ถ้าพูดถึงแหล่งรวมไลฟ์สไตล์คนกรุง ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่ถูกพูดถึงแบบต่อเนื่อง นาทีนี้ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึงห้างเปิดใหม่อย่าง “ห้างสามย่านมิตรทาวน์” ที่ถือเป็นทั้งขุมทรัพย์ทางด้านอาหาร แถมยังมีโซนร้านอาหารที่เปิดตลอด 24 ชม. เอาใจคนนอนดึกสุด ๆ นอกจากนั้นยังมีแหล่งการเรียนรู้ที่เปิดให้เข้าไปใช้กันได้แบบทั้งวันทั้งคืน งานนี้ล่ามทรงเลยขออาสาพาไปสำรวจห้างเปิดใหม่ขวัญใจหนุ่มสาว ว่าจะดีงามแค่ไหน! แล้วข้างในมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ถ้าพร้อมแล้ว เราจะไป สำรวจร้านเปิดใหม่ในสามย่านมิตรทาวน์ กับล่ามทรงนายฮ้อย! ไปดูกันว่าเขาจะพาเข้าร้านนู้นออกร้านนี้เยอะแค่ไหน รีบตามล่ามทรงนายฮ้อยมาสำรวจห้างสามย่านมิตรทาวน์ ห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่กันได้เลยยยย #มาช้าตกข่าวไม่รู้ด้วยนะ

1Muji Cafe and Meal
มาเดินสำรวจสามย่านมิตรทาวน์ ห้างเปิดใหม่ที่เป็นที่เที่ยวในกรุงเทพฯ สุดฮิป เลยต้องไม่พลาดแวะสำรวจที่คาเฟ่เล็ก ๆ กะทัดรัดร้านแรกอย่าง “Muji Cafe and Meal” ถือเป็นคาเฟ่ มูจิ แห่งแรกในประเทศไทย และเป็น Muji สาขาที่ใหญ่ที่สุดในไทยด้วยค่ะ ตัวคาเฟ่เป็นคาเฟ่ขนาดกะทัดรัด ซ่อนตัวอยู่ในร้าน Muji ถึงจะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็ถือเป็นมุมที่น่ารักอบอุ่นดี มีเมนูให้เลือกทั้งเครื่องดื่ม และขนม ให้กินกันได้เพลิน ๆ หลังจากที่เดินชอปในร้าน Muji ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ล่ามทรงไม่พลาดที่จะสั่งขนมและเครื่องดื่มมาชิม ทั้ง “คาเฟ่ลาเต้” (ราคา 75 บาท), “มัทฉะลาเต้” (ราคา 70 บาท) แล้วก็สั่งขนมมากิน เมนู “ครัวซองค์ออเลอแวง” (ราคา 40 บาท), “เค้กสตรอว์เบอร์รี” (ราคา 60 บาท) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูเลยละค่ะ แต่ดูท่าล่ามทรงจะเก็บท้องไว้กินร้านต่อไปด้วย เลยขอสั่งแค่นี้ก่อน

ใครที่มาเดินเล่นที่สามย่านมิตรทาวน์ หรือเป็นสาวก Muji แวะมาเดินเล่นซื้อของ ก็สามารถมาเดินเล่น แวะดื่มน้ำและกินขนมที่คาเฟ่มูจิได้ด้วย ถือเป็นการฆ่าเวลาที่ดีเลยค่ะ
2The Spicy House
ล่ามทรงบอกว่าอยากหาอะไรแซ่บ ๆ กระแทกปาก กระแทกพุง ทางเราเลยชวนไปกินบุฟเฟ่ต์ซดซุปหม่าล่าร้อน ๆ ที่ร้านอาหารสามย่านมิตรทาวน์อย่างร้าน "The Spicy House" ชั้น 4 หม่าล่ารสแท้จากสิงคโปร์ ที่มากินได้แบบไม่ต้องบินไปไกล! ความเลิศคือร้านนี้เราสามารถออกแบบความอร่อยได้ด้วยตัวเอง เริ่มด้วยการเลือกวัตถุดิบได้ตามชอบใจ ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก เห็ด และส่วนผสมอื่น ๆ อาหารทะเล อาหารทะเลพรีเมียม ลูกชิ้น ใครชอบกินอะไรก็หยิบได้ตามสะดวก ไม่ต้องตีกับคนข้าง ๆ ฮ่า ๆ แล้วก็มีทั้งเส้นมาม่า วุ้นเส้นให้เลือก เรียกได้ว่าตามใจตัวเองได้แบบสุด ๆ หลังจากเลือกส่วนผสมได้แล้ว ก็เลือกระดับความเผ็ดกันต่อ ตามด้วยเลือกว่าจะกินแบบแห้งและน้ำได้ เสร็จแล้วก็เอาส่วนผสมไปชั่งน้ำหนัก และชำระเงินพร้อมรับหมายเลข เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอที่โต๊ะ รอชิมปะทะความแซ่บที่เราออกแบบเองได้เลยสวย ๆ

ล่ามทรงมาสำรวจทั้งที ก็จัดไปชุดใหญ่! เดินหยิบนู่นตักนี่จนเต็มถ้วยไปหมด แถมสั่งระดับเผ็ดมากกก เรามันคนร้อนแรงอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว พอได้ชิมเท่านั้นแหละถึงกับร้องเสียงหลง! ด้วยความเผ็ดจนลิ้นชา พร้อมกับรสชาติที่เจ้มจ้น (จนต้องขอน้ำเพิ่ม)

นอกจากจะสามารถเลือกส่วนผสมได้เองแล้ว ที่นี่ก็มีเมนูอื่น ๆ ที่สามารถสั่งได้ทั้ง “ผัดเปรี้ยวหวาน”, “ไก่ทอดเสฉวน”, “ไก่ทอดสไปซี่เฮ้าส์ซอสเผ็ด”, “เนื้อหมูผัดพริกหยวก”, “ผัดเสฉวน” แล้วก็เมนู “ซุปเผ็ดสไปซี่เฮ้าส์” ใครที่ไม่อยากเลือกหรือเลือกเมนูไม่ถูก ก็สามารถสั่งมากินได้แบบไม่ต้องคิดมาก ฮ่า ๆ ๆ ใครที่ชอบความชาาา (ของหม่าล่า) แนะนำว่าควรมาเช็กอินร้านอาหารสามย่านมิตรทาวน์ร้านนี้ค่ะ รับรองว่าฟินเหมือนล่ามทรงแน่นอน
3Sushi Hiro
อีกร้านอาหารสามย่านมิตรทาวน์ที่เราอยากจะแนะนำ ก็คือร้านซูชิเลื่องชื่อโดนใจวัยรุ่นอย่าง “Sushi Hiro” ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นเมนูซูชิและปลาดิบคุณภาพดี เรื่องนี้ไม่ต้องพูดเยอะนะคะ.. ให้คนอื่นชมแทน แต่ที่นี่ก็มีเมนูอาหารอื่น ๆ ให้เลือกกินเหมือนกัน ใครที่เป็นสาวกปลาดิบก็แวะเวียนมาเช็กอินกันได้ แต่ขอกระซิบว่าร้านนี้เขามีโปรโมชั่นออกกันมาบ่อย ๆ ใครที่เป็นสาวกซูชิ ปลาดิบ ต้องรีบแวะไปกินที่ Sushi Hiro สามย่านมิตรทาวน์ ชั้น 4 เลยค่าาา

4Tokiojo Bangkok
กินกันต่อที่ Tokiojo Bangkok ร้านเด็ดไม่เหมือนใคร ร้านไก่ทอดสไตล์อเมริกัน-ญี่ปุ่น ร้านนี้ถือเป็นร้านขวัญใจวัยรุ่นของจริง เพราะมีเมนูเด็ด ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนใคร ด้วยการคิดค้นสูตรเองของเจ้าของร้าน หาใครเปรียบยาก ได้ยินยังงี้ก็ไม่รอช้า ล่ามทรงรีบถอดหมวกนักบินอวกาศ เข้าไปลิ้มลองร้าน Tokiojo Bangkok กัน

นั่งยังไม่ทันไร ก็รีบเปิดเมนูมาสั่งแบบทันควัน มาร้านนี้ต้องเปิดประเดิมที่เมนูไก่ทอดอย่าง “Chicken Strips” 6 ชิ้น (ราคา 198 บาท) มีซอสให้เลือกถึง 4 แบบ และเราสามารถเลือกซอสจิ้มได้ 2 ชนิด เลยเลือก Yuzu Mayo แล้วก็ Truffle Cheese นอกจากเมนูไก่ทอด เมนูชูโรงของร้านนี้แล้ว ยังมีเมนูอุด้ง สลัด และของกินเล่นให้กินอีกด้วย เราเลยสั่ง “Curry Udon, Crispy Chicken Skewer” อุด้งแกงกะหรี่ เสิร์ฟพร้อมไก่ทอดเสียบไม้ (ราคา 188 บาท) แล้วก็ “Tuna Sashimi Poke Bowl” (ราคา 220 บาท) สลัดทูน่าซาชิมิ ตามมาติด ๆ กับเมนู “Bao Bun” ซาลาเปาไก่ทอด เมนูที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครของร้านโตเกียวโจ เป็นเมนูที่ผสมผสานรสชาติได้เเบบลงตัวสุด ๆ ระหว่างซาลาเปาหอม ๆ กับไก่ทอดกรอบ ๆ ราดด้วยซอสโคชูจัง


ปิดท้ายด้วยการสั่งน้ำมาดื่มให้ชื่นใจกับเมนู “Yuzu x2” (ราคา 78 บาท) ขอบอกเลยว่ามาถึงตอนนี้ล่ามทรงเริ่มแน่นพุงแล้ว แต่ก็ไม่ย่อท้อ ขอไปชิมต่อที่ร้านต่อไป~ วันนี้ได้รับหน้าที่นักสำรวจความอร่อยในสามย่านมิตรทาวน์ เพราะฉะนั้นจะทำให้เต็มที่! การันตีว่ากินได้อีกหลายร้าน
5You&I Premium Suki Buffet
ถ้านึกถึงร้านชาบูระดับพรีเมียม หลายคนต้องนึกถึง “You&I Premium Suki Buffet” แน่นอน เพราะเขามีเมนูให้เลือกแบบละลานตา แถมยังคัดวัตถุดิบชั้นดี เนื้อเกรดพรีเมียม ด้วยราคาเริ่มต้น 498 บาท เอาใจสายกินจุที่อยากกินเมนูที่หลากหลาย แถมยังมีน้ำซุปให้เลือกถึง 8 แบบ แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าแม่อยากกินซุปนู้น ลูกอยากกินซุปนี้ เพราะเขามีแยกหม้อเฉพาะคนอยู่แล้ว เลือกซุปได้ตามชอบใจ นอกจากนี้ยังมีของหวานให้เลือกแบบหลากหลาย ตบท้ายมื้อพรีเมียมด้วยขนมไทย แล้วยังมีซุ้มทำแพนเค้กเอง ออกแบบได้ตามใจ และไอศกรีมปิดท้ายได้อย่างดีงาม ใครเป็นสายชาบูแวะมากินที่ You&I Premium Suki Buffet สามย่านมิตรทาวน์ได้เลย รับรองว่ากินได้จุใจ อิ่มได้ทั้งครอบครัว เลิศมากกก!

6Mei Wei Wan Noodles
ขอบอกก่อนเลยว่าสามย่านมิตรทาวน์เนี่ย เขารวมร้านอาหารไว้เยอะมาก และที่สำคัญคือหลากหลาย ไม่น่าเบื่อ กินได้แบบไม่ซ้ำวัน ที่สำคัญคือไม่ต้องบินไกลถึงไต้หวัน ก็ชิมก๋วยเตี๋ยวจากไต้หวัน ได้ที่ร้าน Mei Wei Wan Noodle บะหมี่ไต้หวันสูตรต้นตำรับ โดดเด่นด้วยวัตถุดิบนำเข้าจากไต้หวัน คัดสรรเนื้อน่องลายนำเข้าจากออสเตรเรีย นำมาตุ๋นเคี่ยวจนเข้าเนื้อ เป็นเอกลักษณ์หอมหวานพบได้เฉพาะที่เม่ยเว้ยหว่านเท่านั้น (ได้กลิ่นก็น้ำลายไหลแล้ว~)

ทันทีที่ล่ามทรงได้กลิ่นน้ำซุปหอม ๆ ยั่วยวนใจก็เลยรีบเลี้ยวเข้าไปชิม สั่งมาชิมกันหลายเมนู “หนิวโย่วเมี่ยนทาง” (ราคา 275 บาท) บะหมี่สไตล์ไต้หวัน กับเนื้อชิ้นโต ที่รสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ แล้วต่อด้วยเมนู “หรูโย่วฟ่าน” (ราคา 115 บาท) เมนูพื้นบ้านของทางไต้หวัน ต่อด้วยเมนู “จีโย่วฟ่าน" (ราคา 115 บาท) อีกหนึ่งเมนูแนะนำจากทางร้าน โดดเด่นด้วยข้าวญี่ปุ่น กินคู่กับอกไก่ฉีกที่เนื้อนุ่ม จากการเคี่ยวกับน้ำซุปไก่ แล้วยังมีเมนูกินเล่นอย่าง “จีโย่วจ้วน” (ราคา 95 บาท) เมนูของกินเล่นหนึ่งเดียวของร้านที่บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเขาเสิร์ฟไก่นุ่ม ๆ เคี่ยวกับซอสอย่างดี หั่นมาเสิร์ฟแบบพอดีคำ สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อ ก็มีเมนูมาเอาใจอย่าง “หยางชุนเมี่ยนทาง” (ราคา 245 บาท) ก๋วยเตี๋ยวที่เสิร์ฟพร้อมซอสปรุงรสสูตรพิเศษจากไต้หวัน คัดหมูสามชั้นมาอย่างดี ทำให้เราได้ลิ้มรสแบบต้นตำรับ

ใครที่อยากหาก๋วยเตี๋ยวสไตล์ไต้หวันกิน แนะนำว่าไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ แวะมาสามย่านมิตรทาวน์ แล้วแวะมากินที่ Mei Wei Wan Noodles ล่ามทรงเขานั่งยัน ยืนยัน นอนยัน ว่ามาร้านนี้ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน!
7เนื้อแท้
ใครเป็นคอเนื้อแล้วมองหาเนื้อคู่~ ที่เป็นร้านอาหารเด็ด ๆ ในสามย่านมิตรทาวน์ ทางเราขอแนะนำร้าน “เนื้อแท้” ร้านนี้เขาได้รับการันตีเรื่องเนื้อ แถมด้วยเมนูไทย ๆ ที่น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คน เพราะรสชาติจัดจ้าน ถึงเครื่อง เมนูที่เราสั่งก็คือ “ข้าวกะเพราเนื้อบด” (ราคา 90 บาท) แล้วก็สั่งอีกเมนูเนื้อ ๆ อย่าง “ข้าวเนื้อสไลซ์คะน้าน้ำมันหอย” (ราคา 100 บาท) ซึ่งเมื่อสั่งมาชิมก็ไม่ผิดหวังค่ะ รสชาติกลมกล่อม ชูโรงด้วยเนื้อวัวของทางร้าน

ที่สำคัญราคาก็ไม่แรงมากด้วย กินกันได้ทุกเพศทุกวัย ที่สำคัญคือรสชาติถูกปากคนไทย ที่ชอบอะไรแซ่บ ๆ แน่นอน หลังจากที่ตะลุยกินถึง 5 ร้านแบบจุก ๆ แถมยังสำรวจร้านเด็ดในสามย่านมิตรทาวน์ถึง 7 ร้าน ก็ขอบอกเลยว่าควรค่ากับการมาฝากท้อง (ที่หิว) มากจริง ๆ แล้วนอกจาก 7 ร้านที่เราพูดมา ยังมีอีกหลากหลายร้านให้เลือกชิมกันอีกเพียบบบบ เพราะที่พูดมานี่เหมือนเป็นแค่ออร์เดิร์ฟความอร่อย


สำหรับวันนี้ ก็กินกันจนอิ่ม เดินเล่นที่เที่ยวในกรุงเทพฯกันจนเกือบหมดวัน เที่ยวห้างสามย่านมิตรทาวน์ กับล่ามนายฮ้อย ทั้งได้กินร้านเด็ดที่มีอยู่ในสามย่านมิตรทาวน์ แล้วยังได้เดินเที่ยวเล่นกันจนเพลิน แต่บอกเลยว่านี่เป็นแค่ส่วนเดียวเท่านั้นกับของดีที่มีอยู่ในสามย่านมิตรทาวน์

ยังมีโซนอื่น ๆ ที่ล่ามทรงยังเดินไปสำรวจไม่ครบ ถ้าอยากรู้ว่าสามย่านมิตรทาวน์มีอะไรบ้าง.. ต้องลองไปสำรวจกันเองได้เลย เพราะล่ามทรงเขากระซิบไว้ว่า จะมาเดินใหม่ แล้วเก็บให้ครบ สำหรับใครไม่รู้ว่าเที่ยวไหนดีในกรุงเทพฯ ทริปเที่ยวกรุงเทพสนุก ๆ ก็ไปอ่านต่อกันได้ที่ ตะลุยกิน เที่ยว ถ่าย 1 วันชิค ๆ ตามเส้น BTS ฝั่งธน และ ที่เที่ยวกรุงเทพฯ แบบงบน้อย 500 ก็เอาอยู่! สำเพ็ง-สะพานพุทธฯ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด อย่าลืมกดไลก์เพจ Wongnai Travel ไว้ รับรองว่ามีทั้งที่เที่ยว ที่กินครบ ถูกใจทุกคนแน่นอนค่าา~ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปเดินเล่นต่อก่อนค่าา~