**บทความนี้เป็นเพียงการแนะนำเหรียญ Cryptocurrency ยอดนิยมที่มีมูลค่า Market Capitalization สูงเพียงเท่านั้น ไม่ได้เป็นการแนะนำให้ลงทุนตามแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลของสินทรัพย์และความเสี่ยงก่อนลงทุนเสมอ**
แม้ว่าตอนนี้ราคาเหรียญหลักอย่างบิทคอยน์ (Bitcoin) จะอยู่ในแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง (ข้อมูล ณ วันที่ 22 มิ.ย. 2021) แต่ก็ไม่ได้ทำให้กระแสการลงทุนในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) นั้นแผ่วลงเลย สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโทฯ และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มลงทุนในเหรียญไหนก่อนดี วันนี้ Wongnai Beauty ก็มี 6 เหรียญคริปโทฯ ยอดนิยมมาแนะนำ ไปดูกันเลยว่าจะมีเหรียญไหนน่าลงทุน และน่ามีติดพอร์ตบ้าง!? (Not financial advice!)
มาดู! 6 เหรียญ Cryptocurrency ยอดนิยมมีอะไรบ้าง ?
1. Bitcoin (BTC)
บิทคอยน์ (Bitcoin) หรือ BTC ถูกสร้างขึ้นมาโดยผู้ใช้นามแฝงที่ชื่อว่า Satoshi Nakamoto ซึ่งบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Technology) ที่มีความโปร่งใสและเชื่อถือได้ในการบันทึกธุรกรรม หน้าที่หลัก ๆ ของบิทคอยน์คือถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้และผู้ใช้ด้วยกันโดยไม่ผ่านตัวกลาง ที่สำคัญบิทคอยน์ยังมีจำนวนจำกัดแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น จึงทำให้ราคาอาจเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต
2. Ethereum (ETH)
ถ้าพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล เหรียญแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงก็คือ Bitcoin แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกเหรียญหนึ่งที่ได้รับความสนใจไม่น้อยในวงการคริปโทฯ นั่นก็คือ อีเทอร์เรียม หรือ Ethereum นั่นเอง จุดเด่นก็คือมีระบบ Smart Contract ที่สามารถประยุกต์ใช้ในการทำธุรกรรมได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ Ethereum ถูกสร้างขึ้นมาด้วยจุดประสงค์ที่แตกต่างจาก BTC โดยสิ้นเชิง เพราะ Ethereum เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นแพลตฟอร์มให้เหล่านักพัฒนาสามารถเข้ามาพัฒนาระบบหรือเขียน Application ได้
3. Binance Coin (BNB)
Binance Coin หรือ BNB เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงในกระดานเทรดชื่อดังระดับโลกอย่าง “Binance” โดยเหรียญ BNB สามารถนำไปใช้ในการจ่ายค่าธรรมเนียมและลดค่าธรรมเนียมบนกระดานเทรดของ Binance อีกทั้งยังสามารถนำไปซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าต่าง ๆ ที่มีการรับชำระเป็นเหรียญ BNB ได้อีกด้วย ที่สำคัญเหรียญ BNB จะมีการเผาเหรียญออกจากระบบทุก ๆ 3 เดือน และจะหยุดทำเมื่อเหรียญ BNB เหลือแค่ 100 ล้านเหรียญ จากเดิม 200 ล้านเหรียญ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ราคาเหรียญ BNB มีโอกาสเพิ่มขึ้นได้เรื่อย ๆ ในอนาคต
4. Cardano (ADA)
อีกหนึ่งเหรียญยอดนิยม น่าจับตามอง และน่ามีติดพอร์ตก็คือ Cardano หรือ ADA นั่นเองค่ะ ซึ่งเหรียญนี้เปรียบเสมือนคู่แข่งของ Ethereum เลยก็ว่าได้ เพราะเหรียญนี้สามารถสร้าง Smart Contract ได้เหมือน Ethereum เลย นอกจากนี้ทางผู้พัฒนากล่าวว่า Cardano จะมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นในบล็อกเชนยุคก่อน ๆ ซึ่งประกอบไปด้วย ความสามารถในการเพิ่มขยาย (Scalability) ความสามารถในการทำงานร่วมกัน (Interoperability) และความยั่งยืน (Sustainability)
5. Ripple (XRP)
Ripple หรือ XRP ถูกสร้างขึ้นมาโดย Ripple Labs โดยจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนของ RippleNet ซึ่งเป็นเครือข่ายสำหรับองค์กรของ Ripple แน่นอนว่าข้อเสียของเหรียญ Ripple หรือ XRP ก็คือเค้าเป็นเหรียญแบบรวมศูนย์ และเป็น Private Blockchain จึงทำให้ความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมนั้นลดลง แต่ข้อดีของ XRP คือ ใช้เวลาในการประมวลผลธุรกรรมเพียงแค่ 4 วินาทีเท่านั้น แถมค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมยังต่ำอีกต่างหาก!
6. Litecoin (LTC)
Litecoin หรือ LTC ถือเป็นเหรียญทางเลือก (Alt coin) เหรียญแรก ๆ ที่แตกออกมาจาก Bitcoin เนื่องจาก LTC มีความปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมสูงเหมือน Bitcoin แต่จะแตกต่างกันตรงที่ LTC มีความรวดเร็วในการทำธุรกรรมมากกว่า Bitcoin และมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำมาก เรียกได้ว่าแทบจะเป็นศูนย์ นอกจากนี้ LTC มีจำนวนเหรียญสูงสุดไว้ที่ 75 ล้านเหรียญ ในขณะที่บิทคอยน์มีลิมิตแค่ที่ 21 ล้านเหรียญ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 6 เหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ยอดนิยมที่เราได้รวบรวมมาให้ในบทความนี้ จะเห็นเลยว่าแต่ละเหรียญนั้นมีหน้าที่ ข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไป สำหรับมือใหม่ที่ศึกษาข้อมูลของเหรียญแต่ละเหรียญและความเสี่ยงเกี่ยวกับตลาดคริปโทฯ อย่างละเอียดถ่องแท้แล้ว และคิดว่าเหรียญที่เราจะลงทุนนั้นเป็นเหรียญพื้นฐานดี อนาคตราคายังไปได้อีกไกล ก็เริ่มลงทุนเลยค่ะ อย่ารอช้า!
อ่านบทความเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนได้ ที่นี่
