I'm Blind (แอมไบด์) ปิ่นเกล้า

I'm Blind ร้านอาหาร Dine In The Dark แห่งใหม่ เจ้าของร้านเดียวกันกับ Neta Sushi ที่เปิดขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยหารายได้สมทบให้กับผู้พิการทางสายตา โดยที่ร้านนี้จะเปิดเพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นคือตั้งแต่ มกราคม-เมษายนนี้เท่านั้นครับ ร้านนี้ดีมากจริงๆครับ ผมชอบตั้งแต่รู้ว่าทางร้านตั้งใจจะเปิดขึ้นมาเพื่อช่วยผู้พิการทางสายตา แล้วก็อยากมาลองทานนานมากแล้วแต่ก็ไม่มีโอกาสสักที วันนี้แวะมาจอดรถที่นี่พอดีก่อนไปออกกำลังกายเดินผ่านเลยชวนเพื่อนมาลองเปิดประสบการณ์ใหม่ดู จุดขายของที่ร้านจริงๆคงไม่ใช่ในเรื่องของอาหารแน่ๆ แต่อยากบอกเลยครับว่าวันนี้ทางร้านก็ทำอาหารออกมาได้อร่อยจริงๆ เพราะได้เชฟจาก Neta Sushi ที่มีรางวัลการันตีมากมาย อาหารของทางร้านสามารถเลือกได้ด้วยว่าเราอยากจะทานแบบไหนหรืออะไรที่ไม่อยากทานบ้าง แต่สิ่งที่ผมได้รับมากกว่าความอิ่มอร่อยของอาหารก็คือความอิ่มใจครับที่ได้มีส่วนร่วมในการทำบุญครั้งนี้ด้วย คงมีไม่กี่คนจริงๆที่จะมีโอกาสได้ลองใช้ชีวิตอยู่ในความมืด อยากบอกเลยว่ามันไม่สนุกเอาซะเลยครับ ถ้าเราไม่มีโอกาสมองเห็นอะไรเลย แต่คนพวกนี้ก็ไม่ยอมแพ้ครับ สู้กับโชคชะตาได้อย่างแข็งแกร่งมาก ผมได้คุยกับพนักงานในร้านที่ดูแลผม ชื่อ "ไอซ์" ครับ น้องดีมาก ชวนคุยตลอด ทำให้ได้เห็นข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิต ผมเองเป็นคนที่ไม่ค่อยจะไปยื่นมือให้ความช่วยเหลือเวลาเจอคนตาบอดสักเท่าไร แต่หลังจากวันนี้ขอยืนยันเลยครับว่าถ้าผมได้เจอพวกเค้าเหล่านี้เมื่อไร ผมยินดีและเต็มใจอย่างมากที่จะช่วยเหลือเค้าครับ ร้านดีๆแบบนี้ต้องรีบมาบอกต่อเลยครับ ใครที่อยู่แถวนี้หรือสะดวกมาแถวนี้ลองมาทานดูครับ เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้ว ยังไงอิ่มใจจากการให้ครั้งนี้แน่นอนครับ [การเดินทาง] ร้านนี้ตั้งอยู่ที่่ชั้น 1 (หรือจริงๆแล้วก็คือชั้น 2) ของโครงการ The Sense ปิ่นเกล้าครับ ร้านอยู่ติดกับร้าน Doma อาหารเกาหลี ผมชอบคอนเซปท์ของร้านนี้จริงๆตั้งแต่ก้าวขาออกมาจากลิฟท์เลยครับ เพราะว่าจะมีรอยเท้าบอกทางให้มาถึงร้านได้เลย ถือว่าเป็นคอนเซปท์ที่ดีมากจริงๆ โครงการนี้อยู่เลยห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้ามานิดเดียวครับ สามารถขับรถเข้ามาจอดได้เลยในโครงการมี่ที่จอดรถให้ครับ [บรรยากาศ/การบริการ] ร้านนี้บรรยากาศไม่มีอะไรเลยครับนอกจากความมืดอย่างเดียวเลย เข้าไปด้านในนี่ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเพ่งยังไง จะมองยังไงก็ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นเลย เรียกได้ว่าปิดประสาทตาไปเลยครับ ด้านในมีอุปกรณ์การทานพร้อมหมดทุกอย่าง ลูกค้าวันธรรมดาไม่เยอะเท่าไร สามารถ walk-in ได้ แต่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นั้นทางร้านบอกว่าบุคเต็มตลอด เป็นไปได้โทรบุคไว้ก่อนจะดีกว่าครับ การบริการทั้งหมดทุกอย่างวันนี้ถูกทำโดยผู้พิการทางสายตาทั้งหมดครับ ผมทึ่งในความสามารถของพวกเค้ามากจริงๆครับ การบริการทุกอย่างนั้นพวกเค้าทำได้เหมือนกับคนที่สายตาปกติเลย ระหว่างการทานก็ชวนคุยด้วยตลอด คุยนั้นคุยนี่จนทำให้รู้สึกว่าเวลาชั่วโมงครึ่งที่ผมอยู่ในห้องมืดนั้นมันผ่านไปเร็วเลยครับ [รสชาติอาหาร/ความคุ้มค่า] ร้านนี้เป็นร้านอาหาร Dine In The Dark หรือการทานอาหารอยู่ในความมืดนั่นเองครับ เราสามารถเลือกคอร์สอาหารทานได้เองจากตัวเลือกของทางร้านก็คือ ไทย ญี่ปุ่น แล้วก็มังสวิรัติครับ ทั้งหมดนี้ราคา 550 บาทเท่านั้น ทางร้านจะเปิดเป็นรอบๆให้แต่ละคนเข้าไปทานได้พร้อมๆกัน โดยที่รายได้ทั้งหมดหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วทางร้านจะนำไปบริจาคให้กับผู้พิการทางสายตาทั้งหมดครับ ถือว่าได้ทำบุญไปในตัวด้วยเลยครับ วันนี้ผมเลือกทานอาหารไทยครับ ส่วนเพื่อนผมเลือกทานอาหารญี่ปุ่น บอกเลยว่าตอนทานสนุกมากๆครับ มันมืดมากจริงๆ อาหารจะเสิร์ฟมาในกล่องเบนโตะ วิธีการทานเนี่ยก็ให้คลำๆดูก่อนว่าแต่อุปกรณ์อยู่ตรงไหน แล้วก็ใช้ช้อนหรือส้อมตักขึ้นมาทาน หรือจะจิ้มเอาก็ได้ แล้วแต่สะดวกเลยครับ ทำอะไรในนั้นไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว ฮ่าๆ ระหว่างทานไปพนักงานในร้านก็จะมาชวนคุย ถามถึงอาหารแล้วก็คุยเรื่องสัพเพเหระอื่นไปด้วย พนักงานถามผมเหมือนกันว่าแต่ละอย่างที่ทานไปนั้นมีอะไรบ้าง จะบอกว่าผมตอบถูกเกือบหมดเลยครับ ออกมาก็จะมีเฉลยให้ดูด้วยว่าเราทานอะไรเข้าไปครับ แต่วันนี้ผมขอไม่เฉลยละกันนะครับ อยากให้ลองไปทานดูเองจะได้ลุ้นไปด้วยว่าข้างในมีอะไรบ้าง [ภาพรวม] วันนี้ไม่มีคำติอะไรให้กับทางร้านครับ อาจจะมีข้อบกพร่องเล็กๆน้อยๆที่ผมว่ามันไม่สำคัญเลยเมื่อเทียบกับความประทับใจที่ผมได้มาในวันนี้ การได้ลองใช้ชีวิตเป็นคนมองไม่เห็นแค่ชั่วโมงกว่าๆนี่มันแสนลำบากจริงๆ เข้าใจความรู้สึกของคนที่มองไม่เห็นแล้วครับว่าเป็นอย่างไร เอาเป็นว่า ร้านนี้แนะนำให้มาลองดูจริงๆครับ เพราะนอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังอิ่มใจด้วย รีบๆมาก่อนทางร้านจะปิดตัวลงสิ้นเดือนเมษายนนี้นะครับ