่ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงนิด ๆ จากนั้นต่อรถตู้ไปยังท่าเทียบเรือปากบารา จ.สตูล อีก 2 ชั่วโมง ค่ารถเริ่มต้น 250 บาท หรือบางบริษัทจะขายแบบรวมทั้งตั๋วรถตู้และเรือสปีดโบ๊ตไปด้วย ตรงนี้ก็สะดวกและคุ้มค่าสุด ๆ หรือใครอยากเดินทางแบบลุย ๆ ชิล ๆ ก็สามารถเลือกนั่งรถไฟก็ได้นะ ส่วนจะเที่ยวไหนอย่างไรก็ ไปดูกันได้เลย~

  • เครื่องบิน เดินทางไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะด้วยเครื่องบินควรเลือกจองเที่ยวบินที่มาถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 13.00 น. เพื่อให้ทันเรือสปีดโบ๊ตรอบสุดท้ายตอนเวลา 15.30 น. และเที่ยวบินกลับหลังเวลา 19.30 น. จะได้ไม่รีบร้อนเดินทางและกังวลว่าจะตกเครื่อง
  • รถไฟ สายชิลจะนั่งรถไฟสายกรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ ก็ได้เหมือนกัน สามารถเลือกขึ้นขบวน 171, 31, 37 และ 45 ค่าโดยสารราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 259-1,794 บาท ซึ่งสามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้ง่าย ๆ เลยจ้า เมื่อถึงชุมทางหาดใหญ่ก็ต่อรถมอเตอร์ไซค์ ราคา 80 บาท ไปที่คิวรถตู้ตลาดเกษตร แล้วนั่งรถตู้ไปท่าเทียบเรือปากบาราอีก 2 ชั่วโมง ราคา 120 บาท รถออกตั้งแต่ 06.00-19.00 น.
รถไฟกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ เดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ
นั่งรถไฟไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ชิลสุด ๆ 
  • รถทัวร์ สามารถขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เส้นทางกรุงเทพฯ-สตูล มาลงที่จุดจอดรถอำเภอ ละงู ซึ่งเที่ยวรถขาไปของ บขส. จะมี 3 เวลาคือ 07.00 น. ,17.30 น. และ 18.30 น. ค่ารถเริ่มต้นที่ 700 บาท และหลังจากลงรถทัวร์ตรงจุดจอดรถอำเภอละงู ก็ต่อรถสองแถวสีส้มไปท่าเทียบเรือปากบารา ค่ารถ 25 บาท หรือใครไม่อยากยืนรอรถสองแถวก็เหมารถมอเตอร์ไซค์ราคาประมาณ 80-100 บาท 
  • รถส่วนตัว สำหรับเส้นทางจากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา สตูล และเมื่อถึงสามแยกฉลุง เลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง ฉลุง-ละงู ผ่านอำเภอท่าแพ เข้าสู่ตัวเมืองอำเภอละงู แล้วขับไปท่าเทียบเรือปากบาราได้เลย ใครที่เลือกวิธีการเดินทางนี้แนะนำให้ค่อย ๆ ไป อย่าหักโหมกันนะจ๊ะ

เมื่อมาถึง "ท่าเทียบเรือปากบารา" สามารถซื้อตั๋วเรือสปีดโบ๊ทจากบริษัททัวร์ตรงท่าเรือได้เลย ค่าเรือไปกลับ ปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ คนละ 900 บาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียมท่าเรือ 20 บาทและค่าเข้าอุทยาน 40 บาท) จะมีรอบ 09.00 น., 11.30 น., 13.30 น. และ 15.30 น. ส่วนขากลับจากเกาะหลีเป๊ะมีเรือรอบ 09.30 น., 11.30 น., 13.30 น. และ 16.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ที่สำคัญขากลับอย่าลืมวางแผนและเผื่อเวลาเดินทางกันดี ๆ นะ

ตารางเดินเรือสปีดโบ๊ตไปเกาะหลีเป๊ะ

ตารางเรือสปีดโบ๊ตไปเกาะหลีเป๊ะ
ตารางเรือสปีดโบ๊ตอันนี้สำคัญมาก ๆ อย่าลืมเผื่อเวลาเดินทางกันดี ๆ นะ

สถานที่ท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

เดินทางกันหลายต่อขนาดนี้ไปถึงเกาะหลีเป๊ะแล้วก็อยากใช้เวลาทุกวินาทีพักผ่อนให้คุ้มค่า โดยที่เที่ยวเกาะหลีเป๊ะหากไม่นับรวมจุดดำน้ำเกาะหลีเป๊ะรอบ ๆ แล้ว จะมีชายหาดให้แวะเที่ยวอยู่ 3 หาด คือ

แผนที่เที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะ

1
หาดพัทยา

ชายหาดขาว เม็ดทรายละเอียด บวกกับน้ำทะเลใสราวกระจก แค่เห็นวิวแบบนี้บอกเลยว่าหายเหนื่อยแล้ว โดย "หาดพัทยา" จะเป็นที่เที่ยวเกาะหลีเป๊ะที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมและรีสอร์ตต่าง ๆ ยิ่งตอนกลางคืนจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะมีการแสดงต่าง ๆ ริมชายหาด นอกจากนี้หาดพัทยายังเป็นจุดจอดเรือสปีดโบ๊ทรับ-ส่งนักท่องเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะอีกด้วย

ภาพชายหาดพัทยา ที่เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ
เกาะหลีเป๊ะก็มีหาดพัทยา แถมน้ำทะเลยังใสน่าเล่นมาก ๆ 

2หาดซันไรซ์

"หาดซันไรซ์" สถานที่ท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะเหมาะสำหรับคนชอบความเงียบสงบ ได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศของแนวต้นสนที่คอยให้ร่มเงาบริเวณแนวชายหาด จะลงเล่นน้ำทะเลหรือนอนอาบแดดเพลิน ๆ บนหาดทรายขาวก็มีความสุขไม่ต่างกัน

3หาดซันเซ็ต

ถัดไปไม่ไกลนักยังมี "หาดซันเซ็ต" อีกหนึ่งที่เที่ยวเกาะหลีเป๊ะที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยและโรแมนติกสุด ๆ บนเกาะหลีเป๊ะ

ภาพหาดซันไรซ์บนเกาะหลีเป๊ะ
พระอาทิตย์ขึ้นสวยขนาดนั้น คุ้มค่ามากกับการตื่นเช้า
ภาพพระอาทิตย์ที่เกาะหลีเป๊ะ
เจอวิวพระอาทิตย์แบบนี้ เห็นทีไม่อยากจะกลับแล้ว

4ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ

ยามค่ำคืนถ้าไม่อยากรีบเข้านอนแวะไปเดินเล่น ชมสีสันและความคึกคักของผู้คนกันได้ที่ "ถนนคนเดินหลีเป๊ะ" ซึ่งมีระยะทาง 1 กิโลเมตร เริ่มตั้งแต่หาดพัทยาไปจนหาดซันไรซ์ ที่สองข้างทางจะเรียงรายไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ให้เลือกแวะชิม แวะชม กันอย่างละลานตาเลยทีเดียว 

ภาพถนนคนเดินบนเกาะหลีเป๊ะ
ชอปปิงเพลินที่ถนนคนเดินบนเกาะหลีเป๊ะ

นอกจากพักผ่อนสุดชิลบนหาดทรายขาว สนุกสนานกับการเล่นน้ำทะเลใส ๆ บนเกาะหลีเป๊ะแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดไม่งั้นถือว่ามาเกาะหลีเป๊ะเสียเที่ยว คือ การไปเที่ยวดำน้ำใกล้ ๆ เกาะหลีเป๊ะ โดยสามารถซื้อแพ็คเกจดำน้ำจากบริษัทนำเที่ยวบนเกาะหลีเป๊ะได้เลย ซึ่งมีเส้นทางให้เลือก 4 แพ็คเกจ คือ โซนในเกาะหลีเป๊ะ โซนนอกเกาะหลีเป๊ะ โซนนอกและในเกาะหลีเป๊ะ และทริปซันเซ็ต

ใครไปถึงเกาะหลีเป๊ะก่อนเวลา 14.30 น. และยังมีแรงเที่ยวไหวแนะนำเริ่มต้นด้วยทริปซันเซ็ต ราคาคนละ 450 บาท โดยนั่งเรือหางยาวไปดำน้ำที่ "ร่องน้ำจาบัง" จุดดำน้ำตื้นที่ทุกคนต้องกรี๊ดลั่นแน่ๆ กับความสวยงามของปะการังอ่อนหลากสีสัน ต่อด้วยไปเดินเล่นบน "เกาะหินงาม" ชมชายหาดที่แวววาวด้วยหินดำ และดำน้ำชมฝูงปลาท่ามกลางดงปะการังหลากหลายชนิดที่ "เกาะยาง" แล้วปิดท้ายทริปดำน้ำที่ "เกาะอาดัง" กับการนั่งริมชายหาดชมวิวพระอาทิตย์ตก

ภาพร่องน้ำจาบัง ที่เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ
ร่องน้ำจาบัง แค่ดำน้ำตื้นก็เจอปะการังหลากสีอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก 
ภาพเกาะหินงาม ที่เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ
เกาะหินงาม วิวดีขนาดนี้โพสท่าไหนก็ได้รูปสวย

เที่ยวหลีเป๊ะแค่นี้ยังไม่จุใจ วันถัดไปตื่นเช้านั่งเรือหางยาวไปตะลุยกันต่อกับเส้นทางโซนนอกและในเกาะหลีเป๊ะที่เก็บครบทุกจุดไฮไลต์สำคัญ ในราคาคนละ 850 บาท โดยมีจุดดำน้ำตื้นและเกาะต่าง ๆ เพิ่มเติมจากทริปซันเซ็ต คือ "เกาะหินซ้อน" ไปชมความมหัศจรรย์ของก้อนหินขนาดใหญ่ที่วางซ้อนทับกันอย่างสมดุลอยู่กลางทะเล ต่อด้วย "เกาะรอกลอย" รับรองว่าใครได้เห็นต่างก็ต้องตกหลุมรักความสวยงามของหาดทรายขาว และน้ำทะเลสีครามใสสะอาดชนิดมองเห็นพื้นทรายด้านล่าง พร้อมกับมีจุดชมวิวและถ่ายรูปสวย ๆ จนไม่อยากกลับเลยละ

ภาพเกาะหินซ้อน หลีเป๊ะ
เกาะหินซ้อน 
ภาพเกาะรอกลอย หลีเป๊ะ
เกาะรอกลอย หาดทรายขาว น้ำทะลใสราวกระจก 

ส่วนใครอยากดำน้ำตื้นก็เตรียมใส่ชูชีพรอ แล้วไปกระโดดน้ำ ลอยตัว ชมโลกใต้ทะเลที่ "เกาะผึ้ง" และ "เกาะไผ่" บอกเลยว่าต้องว้าว! แน่นอนกับจุดดำน้ำตื้นที่แน่นไปด้วยดงดอกไม้ทะเลและฝูงปลานานาชนิด แล้วไปเดินเล่นพักเหนื่อยบนหาดทรายที่ "เกาะดง" และ "เกาะราวี" ก่อนจะเดินทางกลับเกาะหลีเป๊ะ 

สรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ

  • รถไฟปรับอากาศชั้น 1 ไปกลับกรุงเทพฯ - หาดใหญ่ 3,588 บาท
  • รถมอเตอร์ไซค์ไปกลับสถานีชุมทางหาดใหญ่ - ตลาดเกษตร 160 บาท
  • ค่าธรรมเนียมท่าเทียบเรือปากบารา 20 บาท
  • ค่าเข้าอุทยานฯ 40 บาท
  • รถตู้ไปกลับตลาดเกษตร - ท่าเทียบเรือปากบารา 240 บาท
  • เรือสปีดโบ๊ทไปกลับท่าเทียบเรือปากบารา - เกาะหลีเป๊ะ 900 บาท
  • ดำน้ำเกาะหลีเป๊ะทริปซันเซ็ต 450 บาท
  • ดำน้ำเกาะหลีเป๊ะทริปโซนในและนอก 850 บาท
ภาพสรุปค่าใช้จ่ายเที่ยวหลีเป๊ะ
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ จะได้วางแผนเก็บเงินกันล่วงหน้า 

ที่พักเกาะหลีเป๊ะ

นอกจากที่เที่ยวเด็ด ๆ แล้ว Wongnai Travel ยังมีที่พักดี ๆ มาแนะนำ เริ่มต้นที่ "The Chic Lipe" ที่พักเกาะหลีเป๊ะ แบบโฮสเทลที่ตกแต่งสุดเท่ในสไตล์ลอฟต์ พร้อมพนักงานใจดี ดูแลอย่างเป็นกันเอง ซึ่งที่พักจะอยู่ใกล้ถนนคนเดินหลีเป๊ะ เรียกว่าไม่ต้องกังวลเวลาหิวตอนดึกเพราะอยู่ในย่านของกิน โดยที่นี่มีห้องพักทั้งแบบเตียงรวมเหมาะสำหรับมากับกลุ่มเพื่อน และห้องส่วนตัวกว้างขวาง เตียงใหญ่น่านอน โดยราคาเริ่มต้นที่ 1,395 บาทเท่านั้น

The Chic Lipe ที่พักเกาะหลีเป๊ะ
เที่ยวหลีเป๊ะแบบประหยัด เลือกห้องพักแบบเตียงรวมได้เลย
ภาพห้องพัก The Chic Lipe ที่พักเกาะหลีเป๊ะ
ห้องพักส่วนตัวก็มี ตกแต่งเท่ ๆ  สไตล์ลอฟต์

อยากได้ที่พักเกาะหลีเป๊ะสุดหรู มีวิวดี ๆ อยู่ติดริมทะเลก็ต้อง "Idyllic Concept Resort" ที่พักเกาะหลีเป๊ะบนหาดซันไรซ์ ราคาเริ่มต้น 2,800 บาท ที่ออกแบบตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น มีห้องพักกว้างขวาง สะดวกสบาย ในบรรยากาศร่มรื่น และโซนห้องพักติดริมทะเลเหมาะกับคนอยากนอนมองวิวน้ำทะเลใส ๆ หาดทรายขาวแบบพาโนราม่าจากบนเตียง นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำให้ลงแช่กันอีกด้วย แต่แนะนำว่ามาถึงเกาะหลีเป๊ะทั้งทีลงเล่นน้ำทะเลฟินกว่าเยอะ ส่วนใครอยากดูที่พักเกาะหลีเป๊ะเพิ่มเติม ตามไปส่องได้เลยที่ รวม 7 ที่พักหลีเป๊ะไว้เช็กอินพักผ่อนหลังดำน้ำดูปะการัง

Idyllic Concept Resort ที่พักริมทะเลบนเกาะหลีเป๊ะ
นอนสบายแถมได้ชมวิวสวย ๆ อีกด้วย
Idyllic Concept Resort ที่พักเกาะหลีเป๊ะ
ห้องพักท่ามกลางบรรยากาศสวนก็ร่มรื่น น่าพักเหมือนกันนะ

ร้านอาหารหลีเป๊ะ

นอกจากเรื่องเที่ยว เรื่องกินก็สำคัญไม่แพ้กัน ประเดิมกันที่ร้านนี้เลย "Papaya Mom" ร้านอาหารเกาะหลีเป๊ะอยู่ตรงถนนคนเดิน บรรยากาศของร้านนั่งสบาย ตอนกลางคืนมีดนตรีสดให้ฟังกันอีกด้วย ส่วนเมนูที่นี่เน้นอาหารทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา และปลาหมึก ชนิดยกทะเลขึ้นบกมาเสิร์ฟกันเลยทีเดียว เพราะทางร้านรับซื้อวัตถุดิบโดยตรงจากชาวประมงจึงมั่นใจว่าได้กินอาหารทะเลสด ๆ แน่นอน รวมถึงอาหารอีสานรสจัดจ้านถึงใจโดยเฉพาะเมนูที่มีปลาร้า บอกเลยแซ่บนัว ยั่วน้ำลายมาก ๆ

Papaya Mom ร้านอาหารทะเลที่เกาะหลีเป๊ะ
อาหารทะเลสด ๆ จัดเต็มกันมาเลย

ได้โต๊ะนั่งแล้วเปิดเมนูสั่งเลย "ส้มตำปลาร้าหอยแครงกุ้งสด" แซ่บนัวกับปลาร้าที่ทำจากปลากระดี่แม่น้ำโขง จ.หนองคาย มาทำส้มตำ แล้วคลุกเคล้าด้วยหอยแครงลวกสุกกำลังดีและกุ้งสด หากใครไม่ถนัดกินเผ็ดบอกทางร้านลดพริกได้ ต่อด้วย "ต้มยำกุ้ง" ที่กุ้งลายเสือตัวใหญ่เนื้อแน่น บวกกับเครื่องต้มยำแบบจัดเต็ม ก็ทำให้เมนูจานนี้รสชาติเข้มข้นจนต้องให้คะแนนเต็ม 10 ไปเลย ดับความเผ็ดร้อนกับ "กุ้งอบเนยกระเทียม" รสชาติกลมกล่อมที่ส่งกลิ่นหอมไกลมาจากในครัว

เมนูส้มตำปลาร้าหอยแครงกุ้งสดของร้าน Papaya Mom ร้านอาหารทะเลที่เกาะหลีเป๊ะ
ส้มตำปลาร้าหอยแครงกุ้งสด
เมนูกุ้งอบเนยกระเทียม ของร้าน Papaya Mom ร้านอาหารทะเลที่เกาะหลีเป๊ะ
กุ้งอบเนยกระเทียม

อย่ารีบอิ่มเพราะจะชวนไปกินขนมหวานล้างปากกันต่อที่ "ร้านเตอร์บิลัง" ตรงถนนคนเดิน ร้านดังบนเกาะหลีเป๊ะที่ใครมาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะแล้วต้องแวะ โดยเมนูที่น่าลองชิมคือ "ชาชัก" รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นชา สั่งมากินคู่กับโรตี ที่มีให้เลือกหลายแบบ เช่น โรตีใส่ไข่ โรตีมะตะบะ โรตีช็อกโกแลต โรตีกล้วยหอม เป็นต้น กินเสร็จแล้วยังไม่ง่วงก็เดินช็อปปิ้งกันต่อที่ถนนคนเดินได้เลย

เมนูชาชักและโรตี ร้านเตอร์บิลัง ร้านอาหารเกาะหลีเป๊ะ
มาเที่ยวหลีเป๊ะต้องไม่พลาดชิมเมนูโรตี ชาชัก 

ไปเที่ยวหลีเป๊ะอาจต้องใช้เวลาในการเดินทางค่อนข้างนานทั้งต่อรถ ต่อเรือ กว่าจะถึง แต่บอกเลยว่าเป็นทริป สุดประทับใจที่คนรักทะเลต้องไปเที่ยวหลีเป๊ะให้ได้สักครั้ง และหากใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยวหลีเป๊ะแต่ยังไม่เป๊ะเรื่องการเดินทางได้อ่านลายแทง เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ กิน เที่ยว พักที่ไหน? จัดมาให้ครบ! รับรองเที่ยวหลีเป๊ะได้อย่างมั่นใจแน่นอน 

นอกจากนี้สตูลยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ สามารถตามไปเที่ยวกันได้กับ 12 ที่เที่ยวสตูล นอกจากหลีเป๊ะ ยังมีที่เป๊ะ ๆ อีกเพียบ! แล้วแวะชิมอาหารกันที่ 10 ร้านอาหารสตูลเจ้าเด็ด ที่ใครมาก็ต้องแวะ! ส่วนใครอยากหาที่เที่ยวใหม่ ๆ เข้าไปกดไลก์และติดตามเพจ Wongnai Travel ไว้ดี ๆ เพราะมีไอเดียมาชวนไปเที่ยวด้วยกันอีกเพียบ

เที่ยวเกาะหลีเป๊ะแล้ว ก่อนกลับกรุงเทพฯ แวะเที่ยวต่อหาดใหญ่ได้ที่นี่

แผนที่

นั่งเรือจากท่าเรือจังหวัดสตูล

การติดต่อ

เกาะหินงาม สตูล
เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอาดัง-ราวีเกาะหินงาม,เมืองสตูล
ประเภท
เกาะอาดัง
ทางหลวงหมายเลข 4040เกาะอาดัง,เมืองสตูล
ประเภท
เกาะหินซ้อน
เกาะหินซ้อน,เมืองสตูล
ประเภท
เกาะรอกลอย
เกาะรอกลอย,เมืองสตูล
ประเภท