สาว ๆ ที่อยากมีใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัย ไม่อยากให้หน้าเหี่ยว หน้าแก่กว่าวัยแล้วต้องโดนทักว่าป้า ให้รู้สึกเจ็บหัวใจจี๊ด ๆ ต้องมาดูค่ะ รวมวิธีทำหน้าเด็กง่าย ๆ ตั้งแต่วิธีธรรมชาติไปยังวิธีสวยทางลัดด้วยมือหมอ ใครที่ยังอายุน้อย ๆ ก็สามารถทำได้ สบายมาก วันนี้ Wongnai Beauty มี 10 วิธีทำให้หน้าดูเด็กมาฝากค่ะ
รวม 10 วิธีทำให้หน้าเด็กง่าย ๆ จนทำให้คนทักว่านูน่า แทนทักว่าป้า!
1. เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวหน้า
ถ้าอยากดูแลผิวให้อ่อนวัยไปนาน ๆ ควรเลือกครีมบำรุงที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน การเลือกครีมนั้นควรเลือกครีมที่ได้รับการรับรองจาก อย. หรือครีมตามเค้าท์เตอร์แบรนด์ที่เชื่อถือได้ ไม่ควรซื้อครีมมั่ว ๆ มาใช้ แนะนำว่าควรใช้ครีมหรือ เซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และลงทุนกับไนท์ครีม ที่ช่วยฟื้นฟูผิวในตอนกลางคืน ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพิ่มระดับคอลลาเจนและอีลาสตินให้กับผิว เพื่อให้ผิวตึง กระชับยิ่งขึ้น เพราะยิ่งอายุมากขึ้น คอลลาเจนและอีลาสตินในผิวก็จะยิ่งลดลง หรือจะเลือกซื้อสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก ที่ทำให้ผิวฉ่ำดูอิ่มน้ำ หรือเลือกใช้ครีมกลางคืนที่มีส่วนผสมของเรตินอล ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยก็ได้
นอกจากนี้ใครที่อยากหน้าเด็ก ควรเลือกสกินแคร์ที่เพิ่มแอนตี้ออกซิแดนท์ให้ผิว ผสานวิตามินที่ช่วยปกป้องริ้วรอยก่อนไว้ และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง อย่าง วิตามิน B3 หรือไนอะซินาไมด์, วิตามิน C และวิตามิน E ก็จะเลิศมากขึ้น! ซึ่งวันนี้เรามีสกินแคร์ที่ผสานวิตามินทั้งสามชนิดมาแนะนำ นั่นก็คือ โอเลย์ รีเจนเนอรีส แอนตี้ออกซิแดนท์ (วิตามิน B3, C, E) มอยเจอร์ไรเซอร์ นั่นเอง บอกเลยว่าเจ้าตัวนี้ใครได้ลองใช้ก็รู้สึกชอบมาก! ด้วยความที่เนื้อสัมผัสนุ่ม บางเบา ไม่หนักหน้า และผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าด้วยส่วนผสมของวิตามินทั้งสามชนิด อย่าง วิตามิน B3 หรือไนอะซินาไมด์, วิตามิน C และวิตามิน E นอกจากช่วยเสริมเกราะให้ผิวแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้นยาวนานถึง 24 ชั่วโมงเลยค่ะ บอกลาภาวะผิวเครียดจากปัยจัยภายนอกและภายในได้เลย ใช้เป็นประจำเช้าเย็นต่อเนื่อง ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ใน 1 สัปดาห์ ยิ่งถ้าใช้คู่กับโอเลย์ รีเจนเนอรีส แอนตี้ออกซิแดนท์ (วิตามิน B3, C, E) เซรั่มก็จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น บอกลาหน้าแก่ไปได้เลยจ้า~
ที่สำคัญไม่มีส่วนผสมของ พาราเบน พาทาเลต สารแต่งสี และมิเนอรัลออยล์ มั่นใจได้เลยค่ะว่าโอเลย์เลือกส่วนผสมที่ดีให้กับทุกคนแน่นอน ราคาน่ารักเพียง 1,199 บาท (ขนาด 50 g.) สามารถหาซื้อได้ที่ Watsons, Lotus’s, Boots หรือสั่งออนไลน์ที่ Lazada
2. ดื่มน้ำเยอะ ๆ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แหม ได้ยินแล้วนึกถึงคำตอบของเหล่าดารา เซเลบ เวลาทักว่าไปทำอะไรมา ดูสวยขึ้นเลยนะคะ แต่การดื่มน้ำและการออกกำลังกายเนี่ย ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างกายแข็งแรง แต่สามารถช่วยให้ผิวพรรณดูผ่องใสขึ้นอีกด้วย การดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ วันละ 2-3 ลิตรต่อวัน จะช่วยให้เซลล์อิ่มน้ำ เซลล์ผิวหนัง และเซลล์ร่างกายของเราก็จะไม่แห้งเหี่ยว ใครที่ไม่ชอบน้ำเปล่าก็ลองเป็นน้ำผลไม้แบบไม่ใส่น้ำตาลอย่าง น้ำมะเขือเทศ น้ำผักผลไม้รวมก็ได้ค่ะ และการออกกำลังกายอย่างคาดิโอ้ ช่วยทำให้เลือดสูบฉีดดี ทำให้ผิวมีเลือดฝาด การออกกำลังกายแบบเวท ก็ช่วยกระตุ้นการสร้างกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำก็ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายมีความสมดุลมากขึ้นด้วยค่ะ เป็นวิธีเบสิค แต่ได้ผลจริง ๆ นะ!
3. เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงอาหารรสจัด
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่า นี่หลอกให้เสียเวลาอ่านหรือเปล่า เนี่ย วิธีแบบนี้ใคร ๆ ก็รู้น่า! อย่ามาลีลา ตอบตามเซเลบหรือดาราเลย แต่ว่าอย่าเพิ่งกดปิดนะคะ เพราะว่าอาหารรสจัด อย่างอาหารหวาน ๆ เนี่ย เป็นอาหารที่ทำลายคอลลาเจนบนผิวหน้า เพราะน้ำตาลจะไปจับกับโปรตีนและคอลลาเจน ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิวออกมา ควรจำกัดปริมาณน้ำตาลไม่ให้กินเกินวันละ 24 กรัม นอกจากอาหารรสจัดแล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน น้ำอัดลม กินของทอด ของมัน ในปริมาณที่มากเกินไป ก็เป็นสาเหตุในการทำร้ายผิวและทำให้เกิดสิ่งอุดตัน ทำให้เซลล์ผิวของเราทำงานหนักขึ้น เกิดปัญหาผิวได้ และนอกจากการคุมอาหารพร้อม ๆ กับการออกกำลังกาย จะช่วยให้หุ่นดี ผิวดีแล้ว ก็ยังทำให้หน้าดูเด็กลงอีกด้วยค่ะ ไม่เชื่อลองสังเกตคนที่ลดน้ำหนักดู
4. กินวิตามินเสริม
วิตามินและแร่ธาตุจะช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำตาลเกาะกับโปรตีน แล้วเกิดเป็นสารอนุมูลอิสระขึ้น วิตามินที่สำคัญต่อผิว ได้แก่ วิตามิน B1 และ B6 ถึงแม้จะเป็นวิตามินที่พบได้ในอาหารทั่วไปอย่าง ถั่วลันเตา งา ผักโขม ถั่วชิกพี ถั่วพินโต และเมล็ดทานตะวัน แต่บางคนที่แพ้อาหารจำพวกถั่วก็อาจจะไม่สามารถกินในปริมาณเยอะ ๆ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอได้ หรือจะเลือกกินวิตามิน C และ E ในอาหารจำพวกเบอร์รี่ ผักและผลไม้ ก็ช่วยให้เซลล์สร้างคอลลาเจนขึ้นมาได้ ถ้าใครไม่ชอบกินผัก จะกินคอลลาเจนกับวิตามินรวมทีเดียวพร้อม ๆ กันก็ได้ค่ะ หรือจะกิน Q10 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดเลือนริ้วรอย ชะลอความเสื่อมของผิวหนัง หรือเลือกเป็น grape seed ที่ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระก็ไม่ติด แต่ควรเลือกกินอย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่ควรกินติดต่อกันเกิน 3 เดือน การกินวิตามินเสริม ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ง่ายและสะดวกค่ะ
5. ทาครีมกันแดดทุกวัน
เพื่อน ๆ รู้ไหมคะ ว่าแสง UV เนี่ย นอกจากจะทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้าแล้ว ก็ยังไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวเหี่ยวและเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้อีกด้วย ฉะนั้น เราควรจะทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอทุกวัน แม้ว่าจะไม่ได้ออกแดดจัด ๆ ก็ตาม เพื่อให้ครีมทำหน้าที่ปกป้องแสงยูวีจากแสงแดด แสงจอคอม และปกป้องผิวหนัง ไม่ให้ผิวเหี่ยวและแก่ไวค่ะ การเลือกครีมกันแดด ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ยิ่งค่าสูงมาก ประสิทธิภาพในการกันรังสี UV ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย และควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าใช้น้อยเกินไปก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการกันแดดลดลงนั่นเองค่ะ แต่ถ้าใช้มากเกินไป ก็อาจจะทำให้รูขุมขนอุดตัน และระคายเคืองผิวได้ และอย่าลืมทาครีมกันแดดที่บริเวณคอด้วยนะคะ
6. เช็ดเครื่องสำอาง และล้างหน้าให้สะอาด
เครื่องสำอางเป็นสิ่งที่สามารถปกป้องผิวหนังจากมลภาวะภายนอกได้ แต่ถ้าล้างหน้าไม่สะอาด ก็ทำให้เข้าไปอุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวระคายเคือง ทำให้เกิดริ้วรอยและทำให้หน้าแก่ก่อนวัยอันควรได้เช่นกัน หลังกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ ก่อนที่เราจะนอน ควรใช้คลีนซิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจด และล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าอีกทีด้วยความเบามือ ถ้าล้างหน้าสะอาด รูขุมขนก็จะไม่อุดตัน เวลาทาครีม ครีมก็จะซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่อย่าล้างหน้า หรือเช็ดหน้าแรงเกินไปนะคะ เพราะการลงน้ำหนักมือหรือการถูหน้าแรงเกินไป จะทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้ค่ะ ฉะนั้น เบามือกันหน่อยน้า และถ้าใครอยากให้รูขุมขนกระชับขึ้น ก็ลองล้างหน้าด้วยน้ำเย็นดูค่ะ
7. นอนให้พอ และนอนให้ถูกท่า
การนอนพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 6-8 ชั่วโมง ก็เป็นวิธีที่ให้ร่างกายของเราได้หลั่งฮอร์โมนเพื่อฟื้นฟูร่างกายได้เต็มที่ค่ะ นอกจากจะทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูเต็มที่แล้ว ก็ยังช่วยให้ไม่เกิดรอยคล้ำใต้ตาที่ทำให้ดูแก่กว่าวัยอีกด้วย และการนอนผิดท่า อย่างการนอนตะแคงไปด้านในด้านหนึ่ง หรือนอนคว่ำ ทำให้ใบหน้ากดกับหมอน หรือโดนดึงด้วยแรงโน้มถ่วง และทำให้เกิดริ้วรอย เกิดรอยพับบนใบหน้าได้ ถ้าไม่อยากให้หน้าเหี่ยวก่อนวัยอันควร ควรจะหลับด้วยท่านอนหงาย ไม่นอนตะแคงไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือนอนคว่ำนะคะ อีกอย่าง การนอนหงายจะทำให้เราหายใจสะดวก รับออกซิเจนได้อย่างเต็มที่ ทำให้หายใจได้เต็มปอด และช่วยให้ออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ จะได้รู้สึกเฟรช! ตื่นมาด้วยความสดชื่นอีกด้วย
8. ไม่เครียด รู้จักปล่อยวาง
การที่เราเครียด นอกจากจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดซ้ำ ๆ จนเกิดริ้วรอยแล้ว ยังทำให้เกิดอาการตึงที่คอ บ่า ไหล่ จะทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานหนักอีกด้วยค่ะ ถ้าใครไม่อยากให้มีรอยตีนกา มาเดินรอบ ๆ ใบหน้าก่อนวัยอันควร ก็ต้องพยายามไม่เครียด และรู้จักปล่อยวางให้เป็น เย็นให้ได้ แล้วเราจะสวยขึ้นค่ะ! นอกจากจะทำให้ผิวเหี่ยวแล้ว เจ้าความเครียมก็ยังทำให้ร่างกายสร้างสารอนุมูลอิสระ ที่ทำร้ายเซลล์ผิวมากกว่าเดิมด้วย รู้แบบนี้แล้ว เวลาเครียด ๆ ต้องตั้งสติ ยุบหนอพองหนอ แล้วท่องว่าไม่ได้! ต้องไม่เครียด เดี๋ยวเราไม่สวย! กันนะคะ พยายามยิ้มและหัวเราะเยอะ ๆ จะเป็นการบริหารมัดกล้ามเนื้อใบหน้า นอกจากการหัวเราจะทำให้หายเครียดแล้ว ยังช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้นอีกด้วย
9. นวดหน้าบ่อย ๆ เป็นประจำ
การนวดหน้าเป็นการกระตุ้นผิวหนัง และรูขุมขนบนใบหน้า เป็นการดีท็อกซ์ผิวรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยขับของเสียและสารอนุมูลอิสระออกจากใบหน้าของเรา วิธีนวดหน้าก็ง่าย ๆ ค่ะ เพื่อน ๆ สามารถดูได้ที่ 5 กระบวนท่า นวดหน้าด้วยตัวเองง่าย ๆ ได้ที่บ้าน หรือจะเป็น วิธีกดจุดนวดหน้า ให้หน้าเด็ก หรือ มารู้จัก "นวดเดรนน้ำเหลือง" ลดสิว ลดหน้าบวม ทั้งการนวดหน้าด้วยมือธรรมดา หรือการนวดหน้าด้วยอุปกรณ์อย่างหินกัวซา ก็จะช่วยเดรนน้ำเหลือง ขับของเสียในร่างกายออก ช่วยให้ผิวดูเปล่งปลั่งมากขึ้น ลดบวม และกระชับผิวหนัง ควรนวดหน้าอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ไม่ควรนวดแรงหรือบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยแทนที่จะสวยได้ค่ะ
10. สวยทันใจ ด้วยการเข้าคลินิก
ถ้าใครที่ทำวิธีข้างต้นมาแล้วไม่ได้ผล อยากได้วิธีสวยทางลัดให้เห็นผลเร็ว ๆ ก็ต้องพึ่งหมอและคลินิกกันแล้วล่ะค่ะ ณ จุด ๆ นี้! ใครที่ไม่กลัวเข็มก็จัดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม ไปหวาน ๆ โบท็อกซ์นั้น สามารถฉีดได้ก่อนอายุ 30 เลย เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อหน้าตึง ไม่ขยับบ่อย ๆ ให้เกิดริ้วรอย ฟิลเลอร์ก็ช่วยให้หน้าดูเต่งตึง และร้อยไหมช่วยยกกระชับใบหน้า หรือถ้าใครกลัวเข็มก็ลองพวก Ulthera หรือ Thermage ดู ที่ใช้เป็นเครื่องยิง และใช้เป็นคลื่นความถี่วิทยุ กระตุ้นใต้ผิวหนัง ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นให้ผิวหนังสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน แถมไม่ต้องพักฟื้นด้วย ยิงเสร็จปุ๊บ เดินชอปปิงต่อได้เลย หรือใครอยากจะผ่าตัดเอาเนื้อส่วนเกินออก แล้วยกกระชับใบหน้าไปเลยให้จบ ๆ ก็ได้ ถ้าใครเลือกไม่ได้ว่าควรทำแบบไหน แนะนำให้ไปปรึกษาที่คลินิกเลยค่ะ เพราะว่าสภาพผิวของแต่ละคน ก็มีวิธีการรักษาแตกต่างกันไป จะได้สวยเป๊ะ แบบไม่โป๊ะ!
นอกจากวิธีการที่ทำให้หน้าเด็กลงง่าย ๆ 10 วิธีนี้แล้ว ก็ยังมีวิธีอื่น ๆ อีก เช่น การงดสูบบุหรี่ การสครับผิวหน้าเบา ๆ เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และการมาสก์หน้าเพิ่มความชุ่มชื้นบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ผิวดี ดูอ่อนเยาว์ได้ และไม่ควรลดน้ำหนักแบบผิดวิธี เพราะน้ำหนักที่ขึ้น ๆ ลง ๆ อาจจะทำให้ผิวหนังสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินได้ หรือการแต่งตัว การแต่งหน้าอัพลุค การตัดผม หรือการปรับทรงคิ้ว ก็ทำให้ดูเด็กลงได้ ถ้าอยากดูแลผิวให้อ่อนวัย ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ สวยได้ไม่มีคำว่าสายค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ