เมืองรอง อีกหนึ่งเสน่ห์ของการท่องเที่ยว ที่ไม่เป็นรองใคร พร้อมพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ จะขึ้นเหนือ ล่องใต้ ก็ Unseen ไม่แพ้ใครแน่นอน วันนี้ Wongnai Travel จึงรวม 20 ที่เที่ยวเมืองรอง จัดเต็มครบทุกภาคแบบจุก ๆ เรียกได้ว่าหามาให้ครบ เหมาะกับทุกสาย จะสายลุย สายชิล หรือสายชิค ก็จัดทริปเที่ยวได้ แบบฟินสุด ๆ
ภาคเหนือ
เปิดประเดิมภาคแรกที่ภาคเหนือ แหล่งที่เที่ยวหน้าหนาวสุดขึ้นชื่อ ไม่ว่าดอยไหน ๆ ในเชียงใหม่ คนก็เที่ยวกันแบบจุก ๆ แต่รู้ไหมคะทุกคน นอกจากที่เที่ยวเชียงใหม่ที่เป็นที่นิยม เมืองรองที่เรามาแนะนำวันนี้ก็วิวสวย บรรยากาศดีไม่แพ้ใครแน่นอน เตรียมตัวให้พร้อม ไปเปิดประสบการณ์เที่ยวภาคเหนือ ฉบับเมืองรองที่ไม่เป็นสองรองใครกันเลย Let’s go!!
1แก่งก้อ
เริ่มต้นที่เที่ยวภาคเหนือที่ “แก่งก้อ” ทะเลสาบขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทำเขื่อนภูมิพล ตั้งอยู่ในอุทยานแห่ชาติแม่ปิง ตำบลก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นเวิ้งน้ำขนาดใหญ่ที่วิวทิวทัศน์งดงาม กับกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ทั้งนอนแพกลางน้ำ ล่องเรือชมทัศนียภาพ 2 ฝั่งแม่น้ำปิง หรือดูพระอาทิตย์ตกดินก็ฟินสุด ๆ

2น้ำตกสะปัน
มาต่อที่เที่ยวภาคเหนือที่ที่สอง “น้ำตกสะปัน” ในอุทยานแห่งชาติขุนน่าน อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน แหล่งน้ำตกธรรมชาติกลางป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ ในบรรยากาศอันแสนร่มรื่น เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 3 ชั้นด้วยกัน ซึ่งใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 20 นาทีจะถึงน้ำตกชั้นบนสุด เป็นที่เที่ยวเมืองรองที่เหมาะกับการนั่งชิล ถ่ายรูปชิค ๆ สูดอากาศบริสุทธิ์

3ม่อนแม่ถาง
“ม่อนแม่ถาง” จุดชมวิวสุดตระการตาที่ซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ในอำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ที่เที่ยวภาคเหนือนี้ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากนัก ทำให้บรรยากาศสงบและไม่วุ่นวายจนเกินไป มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพแบบ 360 องศา ที่งดงามดุจภาพวาด นอกจากนั้นยังมีทุ่งปอเทืองเหลืองทองที่เหมาะกับการถ่ายรูปเก๋ ๆ ของสาว ๆ และถ้าไปในช่วงหน้าหนาวที่มีทะเลหมอกปกคลุม พูดได้เลยว่าเป็นทริปคุ้มสุด ๆ

4หุบป่าตาด
ยังคงเที่ยวแบบสัมผัสธรรมชาติกันต่อที่ “หุบป่าตาด” ที่เที่ยวเมืองรองสุดยอด Unseen ประเทศไทย ตั้งอยู่ใน ตำบลทุ่งนางาม อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ที่เที่ยวแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นตาดพันธุ์ไม้ดึกดำบรรพ์ที่ให้บรรยากาศเดินเที่ยวในยุคจูราสสิก นอกจากนั้นยังมีไฮไลต์เด็ดที่ถ้ำมืดสนิทแต่มีช่องแสงสว่างปลายทางถ้ำ ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่ง แอบกระซิบว่าถ่ายรูปแล้วสวยสุด ๆ ซึ่งที่เที่ยวภาคเหนือนี้มีค่าบริการสำหรับเด็ก 10 บาท, ผู้ใหญ่ 20 บาท และชาวต่างชาติ 200 บาท

5ตลาดย้อนยุคนครชุม
ยังคงต่อด้วยการเที่ยวธีมย้อนยุค โดยที่เที่ยวเมืองรองที่นี่จะพาทุกคนไป ชอปปิง เดินชิค ๆ ถ่ายรูปเก๋ ๆ กับบรรยากาศไทยย้อนยุคที่ “ตลาดย้อนยุคนครชุม” ตั้งอยู่ในตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นชุมชนที่ยังคงอาคารไม้ไว้บ้าง เป็นมนต์เสน่ห์ที่แสนคลาสสิก ขนทัพพ่อค้าแม่ค้าใส่ชุดไทยมาขายอาหารคาวหวาน ในบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ แถมราคาถูก เดินชิลไปมาเผลอแป๊บเดียวอิ่มจนจุก!

ภาคอีสาน
ขยับกันมาอีกนิดที่ภาคอีสาน แหล่งรวมหลากวัฒนธรรมอันล้ำค่า จัดเต็มที่เที่ยวภาคอีสานทั้งธรรมชาติ วิถีชีวิต วัฒนธรรม และของเด็ดสุดขึ้นชื่อ นอกจากความนัวความแซ่บอาหารอีสาน ทริปเที่ยวเมืองรองภาคอีสานก็นัวเด็ดไม่แพ้ใครแน่นอน
6ภูสิงห์ หินสามวาฬ
เริ่มต้นที่เที่ยวภาคอีสานที่แรกที่ “ภูสิงห์ หินสามวาฬ ” จังหวัดบึงกาฬ ที่เที่ยวสุด Unseen กับผาหินทรายอายุกว่า 75 ล้านปีที่มีรูปร่างคล้ายวาฬ 3 ตัวพ่อ แม่ ลูก แหวกว่ายกันในป่าเขียวขจี ไฮไลต์เด็ดไม่แพ้ที่ไหนคือการขึ้นไปชมวิวสวย ๆ ที่หลังวาฬ แถมยังถ่ายรูปออกมาเก๋สุด ๆ อีกด้วย นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมี “ลานธรรมภูสิงห์” ลานหินกว้างที่มี หลวงพ่อพระสิงห์ ให้ได้กราบไหว้เอาฤกษ์เอาชัย

7กลุ่มทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน
ต่อด้วยการเที่ยวเมืองรองแบบวิถีชุมชน เรียนรู้หัตถกรรมพื้นเมืองของดีสุดขึ้นของจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ “กลุ่มทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน” ตั้งอยู่ที่บ้านโพน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งผ้าไหมแพรวาถือเป็นราชินีของผ้าไหม ที่มีกรรมวิธีการทำประณีต และลายที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะสำหรับการซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือให้กับญาติผู้ใหญ่เลยละค่ะ

8อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ
ต่อกันที่เที่ยวภาคอีสานที่ต่อไปอย่าง “อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ” ตั้งอยู่ตรงข้ามกับบึงหนองหาน อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ที่เที่ยวแห่งนี้เป็นสถานที่รวบรวมพันธุ์บัวกว่า 34 สายพันธุ์ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาของนักศึกษา นอกจากนั้นยังถือเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน และยังเป็นจุดแลนด์มาร์กของสกลนคร ที่มาถ่ายรูปได้สวย ไม่ผิดหวังแน่นอน

9อุโมงค์นาคราช
ยังคงต่อกับการดื่มด่ำบรรยากาศชิล ๆ ริมฝั่งน้ำที่ “อุโมงค์นาคราช” ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม จุดพักผ่อนของชาวนครพนม กับกิจกรรมเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน เลียบลำน้ำโขง กับบรรยากาศเย็นสบายและวิวแม่น้ำโขงยาวขนาบข้างไปกับเส้นทาง และไฮไลต์เด็ดของที่นี่คือ สะพานนาคี ความยาวกว่า 206 เมตร สะพานจักรยานแบบเปิดโล่งที่ได้เห็นวิวแม่น้ำโขงอย่างเต็มอิ่ม!

10วัดศรีมงคลใต้
เปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวมาเข้าวัดทำบุญที่ “วัดศรีมงคลใต้” วัดเก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระเจ้าองค์หลวง พระพุทธรูปก่ออิฐถือปูน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทั้งชาวไทยและชาวลาว เหมาะสำหรับการไหว้สักการะพระเจ้าองค์หลวงอันงดงามและความอัศจรรย์ของพระหลบเหล็ก

ภาคกลาง
ต่อกันด้วยภาคกลาง กับการรวบรวมที่เที่ยวเมืองรองแบบจัดเต็มตั้งแต่เข้าวัดทำบุญ เดินชิคถ่ายรูป ชอปปิงสินค้าท้องถิ่น และแคมปิงใกล้กรุงเทพฯ รับรองจัดทริปเที่ยวเมืองรองครั้งนี้ เที่ยวไม่ไกลแต่ฟินได้ไม่แพ้กัน
11วัดสังกระต่าย
เปิดประเดิมทริปเที่ยวเมืองรองของภาคกลางด้วยการสักการะพระพุทธรูปในโบสถ์โพธิ์ล้อมที่ “วัดสังกระต่าย” จังหวัดอ่างทอง วัดเก่าแก่กว่า 400 ปี ตัวโบสถ์มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 4 ต้นล้อมรอบและรากชอนไชตามกำแพงอย่างแน่นหนา เป็นอีกสุนทรียศาสตร์จากธรรมชาติที่น่าหลงใหล ถือเป็น Unseen ประเทศไทยที่ไม่ควรพลาด

12ตลาดไทย้อนยุคบ้านระจัน
เดินทางข้ามยุคข้ามสมัยมาที่ “ตลาดไทย้อนยุคบ้านระจัน” ในจังหวัดสิงห์บุรี ถิ่นกำเนิดยุวชนคนกล้าอย่างบางระจัน ที่เที่ยวภาคกลางแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ด้วยบรรยากาศย้อนยุคที่พ่อค้าแม่ค้าคีพคาแรกเตอร์ความเป็นชาวบ้านสมัยก่อน ทำให้บรรยากาศครึกครื้น เป็นแหล่งชอปปิง อาหารพื้นเมือง ขนมโบราณหากินยาก ของทำมือ ตลอดจนผัก ผลไม้ ราคาประหยัด แถมยังมีการแสดงจากเด็กในชุมชนอีกด้วย “ตลาดไทย้อนยุคบ้านระจัน” เปิดทำการเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่อยู่ติดกับเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.

13โอ๊ะป่อย
จากตลาดสุดชิค ไปยังตลาดน้ำสุดชิลที่ “โอ๊ะป่อย” ชุมชนติดแม่น้ำภาชีพื้นที่ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ตลาดน้ำแห่งนี้มีบรรยากาศที่แสนร่มรื่น และของกินพื้นเมืองมากมายทั้ง ชาดาวอินคา เมี่ยงถั่วดาวอินคา ข้าวแดกงา ข้าวยำสมุนไพร ขนมจีนน้ำยาหยวก และอื่น ๆ อีกมากมาย ถูกใจสายกินสุด ๆ ไฮไลต์เด็ดของที่เที่ยวเมืองรองแห่งนี้คือใส่บาตรพระสงฆ์ที่ล่องแพไม้ไผ่มาตามลำน้ำภาชี เวลา 07.30-08.00 น. เป็นภาพประเพณีวัฒนธรรมอันงดงามแถมได้เสริมสิริมงคลอีกด้วย “โอ๊ะป่อย” เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-14.00 น.

14ชุมชนเก่าสรรพยา
ที่เที่ยวภาคกลางที่ต่อมาตั้งอยู่ในอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท กลิ่นอายความคลาสสิกที่ “ชุมชนเก่าสรรพยา” ชุมชนเล็ก ๆ อันเก่าแก่ที่ยังคงความงดงามของอาคาร ร้านค้า และบ้านเอาไว้ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือน ตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. จะมีการปิดถนนเปิดตลาดขายสินค้าอาหารท้องถิ่น ในบรรยากาศแสนคึกคัก เป็นที่เที่ยวเมืองรองที่มีบรรยากาศความเก่าที่น่าหลงใหลเป็นอีกหนึ่งจุดเที่ยวและถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด

15อุทยานแห่งชาติพุเตย
ปิดท้ายที่เที่ยวเมืองรองภาคกลางที่ “อุทยานแห่งชาติพุเตย” ป่าอันสมบูรณ์ที่สุดแห่งเดียวของสุพรรณ ตั้งอยู่ที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มีครบ ทั้งน้ำตก ป่าสน และจุดกางเต็นท์ชมทะเลหมอกใกล้กรุงเทพฯ เพื่อดื่มด่ำกับพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้ารับไอหมอก ตอบโจทย์คนรักการแคมปิงสุด ๆ สำหรับจุดกางเต็นท์สามารถตั้งได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติพุเตย (ด้านห้วยหินดำ), หน่วยพิทักษ์อุทยานฯพุเตย 1 (ด้านป่าขี), หน่วยพิทักษ์อุทยานฯพุเตย 3 (ตะเพินคี่) และจุดให้บริการของเอกชน

ภาคใต้
ปิดท้ายด้วยภาคใต้ด้ามขวานของไทย กับที่เที่ยวเมืองรองที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล รวมไว้ให้ครบตั้งแต่ประตูภาคใต้สุดยังปลายด้ามขวาน เปิดประสบการณ์สัมผัสทะเลสวย ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และทะเลหมอกปุกปุยที่ภาคใต้ก็มี ทริปนี้หรอยแน่นอน!
16สะพานชมกวาง
เริ่มต้นที่จังหวัดชุมพรประตูสู่ภาคใต้กับจุดเช็กอินใหม่ที่เปิดได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมาอย่าง “สะพานชมกวาง” สะพานแขวนทางเดินธรรมชาติ เป็นสะพานไม้เคี่ยมที่ยาวที่สุดในประเทศไทย อยู่ในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร กับการเดินชมกวาง ชมธรรมชาติข้ามหนองน้ำขนาดใหญ่ และเกาะชมพันธุ์ไม้กลางน้ำ นอกจากนั้นยังมีบริการล่องแพชมกวางกว่า 100 ตัวอีกด้วย

17เกาะกำตก
มาที่เที่ยวภาคใต้จะขาดทะเลได้อย่างไร ไปสัมผัสเสียงคลื่นและไอแดดกันที่ “เกาะกำตก” อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง กับทะเลใส หาดสวย เวิ้งอ่าวสุดยิ่งใหญ่ที่เป็นไฮไลต์เด็ดของที่นี่อย่าง “อ่าวควาย” จุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเล่นน้ำและรับประทานอาหาร กับบรรยากาศสุดชิลด้วยแนวสน หาดสายเม็ดละเอียด จะนั่งชิลพักผ่อน หรือนอนอาบแดดก็ฟินสุด ๆ

18มัสยิดกลางปัตตานี
เข้าสู่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ใครหลายคนกลัว แต่บอกเลยค่ะว่าบริเวณด้ามขวานของประเทศไทยไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด แถมยังมีที่เที่ยวภาคใต้ที่น่าเที่ยวอีกเยอะ เริ่มต้นกันที่จังหวัดปัตตานีกับ “มัสยิดกลางปัตตานี” ตั้งอยู่ที่ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี มัสยิดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ศูนย์รวมจิตใจและประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม ด้วยตัวภายนอกอาคารที่ถอดแบบจากทัชมาฮาลของอินเดีย จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวมาเลเซีย และชาวอินโดนีเซีย ไม่ขาดสาย และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมัสยิดที่สวยที่สุดในประเทศไทย หากมาเที่ยวปัตตานีต้องห้ามพลาด!

19อัยเยอร์เวง
มาต่อกันที่จังหวัดยะลากับที่เที่ยวภาคใต้สุด Unseen อย่าง “อัยเยอร์เวง” จุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดของภาคใต้ และสวยติดอันดับต้น ๆ ของไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ต้องห้ามพลาดการดูทะเลหมอกกับวิว 360 องศา ซึ่งมีจุดชมวิวไฮไลต์อยู่บริเวณยอดเขาฆูนุงซีลีปัต ที่ต้องเดินเท้าตามป่าขึ้นไปประมาณ 500 เมตร บอกเลยว่าสวย!! ไม่เป็นรองใครแน่นอน

20น้ำตกซีโป
ปิดท้ายด้วยจังหวัดนราธิวาสดินแดนสุดปลายด้ามขวานของไทยกับ “น้ำตกซีโป” น้ำตกขนาดใหญ่ 7 ชั้น กลางหุบเขาที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ และไฮไลต์เด็ดคือน้ำตกชั้นที่ 7 ที่สวยตรึงใจนักท่องเที่ยวด้วยทัศนียภาพของสายน้ำไหลเย็นกับผาสูงสุดกว้าง ตัดกับไม้นานาพันธุ์อันอุดมสมบูรณ์ที่โอบอุ้มน้ำตกไว้ จะนั่งชิล หรือลงแช่น้ำสบาย ๆ ก็พูดได้เลยว่า Happy~

โอ้โห! จัดเต็มแบบจุก ๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะคะกับ 20 ที่เที่ยวเมืองรอง จัดเต็มครบทุกภาค ที่ Wongnai Travel แนะนำในวันนี้ พูดได้เลยนะคะว่าที่เที่ยวเมืองรอง ไม่เป็นรองใครจริง ๆ การท่องเที่ยวไทยมนต์เสน่ห์ที่เที่ยวได้ไม่รู้จบ แต่ถ้าใครรู้สึกว่ายังจัดทริปเที่ยวไม่เต็มอิ่มเรายังมี 25 ที่เที่ยวจันทบุรี อีกหนึ่งจังหวัดเมืองรองที่ไม่ควรพลาด ครั้งหน้าเราจะพาไปเที่ยวไหนอย่าลืมติดตามเพจ Wongnai Travel ด้วยนะคะ บ๊ายบาย~