“ลาบก้อย” อาหารอีสานสุดแซ่บถูกปากคนไทยที่ได้ยินกันจนติดหู พูดกันจนติดปาก ด้วยรสชาติที่จัดจ้านบวกกับความหอมของข้าวคั่ว และสมุนไพรไทยหลากชนิด กินพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ ทำให้ “ลาบก้อย” กลายเป็นเมนูยอดฮิตที่ใครก็ติดใจไม่ต่างจากส้มตำเลยทีเดียว แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยสงสัยกันว่าสรุปแล้วลาบกับก้อยเหมือนหรือต่างกันยังไง วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้หายสงสัยกันเลย!
ส่วนใครกำลังนั่งเบื่อ อยากหาอะไรฟังเพลิน ๆ พลาดไม่ได้เลยกับวงในพอดแคสต์แล้ว "วงในวันละร้าน" ที่พาทุกคนมารู้จักประวัติศาสตร์และเกร็ดความรู้ของอาหารนานาชนิด แถมยังตบท้ายด้วยร้านดังให้ไปตามรอยกันเลยทันที! สารพัดของดีที่มาชิมให้รู้ว่าจะเด็ดจริงไหม ฟังไปหิวไป ก็กดสั่งได้เลย เรื่องกินจะกลายเป็นเรื่องสนุกและง่ายกว่าเดิม ไปฟังกันเลย!
1ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
หากพูดถึงเมนู “ก้อย” ที่เรารู้จักกันดีที่สุดคงจะไม่พ้น “ก้อยกุ้ง” หลายคนคงจะคุ้นเคยกันดีกับบทเรียนสมัยยังเด็กอย่าง “กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน” ของรัชกาลที่ 2 ที่กล่าวถึงอาหารไทยนานาชนิด หนึ่งในนั้นก็คือ “ก้อยกุ้ง” จากบท “ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย” ที่พรรณนาการปรุงก้อยอย่างพิถีพิถัน แค่สัมผัสที่ลิ้น กุ้งสด ๆ ยังดิ้นอยู่ในปาก เรียกได้ว่าเป็นอาหารไทยรสแซ่บที่มีมาแต่โบราณ

ความจริงแล้ว ก้อยไม่ได้เป็นอาหารท้องถิ่นทางภาคอีสานเท่านั้น แต่ยังพบในภาคเหนือ ไปจนถึงประเทศลาว และอาณาจักรสิบสองปันนาอีกด้วย การทำอาหารประเภทก้อยมีบันทึกมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เลยทีเดียว เนื่องจากสังคมชาวอีสานประกอบอาชีพเกษตรกรรม และล่าสัตว์เป็นหลัก เมื่อเว้นว่างจากการทำเกษตรกรรม ผู้ชายมักจะรวมกลุ่มกันออกไปล่าสัตว์ในเวลากลางคืน เช่น กวาง ละมั่ง และเนื้อทราย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลานานจนถึง 2 ยาม (เที่ยงคืน) ดึกขนาดนี้เหล่าพ่อบ้านก็หิวโซ แต่ครั้นจะจุดไฟหุงหาอาหารก็จะเป็นการรบกวนเหล่าแม่บ้านเกินไป บรรดานายพรานจึงแล่เนื้อสัตว์ที่ล่าได้มาแบ่งปันกัน และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงที่หาได้ง่ายและพืชสมุนไพรต่าง ๆ ถือเป็นต้นกำเนิดอาหารประเภทก้อยที่ทำจากเนื้อดิบชิ้นพอดีคำอย่างในปัจจุบัน ชาวอีสานอาจเรียกเมนูนี้ว่า “ก้อยเดิก” ซึ่งคำว่า “เดิก” เป็นภาษาอีสานแปลว่า “ดึก” นั่นเอง เรียกได้ว่าก้อยนั้นเป็นของกินยามดึกมาก่อนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซะอีก

2“ลาบ” อาหารมงคลของไทย
“ลาบ” ก็มีประวัติอันยาวนานมาคู่กับก้อยเช่นกัน เพียงแต่ปรับเปลี่ยนกรรมวิธีการปรุงจากเนื้อดิบ ๆ เป็นเนื้อที่ปรุงสุกแล้วนั่นเอง ซึ่งเนื้อที่มาทำลาบอาจจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อเป็ด เนื้อวัว เนื้อควาย เนื้อปลา หรือเนื้อนกก็ได้เช่นกัน หากใช้เนื้อที่มีกลิ่นแรงอย่างเนื้อควายก็จะเติมสมุนไพรเข้าไปเยอะขึ้น เพื่อดับกลิ่นคาวของเนื้อนั่นเอง

อาหารประเภท “ลาบ” พบได้ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน แต่ทั้งสองภาคมีความแตกต่างกันอย่างหนึ่งคือส่วนประกอบนั่นเอง ลาบอีสานจะมีส่วนประกอบหลักคือ “ข้าวเบือ” หรือข้าวคั่ว และเนื้อสัตว์ปรุงสุกสับละเอียด ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำปลา และน้ำมะนาว ส่วนลาบทางภาคเหนือหรือ “ลาบเมือง” จะใส่เครื่องเทศชนิดต่าง ๆ ลงไป ทำให้ได้ความเผ็ดจากพริกแห้งและหอมเครื่องเทศเป็นเอกลักษณ์

“ลาบ” พ้องเสียงกับคำว่า “ลาภ” ที่หมายถึง ทรัพย์สมบัติ หรือของมีค่าที่ได้มาโดยไม่ได้คาดหมาย พอพ้องกับคำมงคลแบบนี้ ลาบเลยกลายเป็นอาหารยอดนิยมในทุกงานบุญและงานมงคลเลยล่ะ จะงานเลี้ยงพระ งานทำบุญบ้าน หรืองานแต่งงาน ก็มักจะมี “ลาบ” เป็นหนึ่งในลิสต์อาหารเสมอ

อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะน้ำลายสอกันเลยใช่ไหมล่ะคะ อยากกินอาหารอีสานรสแซ่บ ต้องลองเลยที่ร้าน ถึงแก่น อีสานฟู้ด แซ่บคั่ก ๆ แบบอีสานแท้ สั่ง LINE MAN ได้ที่นี่เลย หรือใครอยากลองรสแซ่บสไตล์ลาว พลาดไม่ได้กับร้าน Funky Lam Kitchen ร้านอาหารลาวและบาร์โดยชาวลาวแท้ ๆ รับรองว่าฟินทุกเมนู! กดสั่งกันเลย ที่นี่ พี่ ๆ LINE MAN เตรียมเสิร์ฟความแซ่บถึงบ้าน!
เชื่อว่าหลายคนคงจะหายสงสัยกันแล้วว่าลาบกับก้อยแตกต่างกันยังไง แถมประวัติความเป็นมายังยาวนานสุด ๆ เรียกได้ว่า รสชาติเผ็ดแซ่บอยู่คู่ปากคนไทยมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษจริง ๆ ยิ่งได้รู้จักเรื่องราวของลาบและก้อยแล้ว รู้เลยว่าความเป็นมานั้นแซ่บไม่แพ้รสชาติเลยทีเดียว
ข้อมูลอ้างอิง
SILPA-MAG.COM, 2562. ““ก้อย” นั้นไซร้มีหลายแบบ” [online] เข้าถึงจาก https://www.silpa-mag.com/from-the-fingertip/article_26229 สืบค้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2563
ชมรมศิลปวัฒนธรรมอีสาน จุฬาลงกรณ์หมาวิทยาลัย, “ก้อยเดิก” [online] เข้าถึงจาก http://www.isan.clubs.chula.ac.th/food_sara/index.php?transaction=food_1.php&id_ m=26328 สืบค้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2563
วารสารเมืองโบราณ, 2562. “ลาบเมือง” [online] เข้าถึงจาก http://www.muangboranjournal.com/post/LabMuang สืบค้นเมื่อ 1 มิถุนายน 2563
ไม่อยากพลาดสาระความรู้สนุก ๆ ของอาหารที่เราคุ้นเคย ตามไปอ่านกันเลย!


