#วงในบอกมา
คุณแคท - มาริสา โอสรประสพ เจ้าของร้าน Nature's Charm Cafe และครอบครัวกินอาหารวีแกนมาโดยตลอด จึงมีสูตรอาหารวีแกนของที่บ้านที่อยากจะแบ่งปัน
คาเฟ่นี้เปรียบได้กับ Sister Brand ของ Loving Hut ร้านอาหารมังสวิรัติของคุณพ่อคุณแม่ของคุณแคท
ที่นี่ไม่ใช่คาเฟ่ที่เปิดเพื่อชาววีแกนเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนที่ไม่ใช่วีแกนมาลองกินแล้วชอบ
เมื่อการกินอาหารไม่ได้มีขีดจำกัดอีกต่อไป ไม่ว่าการกินวิถีไหนก็ทำได้ง่ายในตอนนี้ จากความยุ่งยากของวิถีการกินบางอย่างถูกทำให้ง่ายเข้า ทำให้คนกินมีทางเลือกที่มากขึ้น เช่นเดียวกับสายรักสุขภาพที่เริ่มหันมากินอาหาร Vegan และ Plant-based ที่ลดการกินเนื้อสัตว์กันมากขึ้น จึงเกิดร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่ครีเอตเมนูอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ในแบบที่กินแล้วรสชาติดี ทำให้คนที่กำลังเริ่มกินอาหารแนวนี้มีกำลังใจในการกิน เช่นเดียวกับการเปิดตัวของ Nature's Charm Cafe
คุณแคท - มาริสา โอสรประสพ เจ้าของร้าน Nature's Charm Cafe และครอบครัวกินอาหารวีแกนมาโดยตลอด จึงมีสูตรอาหารวีแกนของที่บ้านที่อยากจะแบ่งปัน ที่สำคัญธุรกิจอีกขาหนึ่งของเธอยังเป็นโรงงานกะทิตราสมุย และ Chef’s Choice ที่ส่งออกกะทิไปยังต่างประเทศมาโดยตลอด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่เองก็เป็นผู้ริเริ่มกินอาหารมังสวิรัติมาตั้งแต่เธอยังเด็ก ส่วนตัวเธอมาเริ่มกินภายหลังแต่ก็กินมาอย่างยาวนานแล้วส่งต่อไปยังลูก ๆ ของเธอด้วย
แต่เมื่อถามถึงจุดเริ่มต้นก่อนที่จะเปิดคาเฟ่แห่งนี้ เธอเล่าย้อนไปเมื่อ 6 ปีก่อน ที่น้องสาวของคุณแคทเริ่มทำ Nature's Charm แบรนด์กะทิข้นหวาน (Sweetened Coconut Condensed Milk) ได้เป็นเจ้าแรกในโลกที่อยู่ในรูปของกระป๋องส่งออกไปยังต่างประเทศ และนั่นคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้อยากเปิดคาเฟ่
“เราทำสินค้านี้ขึ้นมาเพราะเวลากินวีแกน เวลาไปงานก็จะโดนให้กินผลไม้ สลัดน้ำใสหรือไม่มีน้ำ พอมีอันนี้ก็ตอบโจทย์เพราะทำขนมได้หลายอย่าง ไอศกรีมก็ได้ เวลาออกงานแสดงสินค้าคนก็จะถามว่ากะทิข้นหวานเอาไปทำอะไรได้ เลยคิดว่าถ้าเราทำคาเฟ่ขึ้นมาโชว์เคสว่าเราทำอะไร แล้วอีกอย่างเราอยากให้คนรู้สึกว่าอาหารวีแกนไม่จำเจไม่น่าเบื่อ กินได้เหมือนคนปกติ”
เธอเคยพูดคุยกับเพื่อน ๆ หลายคนคิดว่าอาหารวีแกน อาหารเจ เป็นอาหารรสจืด หมี่กึง โปรตีนเกษตร และผักต้ม แต่สมัยนี้มีทุกอย่างหมด อยากได้นม ชีส เนย มีแบบเจหมด เธอจึงรู้สึกว่าไม่ได้อยากเปิดคาเฟ่เพื่อกลุ่มวีแกน แต่เธออยากให้คนที่มารู้สึกว่ากินง่าย รสชาติดี ปรับความคิดให้คนมองว่าการกินวีแกนก็ไม่ได้ยากและอาหารก็รสดี
คุณแคทบอกว่า ผลิตภัณฑ์วีแกนของคาเฟ่ไม่ได้มีแค่กะทิที่ทำเป็นนมข้น วิปครีม และซอสคาราเมลเท่านั้น แต่ยังมีขนุนและหัวปลีที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง ที่สำคัญไม่ได้ผ่านกระบวนการอะไรมากมายแบบเนื้อสัตว์เจที่ผ่านการแปรรูปเยอะ นำมาทำเป็นเมนูได้อย่างหลากหลาย ซึ่งคนอินเดียที่เป็นมังสวิรัติก็นำเอาขนุนมาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ เพื่อทดแทนการขาดโปรตีนด้วยเช่นกัน ทำให้ Nature's Charm Cafe มีความเป็นคาเฟ่วีแกนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แน่นอนว่าด้วยความเป็นคาเฟ่อาหารวีแกนของที่นี่จึงทำออกมาให้หน้าตาสวยงาม แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณแคทค่อนข้างใส่ใจก็คือ “รสชาติ” ด้วยเธอและครอบครัวทำอาหารวีแกนกินเอง ทำให้เธอพลิกแพลงวัตถุดิบหลายอย่างออกมาให้น่ากินได้
อาหารวีแกนของที่นี่กินไม่ยาก เพียงแต่ต้องเปิดใจและไม่ใส่ใจว่าวัตถุดิบนั้นทำมาจากอะไร ลองกินโดยไม่คิด ซึ่งแน่นอนว่าเราก็จะไม่บอกเพราะอยากให้ลองไปกินเอง แต่เรากล้าบอกว่ารสชาติดี อย่าง Breakfast of the Champions ฟูลอิงลิชเบรกฟาสต์ที่มีทีเด็ดอยู่ที่เบคอน และยังมีไส้กรอก ถั่วอบ ไข่คน เห็ดผัด และขนมปัง ทั้งหมดไม่มีเนื้อสัตว์แต่รสชาติดี
อีก 2 เมนูทอดก็ใช้โปรตีนที่ทำเองของร้าน Nature's Charm Fish & Chips ปลาฟิลเลย์โฮมเมดที่เนื้อสัมผัสไม่ต่างจากปลาทอด กินกับมันฝรั่งทอด ถั่วบด และทาร์ทาร์ซอส ส่วน Chick’n Pops & Slaw ไก่ป๊อปที่ใช้โปรตีนอีกชนิดทอดด้วยแป้งที่ให้กลิ่นรสเหมือนเรากินไก่ป๊อป กินกับมันบดราดเกรวีและโคลด์สลอว์
เมนูนี้ก็เช่นกันที่ทำออกมาได้ดี Nature's Charm Poke Bowl โบลว์ข้าวญี่ปุ่นกับทูน่า แซลมอน ถั่วอิดามาเมะ เต้าหู้ สาหร่ายวากาเมะ อะโวคาโด ขนุน ที่ทุกอย่างเป็นวัตถุดิบจากพืชที่ผ่านไม่ผ่านกระบวนการอะไรมาก เพียงแต่ปรุงรสชาติให้จัดขึ้น
แต่ที่เราว่าเอาลูกค้าที่ไม่ใช่วีแกนอยู่น่าจะเป็นเครื่องดื่มและของหวานที่นำเอากะทิมาทำได้หลากหลายเมนู อย่าง What Pancake Dreams are made of ที่ไม่ได้ใช้ไข่ แต่อาศัยผลไม้บดหรือเมล็ดธัญพืชช่วยให้เนื้อแพนเค้กฟู กินกับผลไม้สด วิปครีมกะทิ ซอสคาราเมลกะทิ และไอศกรีมโฮมเมด So Matcha in Love ชาเขียวกับกะทิข้นหวานก็หอมรสดีใช้ได้เลย อีกแก้วเป็น Bubbly Violet Yuzu น้ำอัญชันยุซุโซดา
เราสรุปการกินวีแกนวันนี้ให้ฟังแบบนี้ แม้ว่าคุณแคทจะไม่ได้บอกว่าวัตถุดิบนั้นคืออะไร แต่หลายอย่างก็พอเดาได้เองแต่ต้องลองกินก่อน ยิ่งกินแบบเปิดใจแล้วเราว่ารสชาติดี จนบางครั้งเราก็ว่ารสดีกว่าเมนูออริจินอลอีก แล้วก็เป็นเรื่องจริงทุกครั้งที่เวลาไปกับเพื่อนที่กินมังสวิรัติแล้วเชฟร้านอาหารรางวัลทำเมนูมังสวิรัติให้อาหารมังสวิรัติของเพื่อนดูน่ากินกว่าอาหารปกติของเราอีก เราสรุปสั้น ๆ ว่า “ต้องลองแหละ"
ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่
Karmakamet Conveyance ร้านที่เล่าถึงอาหารในมุมของ Experiencing Art
Cadence ร้านอาหารใหม่ในแบบของฉันที่บอกเล่าชีวิตของเชฟ Dan Bark
Don’t Miss 16 Yakiniku x Shabu Shabu in Bangkok ปิ้งก็ได้จุ่มก็ดี
Don’t Miss 18 Cafes and Restaurants in Historic Building in Bangkok
Don’t Miss 16 Omakase under 2,500++ โอมากาเสะราคาดีที่ต้องลอง
Don’t Miss 10 Cafe in Sammakorn Village ชวนคาเฟ่ฮอปปิงหมู่บ้านสัมมากร
