คู่มือสั่งกาแฟเป็นภาษาอังกฤษ ฉบับคนอยากสปีคอิงลิช
  1. คู่มือสั่งกาแฟเป็นภาษาอังกฤษ ฉบับคนอยากสปีคอิงลิช

คู่มือสั่งกาแฟเป็นภาษาอังกฤษ ฉบับคนอยากสปีคอิงลิช

เปิดคู่มือการสั่งกาแฟฉบับภาษาอังกฤษที่คอกาแฟ และสายคาเฟ่ฮอปปิงห้ามพลาด! ใครกำลังกลัวการพูดภาษาอังกฤษ หรืออยากลองสปีคอิงลิชแบบง่าย ๆ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณรอด!

ร้านกาแฟทั่วฟ้าเมืองไทยมีมากมาย สายคาเฟ่ฮอปปิงก็ตามรอยกันแทบไม่หมด แต่เคยไหม? เดินเข้าร้านไปพนักงานกลับพูดเป็นภาษาอังกฤษ บางทีก็สับสนไม่รู้จะเลือกกาแฟแบบไหนดี หรืออยากลองฝึกพูดภาษาอังกฤษจากการสั่งกาแฟ คู่มือนี้จะช่วยให้คุณรอด สปีคอิงลิชคล่องไม่มีสะดุด ได้จิบกาแฟเพลิน ๆ สมใจอยาก พร้อมแล้วหยิบกระดาษ และปากกาขึ้นมาเตรียมจดกันเลย!

ส่วนใครที่อยากฟังเกร็ดความรู้อาหารนานาชนิด แถมยังได้ร้านดีร้านเด็ดวันละร้านไว้ตามไปกินแบบไม่ต้องนึกให้เสียเวลา พลาดไม่ได้กับวงในพอดแคสต์ "วงในวันละร้าน" ที่จะให้คุณแบบไม่กั๊ก จะฝ่ารถติดตอนเช้า กินข้าวตอนพักเที่ยง หรือนอนเปื่อยอยู่ห้อง ก็กดฟังกันแบบเพลิน ๆ เรื่องราวความเป็นมาของอาหาร แพ็คคู่มาด้วยร้านน่าลองที่สายกินต้องอดใจไม่ไหว! ไม่อยากพลาด ต้องตามไปฟังกันเลย!  

รู้ไว้ใช่ว่า ศัพท์กาแฟเบื้องต้น

ประเทศอิตาลีเป็นประเทศแรก ๆ ในโลกที่รู้จักการทำกาแฟ โดยมีประวัติศาสตร์กาแฟอันแสนยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เลยทีเดียว ไม่แปลกที่คำศัพท์เกี่ยวกับกาแฟกาแฟส่วนใหญ่จะมาจากภาษาอิตาเลียน เรามาเริ่มต้นทำความรู้จักกาแฟแบบต่าง ๆ และศัพท์น่ารู้กันเลย!

1.Espresso

เป็นกาแฟที่สกัดจากเครื่องเอสเปรสโซแรงดันสูง ทำให้ได้กาแฟรสชาติเข้มข้น พอกดออกมาจะได้เอสเปรสโซ 1 ช็อต หากไปที่ร้านกาแฟ แล้วได้ยินคำว่า “Espresso Doppio” คำว่า "Doppio" หมายถึง Double ซึ่งก็คือเอสเปรสโซ 2 ช็อต นั่นเอง เอสเปรสโซมักจะเป็นเบส หรือสารตั้งต้นให้กับกาแฟชนิดอื่น ๆ

Espresso

2.Coffee Beans

เวลาสั่งกาแฟ หรือซื้อเมล็ดกาแฟ เราอาจจะเห็นคำว่า Dark Roast (คั่วเข้ม), Medium Roast (คั่วกลาง) หรือ Light Roast (คั่วอ่อน ) ซึ่งก็คือเมล็ดกาแฟที่ได้จากต้นกาแฟจะต้องเข้าสู่กระบวนการคั่ว ถ้ากาแฟคั่วอ่อนจะคงรส และกลิ่นของความเป็นผลไม้ที่เปรี้ยวนิด ๆ เอาไว้ ส่วนกาแฟคั่วเข้มเกิดจากการคั่วที่นานจนน้ำมันในเมล็ดไหลออกมาเคลือบผิวกาแฟ จนได้รสชาติกาแฟที่ขมเข้ม ไม่มีกลิ่นของผลไม้เหลืออยู่

Coffee Beans

3.Americano

คือการนำเอสเปรสโซที่มีความเข้มข้นมาเจือจางลงโดยการเติมน้ำร้อน “Americano” เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า แบบอเมริกัน ที่ชื่อแบบนี้เพราะคนอเมริกันมองว่าเอสเปรสโซเข้มเกินไป จึงต้องเติมน้ำเข้าไปให้ดื่มง่ายขึ้นค่ะ

Americano

4.Cappucino

คือเอสเปรสโซที่ผสมกับนมที่สตีมมาแล้วในปริมาณเล็กน้อย เน้นการเติมฟองนมด้านบน ได้สัมผัสนุ่ม ๆ เบา ๆ แต่ยังเข้มกว่าลาเต้

Cappucino

5.Latte

“Latte” เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า นม ลาเต้เกิดจากการผสมเอสเปรสโซกับนมที่สตีมมาแล้วมักจะท็อปด้วยโฟมนมประมาณ 1 เซนติเมตร บางครั้งอาจใส่เอสเปรสโซในแก้วก่อน และเทนมสตีมลงไปทำเป็นลวดลายต่าง ๆ เช่นรูปหัวใจ หรือใบไม้ เราเรียกกันว่า “Latte Art” นั่นเอง

Latte

6.Flat White

กาแฟนมรสละมุน ที่เกิดจากการผสมเอสเปรสโซ 1 ส่วน กับนมที่ผ่านการสตีม 2 ส่วน ต่างจากลาเต้ที่ไม่มีฟองนมด้านบน

Flat White

7.Mocha

เอสเปรสโซที่ผสมกับช็อกโกแลตซีรัป และนมที่สตีมแล้ว รสชาติคล้ายกับการกินโกโก้ผสมกาแฟ

Mocha

8.Macchiato หรือ Espresso Macchiato

คือเอสเปรสโซ 1 ช็อต ผสมด้วยฟองนม “Macchiato” เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า ที่มีรอยด่าง สาเหตุที่เรียกว่ากาแฟที่มีรอยด่างก็เพราะเอสเปรสโซสีเข้มจะมีรอยด่างจากโฟมนมที่เติมลงไปนั่นเอง เราอาจจะเคยได้ยินชื่อเมนู “Caramel Macchiato” ซึ่งก็คือเอสเพรสโซผสมกับนมสตีม และวานิลลา ท็อปด้วยฟองนมราดคาราเมลนั่นเอง

Macchiato

9.Drip Coffee

กาแฟดริปคือกาแฟที่ชงผ่านการเทน้ำร้อนลงบนเมล็ดกาแฟคั่วบด รอจนน้ำไหลผ่านตัวกรอง (Filter) ไม่ได้นำเข้าเครื่องแรงดันเหมือนเอสเปรสโซ ทำให้ได้กาแฟที่คงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์จากเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ต่าง ๆ เอาไว้ นักชิมกาแฟจึงได้ดื่มด่ำรสชาติของเมล็ดที่แท้จริง

Drip Coffee

10.Cold Brew Coffee

กาแฟที่ชงด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องเป็นเวลาขั้นต่ำ 12-24 ชั่วโมง โดยการเทน้ำลงบนกาแฟบดหยาบแล้วแช่ทิ้งไว้ หลังจากนั้นค่อยกรองเอากากออก ได้รสหวานของเมล็ดกาแฟชัดกว่า ไม่เฝื่อนหรือฝาดลิ้น

Cold Brew Coffee

11.Dirty Coffee

วิธีการชงคือการนำแก้วใส่นมสด นำไปวางรองกาแฟที่กำลังถูกสกัดจากเครื่อง ดังนั้นขอบแก้วก็จะเลอะด้วยคราบของกาแฟ เป็นที่มาของชื่อ "Dirty Coffee" นั่นเอง

Dirty Coffee

How to order a coffee?

มาถึงวิธีการสั่งกาแฟเป็นภาษาอังกฤษ ฉบับเบสิกสำหรับคนอยากสปีกอิงลิช รับรองว่าสั่งกี่ครั้งก็รอด ได้จิบกาแฟเพลิน ๆ สมใจแน่นอน

1.การสั่งเมนูต่าง ๆ

เมื่อเดินเข้าไปในร้านกาแฟสักร้าน ประโยคแรกที่พนักงานมักจะถามคือ “What would you like to drink?” หรือ “What can I get you?” ซึ่งเทียบได้กับภาษาไทยง่าย ๆ ว่า “รับอะไรดีคะ” นั่นเอง ถ้าเราอยากสั่งเมนูไหน แค่พูดว่า “Can I have...” ตามด้วยชื่อเมนูได้เลย อย่างเช่น “Can I have Espresso, please?” หรือ “Can I have Cappuccino, please?

How to order a coffee?

2.การเลือกชนิด และเมล็ดกาแฟ

บางครั้งพนักงานอาจจะถามว่าปกติแล้วเราชอบกาแฟแบบใส่นม หรือกาแฟดำเข้ม ๆ พนักงานจะถามว่า “Do you prefer coffee with milk or black coffee?” ซึ่ง "Coffee with milk" คือกาแฟใส่นม ส่วน "Black coffee" คือกาแฟดำนั่นเอง พนักงานอาจจะถามต่อว่า “Which types of coffee beans would you like to have?” หมายความว่าอยากได้เมล็ดแบบไหน อย่างเช่น เมล็ดเอธิโอเปีย บราซิล หรือโคลอมเบีย เราสามารถตอบได้เลยว่า “Ethiopian coffee beans, please.”

การสั่งกาแฟภาษาอังกฤษ

3.ขนาดแก้ว

สำหรับขนาดแก้ว พนักงานจะถามว่า “What size would you like?” หมายความว่าเราอยากได้แก้วขนาดไหน เราสามารถตอบได้เลยว่า “Large, please.” คือแก้วใหญ่ หรือ “Small, please.” คือแก้วเล็ก ส่วนใครนำแก้วมาเองสามารถพูดได้ว่า "I have brought my own bottle." ใครอยากรักษ์โลกเพิ่มก็ลองบอกพนักงานว่า "No straw, please."  หมายถึง ไม่เอาหลอดนั่นเอง

การสั่งกาแฟ

4.ความหวาน

หากเราสั่งกาแฟ พนักงานมักจะถามว่า “Do you want to add more cream or sugar?” หมายถึง อยากเพิ่มครีม หรือน้ำตาลไหม สามารถตอบได้ว่า “Yes, please.” หรือ “No, I’m OK with this.” หรืออาจจะใช้คำว่า “less sugar” คือหวานน้อย หรือ “more sugar” คือเพิ่มหวาน

การสั่งกาแฟ

5.กินนี่ หรือรับกลับ

เมื่อสั่งเสร็จเรียบร้อย พนักงานจะถามต่อว่า “For here or to go?” หมายถึงกินที่นี่หรือรับกลับนั่นเอง แค่ตอบว่า “For here, please.” หรือ “To go, please.” ก็เข้าใจแล้ว

การสั่งกาแฟ

6.รับอะไรเพิ่มไหมคะ?

เมื่อเราสั่งเครื่องดื่มเสร็จทั้งหมดแล้ว พนักงานอาาจะถามต่อว่า "Is that all for you today?" หมายถึงจะรับอะไรเพิ่มอีกไหม เราอาจตอบว่า "No, thanks." คือ ไม่เอาแล้ว หรือ “Yes, please. Can I have…” แล้วแต่ว่าอยากจะสั่งอะไรเพิ่ม

การสั่งกาแฟ

7.สั่งขนม

หากเราอยากสั่งขนมอื่น ๆ ในร้านเพิ่มเติม เราสามารถพูดได้ว่า "Can I have…?" ตามด้วยชื่อเมนูเช่นเดิม พนักงานอาจจะถามต่อว่า “Would you like me to heat these?” คืออยากให้อุ่นร้อนไหม เราก็ตอบได้เลยว่า "Yes, please." หรือ "No, thank you."

การสั่งกาแฟ

8.ถามราคา

ถ้าอยากรู้ราคา ก็ถามได้ง่าย ๆ ว่า “How much?” พอพนักงานบอกราคามา เขาอาจจะถามต่อว่า "Will that be cash or credit card?" หมายถึงจะจ่ายเงินสดหรือจ่ายบัตร เราตอบได้เลยว่า “Cash, please.” หรือ “Card, please” หรือถ้าใครอยากโอนเงินก็สามารถพูดได้ว่า "Can I pay via transaction?"

การสั่งกาแฟ

ข้อมูลอ้างอิง

The New York Times. 2553, “A Glossary of Coffee Terms” [online] เข้าถึงจาก https://www.nytimes.com/2010/03/10/dining/10glossary.html สืบค้นเมื่อ18 กรกฎาคม 2561

Bluekoff. 2561, “คู่มือการสั่งกาแฟฉบับ Specialist” [online] เข้าถึงจาก https://www.bluekoff.com/Article.aspx?m=view&id=22#:~:text=Flat%20White%20%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9F,Milk%20%2BMicro%20Foam%201%20CM. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2561

Coffee Edu, “รสสัมผัสของกาแฟ จากการคั่ว 3 ระดับ” [online] เข้าถึงจาก http://coffee-education.com/coffeeroast/ สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2561

สนุกกันต่อกับสาระเรื่องอาหารที่สายกินห้ามพลาดได้ที่นี่