ภาพจำของ “บัวลอย” คือแป้งนุ่ม ๆ ราดน้ำกะทิหวานฉ่ำใช่ไหมคะ ? วันนี้พิมจะชวนเพื่อน ๆ มาทำบัวลอย ตั้งแต่ตวงส่วนผสมบัวลอย นวดแป้งบัวลอย ไปจนถึงวิธีจัดเสิร์ฟเลยค่ะ พิมรวบมาให้ถึง 15 สูตร มีตั้งแต่แบบง่ายสุด ๆ ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์เลยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปจกสูตรและวิธีทำบัวลอยต่าง ๆ กันเลยค่า
1บัวลอยสามสหาย

วัตถุดิบบัวลอยสามสหาย
วัตถุดิบบัวลอยเผือก
- เผือกนึ่งบด 75 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 75 กรัม
- แป้งมัน 15 กรัม
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
วัตถุดิบบัวลอยฟักทอง
- ฟักทองนึ่งบด 75 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว 75 กรัม
- แป้งมัน 15 กรัม
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
วัตถุดิบบัวลอยใบเตย
- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
- แป้งมัน 15 กรัม
- น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร
วัตถุดิบน้ำกะทิสำหรับราด
- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 300 มิลลิลิตร
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ใบเตย 1 กำ
- งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- เผือกนึ่งหั่นเต๋า 100 กรัม
วิธีทำบัวลอยสามสหาย
- เริ่มจากการผสมแป้งเผือก โดยการนำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงไปในชามผสม ตามด้วยแป้งมัน เผือกนึ่งบด และน้ำเปล่า จากนั้นนวดจนเข้ากันและพักไว้ จากนั้นผสมแป้งฟักทอง และใบเตยด้วยวิธีเดียวกัน
- หลังจากที่ผสมแป้งครบหมดทั้งสามตัวแล้ว ปั้นแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ จนหมด พักไว้
- จากนั้นทำน้ำกะทิ โดยการนำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาล เกลือ และใบเตย ต้มจนเดือด และน้ำตาลละลาย ปิดไฟยกขึ้นพักไว้
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป (ปริมาณพอสำหรับลวกบัวลอย) รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่แป้งบัวลอยที่ปั้นไว้ลงไป ต้มจนสุก ใช้กระชอนตักใส่น้ำเย็นทีเตรียมไว้
- นำบัวลอยใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ตักน้ำกะทิที่ต้มไว้ราดลงไป โรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟค่ะ
2บัวลอยไข่หวานสายรุ้ง

วัตถุดิบบัวลอยสายรุ้ง
วัตถุดิบแป้งบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
- แป้งมัน 10 กรัม
- สีผสมอาหาร อย่างละ 4 หยด (สีม่วง / สีฟ้า/ สีเขียว / สีเหลือง / สีแดง)
- น้ำสะอาด 8 ช้อนโต๊ะ
วัตถุดิบน้ำกะทิ
- กะทิ 4 ถ้วย (หางกะทิ 2 ถ้วย + หัวกะทิ 2 ถ้วย)
- น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
- มะพร้าวอ่อนหั่นชิ้นพอคำ 50 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง (ใส่เพิ่มได้ตามต้องการ)
วิธีทำบัวลอยสายรุ้ง
- นำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงในถ้วยผสม ตามด้วยแป้งมัน สีผสมอาหาร และค่อย ๆ เติม น้ำlสะอาดทีละ 1 ช้อนโต๊ะ ควบคู่ไปกับการนวดแป้งบัวลอย ใส่น้ำจนครบ 8 ช้อนโต๊ะ ให้ได้แป้งที่เนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกันและนุ่ม ไม่เหลวติดมือ นำผ้าขาวบางหรือแล็ปคลุมแป้งไว้ ไม่ให้ถูกอากาศ แล้วพักแป้งไว้เพื่อปั้น ผสมแป้งซ้ำจนครบ 5 สี
- เมื่อได้แป้งครบทุกสีแล้ว ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาด 1 ซม. ให้ครบทุกสี แล้วนำไปต้มใน น้ำสะอาดที่ต้มจนเดือดจัด เมื่อแป้งลอยตัวให้ช้อนแป้งขึ้นมา พักไว้ในน้ำเย็น เพื่อต้มรวมกับน้ำกะทิ
- นำหม้อขึ้นตั้งบนเตาแก๊ส จากนั้นใส่หางกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และเกลือ โดยใช้ไฟกลาง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นตอกไข่ลงในน้ำกะทิทีละฟอง เมื่อไข่สุกตักขึ้นพักไว้ เตรียมใส่ในบัวลอย
- หลังจากที่ตักไข่ขึ้นจากน้ำกะทิ ให้เติมหัวกะทิลงไปในหางกะทิ แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นนำบัวลอยที่พักไว้ และมะพร้าวอ่อน ใส่ลงไปในน้ำกะทิ แล้วต้มเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้ความหวานมันจากน้ำกะทิ ซึมเข้าให้ไปในแป้งบัวลอย เมื่อครบเวลาแล้วตักใส่ถ้วยท็อปด้วยไข่หวาน และเนื้อมะพร้าว เท่านี้ก็ได้ “บัวลอยสายรุ้ง” แล้วค่ะ
3บัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้

วัตถุดิบบัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้
- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
- ครีมงาดำรสธรรมชาติ 7 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำเต้าหู้ สูตรหวานน้อย 1 ลิตร
- งาดำ สำหรับโรยหน้า
วิธีทำบัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้
- เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และ
- ครีมงาดำรสธรรมชาติ จากนั้นใช้มือนวดแป้งและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แรปคลุมเอาไว้ค่ะ
- ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยงาดำที่ปั้นเอาไว้ลงไป เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำ ให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด
- ใส่น้ำเต้าหู้ลงในหม้อแล้วยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟปานกลาง จากนั้นใส่บัวลอยงาดำลงในน้ำเต้าหู้ เพื่อให้น้ำเต้าหู้ซึมเข้าไปในบัวลอย เมื่อน้ำเต้าหู้เริ่มร้อนให้ยกลงจากเตา เตรียมจัดเสิร์ฟได้เลยจ้า
- ตักบัวลอยงาดำใส่ในถ้วยจัดเสิร์ฟ โรยงาดำลงไป เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า
4บัวลอยดอกไม้

วัตถุดิบบัวลอยดอกไม้
- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
- มันม่วงสุก 50 กรัม
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
- ฟักทองสุกหั่นชิ้น 50 กรัม
- น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
- กะทิ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลโตนด 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/4 ช้อนชา
- ใบเตย 2 ใบ
วิธีทำบัวลอยดอกไม้
- เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และมันม่วงสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งบัวลอยและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ
- เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และฟักทองสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งบัวลอยและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ
- นำบัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ โดยให้ขนาดของบัวลอยฟักทองมีขนาดใหญ่กว่าบัวลอยมันม่วง จากนั้นนำมาติดรวมกันให้เป็นรูปดอกไม้ (ใช้แป้งสีเหลือง 1 อัน ทำเป็นเกสร และแป้งสีม่วง 5 อันทำเป็นกลีบ สำหรับดอกไม้ 1 ดอก)
- ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ตัดเอาไว้ลงไป
- เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด
- นำน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟ เมื่อเริ่มร้อนแล้วให้ใส่น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย เกลือ และใบเตยลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำกะทิร้อน ยกลงจากเตาเตรียมจัดเสิร์ฟได้เลย
- ตักบัวลอยดอกไม้ขึ้นจากน้ำเชื่อมแล้วใส่ลงในถ้วย จากนั้นราดกะทิลงไปในบัวลอย เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า
5บัวลอยไต้หวัน

วัตถุดิบบัวลอยไต้หวัน
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
- แป้งถั่วเขียว ½ ถ้วยตวง
- มันม่วงสุกหั่นชิ้น 300 กรัม
- น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
- แป้งถั่วเขียว ½ ถ้วยตวง
- ฟักทองสุกหั่นชิ้น 200 กรัม
- น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง
วัตถุดิบจัดเสิร์ฟ
- น้ำแข็งบดละเอียด 3 ทัพพี
- เฉาก๊วย 20 กรัม
- ถั่วแดงกวน 1 สกู๊ป
- ไอศกรีมวานิลลา 1 สกู๊ป
- น้ำเชื่อมคุโระมิสึ สำหรับราดบนบัวลอย
วิธีทำบัวลอยไต้หวัน
- เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วย แป้งถั่วเขียว และฟักทองสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งบัวลอยและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ
- นำแป้งบัวลอยมันม่วง และแป้งบัวลอยฟักทองมานวดให้เป็นเส้นยาว ๆ ก่อนนำมีดมาตัดเป็นชิ้นให้ได้ความยาว 1 เซ็นติเมตร พักไว้เตรียมนำไปต้ม
- ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ตัดเอาไว้ลงไป เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด แล้วนำไปใส่ในน้ำเชื่อมเพื่อไม่ให้บัวลอยติดกัน
- ตักน้ำแข็งบดใส่ลงในถ้วย จากนั้นใช้ช้อนจัดเฉาก๊วยให้เป็นแผ่นบาง ๆ แล้ววางลงบนน้ำแข็ง จากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ลวกแล้วลงไป ตามด้วยถั่วแดงและไอศกรีมวานิลลา เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมคุโระมิสึ เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า
6บัวลอยแก้วอัญชัน

วัตถุดิบบัวลอยแก้วอัญชัน
- แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย
- แป้งข้าวเหนียว ¼ ถ้วย
- น้ำมะพร้าว ⅓ ถ้วย
- น้ำดอกอัญชันสีเข้ม ⅓ ถ้วย
- น้ำดอกอัญชันสีอ่อน ⅓ ถ้วย
- กะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย ⅓ ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แปะก๊วย 1 ถ้วย
- เนื้อมะพร้าว 1 ถ้วย
- ใบเตย
วิธีทำบัวลอยแก้วอัญชัน
- นำแป้งข้าวเหนียว และ แป้งถั่วเขียวผสมกัน จากนั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน
- นำแป้งแต่ละส่วนไปผสมน้ำมะพร้าว น้ำดอกอัญชันสีเข้ม และน้ำดอกอัญชันสีอ่อน นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
- นำบัวลอยแต่ละสีมานวดให้เป็นเส้นยาว ๆ ก่อนนำมีดมาตัดเป็นชิ้นให้ได้ความยาว 1 เซ็นติเมตร จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจัด และตักออกพักไว้
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มแป้งบัวลอย เทกะทิลงไป ตามด้วยใบเตย น้ำตาลทราย และเกลือ เคี่ยวจนกะทิเดือด และน้ำตาลทรายละลาย
- ใส่แปะก๊วย และเนื้อมะพร้าวลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นยกออกจากเตา
- ตักแป้งบัวลอยใส่ถ้วย และราดด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสิร์ฟจ้า
7บัวลอยเผือกน้ำขิง

วัตถุดิบบัวลอยเผือกน้ำขิง
- เผือก 1 ถ้วย
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- แป้งมัน ¼ ถ้วย
- น้ำเปล่า (สำหรับแป้ง) 100 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า (สำหรับน้ำขิง) 1000 มิลลิลิตร
- ขิง 3 แง่ง
- น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- กะทิ 150 มิลลิลิตร
- เกลือ ½ ช้อนชา
- แปะก๊วย 1 ถ้วย
วิธีทำบัวลอยเผือกน้ำขิง
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่เผือกลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และกะทิ กวนจนเข้ากัน และแห้งพอปั้นได้ จากนั้นพักไว้ให้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วใส่แปะก๊วยลงไป
- ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน และน้ำเปล่า (สำหรับแป้ง) เข้าด้วยกัน แล้วนวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
- นำแป้งมันปั้นเป็นลูกกลม ๆ แล้วกดให้แบน วางเผือกกวนลงไป แล้วห่อให้มิด จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจัดจนสุก
- น้ำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายแดง และขิง
- ต้มประมาณ 30 นาที เพื่อให้ได้รสชาติของขิง นำบัวลอยเผือกใส่ชาม ราดด้วยน้ำขิง พร้อมเสิร์ฟจ้า
8บัวลอยมันม่วงฟักทอง

วัตถุดิบแป้งบัวลอยมันม่วง และไส้ฟักทอง
- แป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำแป้ง) 100 กรัม
- แป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำไส้) 30 กรัม
- มันม่วงนึ่ง 100 กรัม
- ฟักทองนึ่ง 200 กรัม
- แป้งมัน 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- น้ำเย็น 60 มิลลิลิตร
วัตถุดิบน้ำกะทิ
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 180 กรัม
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- มะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
- งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำบัวลอยมันม่วงฟักทอง
- นำแป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำแป้ง) ใส่ในชามผสม ตามด้วยแป้งมัน ฟักทอง และเทน้ำเย็นลงไป นวดแป้งบัวลอยให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ และพักไว้ จากนั้นทำแป้งมันม่วงด้วยวิธีเดียวกัน
- นำฟักทองนึ่งใส่ในชามผสม ตามด้วยแป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำไส้) และน้ำตาลทราย นวดแป้งบัวลอยให้เข้ากันจนเนื้อเนียน และพักไว้ จากนั้นทำไส้มันม่วงด้วยวิธีเดียวกัน
- นำไส้ทั้งสองอย่างที่เตรียมไว้มาปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเท่าเหรียญบาท
- บิดแป้งมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็กกว่าไส้นิดหน่อย กดให้แบน นำไส้ที่ปั้นไว้วางตรงกลาง ห่อให้มิด และปั้นให้เป็นลูกกลม ๆ โดยที่แป้งฟักทองคู่กับไส้มันม่วง และแป้งมันม่วงคู่กับไส้ฟักทอง
- นำบัวลอยทั้งสองแบบไปต้มในน้ำเดือดจนสุก จากนั้นตักใส่น้ำเย็น เพื่อให้บัวลอยเซตตัว
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือสมุทร ต้มจนเดือด ใส่มะพร้าวอ่อน และงาขาวคั่วลงไป จากนั้นยกออกจากเตา
- นำบัวลอยที่ต้มตรียมไว้ใส่ลงในถ้วย ราดน้ำกะทิลงไป และโรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟจ้า
9บัวลอยญวน

วัตถุดิบบัวลอยญวน
วัตถุดิบไส้บัวลอย
- ถั่วเขียวซีกปอกเปลือก 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 55 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
- รากผักชี 5 ราก
- กระเทียม 4 กลีบ
- น้ำมันพืช สำหรับผัด
วัตถุดิบแป้งบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
- หัวกะทิ 35 มิลลิลิตร
- น้ำใบเตย 15 มิลลิลิตร
- น้ำกระเจี๊ยบ 15 มิลลิลิตร
วัตถุดิบน้ำกะทิ
- หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาล ¾ ถ้วยตวง
- เกลือ ¼ ช้อนชา
วิธีทำบัวลอยญวน
- เริ่มกันที่ไส้ แช่ถั่วเขียวซีกปอกเปลือกทิ้งไว้ล่วงหน้า 1 คืน นำถั่วที่แช่จนครบเวลาแล้วมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วไปนึ่งโดยรองด้วยผ้าขาวบางประมาณ 20 นาที ปั่นถั่วให้ละเอียด พักไว้
- นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกรวมกัน แล้วใส่ในกระทะผัดให้กลิ่นหอม ใส่ถั่วที่บดแล้วและน้ำตาลทรายลงไป ผัดจนส่วนผสมจับตัวกัน พักให้เย็น และปั้นเป็นก้อน ๆ ขนาด 1 นิ้วเตรียมไว้
- ต่อกันที่แป้ง นำแป้งข้าวเหนียว หัวกะทิ น้ำ ผสมนวดให้เข้ากัน และแบ่งแป้ง 2 ส่วน ส่วนแรกใส่น้ำใบเตย ส่วนที่สองใส่น้ำกระเจี๊ยบ และปั้นขนาด 1 ½ นิ้ว แผ่แป้งเป็นวงกลม ห่อไส้ให้มิดชิด ปั้นให้กลม รอต้มได้เลย
- นำบัวลอย ไปต้มในน้ำเดือด จนสุก และแช่ในน้ำเปล่า
- ตั้งหม้อใส่หัวกะทิ น้ำเปล่า น้ำตาล เกลือ ใบเตย เปิดไฟอ่อนคนให้น้ำตาลละลาย ให้พออุ่น
- ตักบัวลอยที่ต้มสุกแล้ว ลงใส่ถ้วย ตามด้วยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟแล้ว
10บัวลอยเสียบไม้

วัตถุดิบบัวลอยเสียบไม้
- แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
- แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
- มันม่วงบด 50 กรัม
- ฟักทองบด 50 กรัม
- น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า (แป้งมันม่วง) 50 มิลลิลิตร
- น้ำเปล่า (แป้งฟักทอง) 50 มิลลิลิตร
- หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
- เกลือ ½ ช้อนชา
- งาขาว และงาดำ ตามชอบ
- น้ำตาลทรายแดง ตามชอบ
วิธีทำบัวลอยญวนเสียบไม้
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน และต้มจนเดือด นำขึ้นมาพักไว้
- แบ่งแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้า เป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน (ส่วนละ ⅓ ถ้วย)
- ถ้วยแรกใส่มันม่วงบด และน้ำเปล่า (แป้งมันม่วง) นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
- ถ้วยที่สองใส่ฟักทองบด และน้ำเปล่า (แป้งฟักทอง) นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
- ถ้วยที่สาม ใส่น้ำใบเตย นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
- ปั้นบัวลอยขนาดประมาณเท่าเหรียญห้า หรือตามชอบ จากนั้นนำมาเสียบไม้ และนำไปแช่เย็นให้เซตตัว 20 นาที นำบัวลอยเสียบไม้ไปต้มในน้ำเดือดจัดจนสุก และตักออกใส่น้ำเย็นเพื่อให้เซตตัว
- จัดบัวลอยเสียบไม้ใส่จาน โรยงาขาว งาดำ และน้ำตาลทรายแดง ราดน้ำราดที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟจ้า
11บัวลอยนมสดลาวาชาไทย

วัตถุดิบบัวลอยนมสดลาวาชาไทย
วัตถุดิบทำบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 4 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
- น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร
- นมสด 400 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน ½ หลอด
- วัตถุดิบทำไส้บัวลอย
- นมสด 400 มิลลิลิตร
- นมข้นหวานผสมชาไทย ½ หลอด
- เจลาตินแผ่นแช่น้ำ 2 แผ่น
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำบัวลอยนมสดลาวาชาไทย
- ตั้งหม้อใส่นม ตามด้วย นมข้นหวาน ผสมชาไทย ตรามะลิ เจลาตินแผ่นแช่น้ำ และแป้งข้าวโพด ตั้งไฟอ่อน คนให้ละลายเข้ากัน เทส่วนผสมลงในถาด ตั้งไว้ให้หายร้อน แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็นจนเซตตัว
- ผสมแป้งข้าวเหนียว กับน้ำเปล่าและน้ำใบเตย คนด้วยมือแล้วนวดผสมให้เข้ากัน
- ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม แล้วกดให้แบน ตักไส้ชาไทยที่ทำไว้วางตรงกลาง แล้วปั้นแป้งให้ห่อไส้ไว้
- นำบัวลอยที่ใส่ไส้เรียบร้อยแล้วลงต้มในน้ำเดือด เมื่อตัวบัวลอยลอยตัวขึ้น จึงตักขึ้นจากน้ำ
- ตั้งหม้อใส่นม และนมข้นหวาน ใช้ไฟอ่อนคนจนละลายให้เข้ากัน ตักราดลงบนบัวลอยที่ต้มไว้ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทาน!
12บัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม

วัตถุดิบบัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม
วัตถุดิบแป้งบัวลอยและไส้
- นมสด 1 ถ้วยตวง
- ไข่แดง 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- แป้งข้าวโพด 20 กรัม
- แป้งคัสตาร์ด 10 กรัม
- วานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวเหนียว 1 ½ ถ้วยตวง
- แป้งมัน ½ ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง
- สีผสมอาหาร (สีม่วง) ½ ช้อนชา
- สีผสมอาหาร (สีส้ม) ½ ช้อนชา
วัตถุดิบสำหรับน้ำกะทิ
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลปิ๊บ ¼ ถ้วยตวง
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ใบเตย 1 มัด
วิธีทำบัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม
- บดไข่แดงเค็มเตรียมไว้
- แยกไข่แดงลงชามผสม ใส่น้ำตาล แป้งข้าวโพด แป้งคัสตาร์ด ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เทนมลงหม้อตั้งไฟ รอให้เดือดใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันปิดไฟ
- นำนมที่ต้มเทลงชามไข่แดง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงหม้อ เปิดไฟกลางใช้ตะกร้อมือกวนจนไส้ข้นเหนียว หลังจากนั้นใส่ไข่เค็มที่บดเตรียมไว้ คนให้เข้ากันแล้วปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็น
- นำแป้งผสมน้ำ นวดแป้งให้เข้ากัน แบ่งแป้งบัวลอยให้เท่า ๆ กัน แล้วผสมสี
- นำแป้งที่นวดเสร็จแล้ว มาห่อไส้ เตรียมไว้
- ตั้งน้ำใส่หม้อ รอให้น้ำเดือด ใส่บัวลอยที่ห่อไส้ ต้มบ้วลอยให้สุก
- นำกะทิเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่เนื้อมะพร้าว รอให้เดือด ปรุงรสด้วยนำ้ตาลปิ๊บ และเกลือ คนให้เข้ากัน ใส่ใบเตย คนให้ใบเตยหอม ปิดไฟ แล้วนำไปตักราดบัวลอยที่เตรียมไว้ พร้อมจัดเสิร์ฟ
13สาคูบัวลอย

วัตถุดิบสาคูบัวลอย
- สาคู 200 กรัม (แบ่งครึ่ง)
- น้ำอัญชัน 1 ถ้วยตวง (สีเข้ม)
- น้ำอัญชัน 1 ถ้วยตวง (สีอ่อน)
- เนื้อมะพร้าวขูด 1 ลูก
- กะทิ 800 กรัม
- ใบเตย 2 มัด
- น้ำตาลโตนด 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 100 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำสาคูบัวลอย
- นำสาคูทั้ง 2 ถ้วยมาใส่น้ำอัญชัน โดยสาคูถ้วยแรกใส่น้ำอัญชัน (สีเข้ม) ลงไปแช่เป็นเวลา 20 นาที ส่วนสาคูถ้วยที่สองใส่น้ำอัญชัน (สีอ่อน) ลงไปแช่เป็นเวลา 20 นาที
- เมื่อครบเวลาแล้วนำสาคูไปกรองเอาน้ำออก โดยนำสาคูที่กรองแล้วมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ให้ได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม. แล้วพักไว้เตรียมนำไปต้ม
- นำสาคูไปต้มในน้ำเดือด โดยใส่สาคูบัวลอยลงไปในน้ำเดือด แล้วรอให้สาคูบัวลอยลอยตัวขึ้น แล้วใช้ตะแกรงตักขึ้นไปพักไว้ในน้ำเชื่อม
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟแล้วใส่กะทิลงไปในหม้อ โดยใช้ไฟกลางค่อนอ่อน เมื่อกะทิเริ่มร้อนให้ใส่น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย และเกลือลงไปคนให้เข้ากัน
- ใส่สาคูบัวลอยลงไปในน้ำกะทิ ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนขูดลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ต้มทิ้งไว้สัก 3 นาที แล้วยกลงจากเตาเตรียมจัดเสิร์ฟ
- ตักสาคูบัวลอยลงในถ้วย หรือใครชอบความหอมของงาก็ให้โรยงาขาวคั่วลงไปได้ เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า
14บัวลอยนมสดถั่วแดง

วัตถุดิบบัวลอยนมสดถั่วแดง
- น้ำตาลมะพร้าว (สำหรับไส้ถั่วแดง) 160 กรัม
- น้ำตาลมะพร้าว (สำหรับนมสด) 20 กรัม
- ถั่วแดง 1 ถ้วย
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- แป้งข้าวเหนียว 110 กรัม
- น้ำ ½ ถ้วย
- นมจืด 300 มิลลิลิตร
- นมข้นจืด 120 มิลลิลิตร
วิธีทำบัวลอยแดง
- ต้มถั่วแดงจนนิ่ม นำมากวน เพิ่มความหวานด้วย น้ำตาลมะพร้าว กวนจนเหนียวได้ที่พักไว้ให้เย็น
- นำแป้งข้าวเหนียวใส่ชามผสม ทยอยเติมน้ำลงไป นวดจนเป็นก้อน นำมาปั้นแล้วใส่ถั่วแดงกวนลงไป
- นำบัวลอยไปต้มในน้ำเดือด จนลอยขึ้นมา ตักขึ้นพักในน้ำเย็น
- ต้มนมจืดและนมข้นจืดด้วยไฟกลาง ใส่น้ำตาลมะพร้าวคนจนละลายหมด แล้วพักไว้
- ตักบัวลอยใส่ถ้วย ราดนมสดร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟ
15บัวลอยนมสดสอดไส้

วัตถุดิบบัวลอยนมสดสอดไส้
- แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
- ฟักทองนึ่ง 100 กรัม
- มันม่วงนึ่ง 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 300 กรัม
- นมสด 500 มิลลิลิตร
- น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร
- ใบเตย 2-3 ใบ
วิธีทำบัวลอยนมสดสอดไส้
- บดฟักทองนึ่ง มันม่วงนึ่งให้ละเอียด
แบ่งฟักทองนึ่ง มันม่วงนึ่ง ออกเป็น 2 ส่วน สำหรับทำไส้ และผสมแป้ง
- เทแป้งข้าวเหนียวใส่กะละมังผสม ใส่ฟักทองนึ่งที่บดแล้วลงผสมแป้งค่อย ๆ เติมน้ำทำละนิด นวดแป้งบัวลอยให้เป็นเนื้อเดียวกับแป้ง สำหรับมันม่วงทำเหมือนกัน
นำแป้งบัวลอยที่นวดแล้วห่อไว้ด้วยแรปกันอากาศเข้าจะทำให้แป้งแข็ง
- นำฟักทองนึ่ง มันม่วงนึ่งที่บดแล้ว ส่วนที่แยกไว้ มาปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ใช้ส้อมคนให้เข้ากันชิมให้มีรสหวานตามชอบ
- นำแป้งที่นวดไว้มาปั้นให้กลม แล้วกดให้แป้งแผ่จากนั้นนำไส้มาใส่ตรงกลาง แล้วห่อหุ้มด้วยแป้งให้มิด คลุกแป้งข้าวเหนียวพักไว้ ไม่ให้แป้งติดกัน
- ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่ใบเตยลงไปจากนั้นใส่ตัวบัวลอยที่ปั้นไว้ ปั้นพอตัวบัวลอยลอยขึ้นมา แล้วตักมาพักในน้ำอุณหภูมิห้อง ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้
- นำนมสดไปอุ่นพอร้อน เทใส่ถ้วยที่ทำตัวบัวลอยไว้
จัดเสิร์ฟ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? เมนูบัวลอยในรูปแบบต่าง ๆ ใครได้ลองทำ ลองรับประทานแล้วอย่าลืมมาบอกกันบ้างน้าา ส่วนใครจะนำเอาสูตรไปดัดแปลงทำขายยึดเป็นอาชีพทางเรายินดีมาก ๆ เลยค่ะ และพิมขอแนะนำเมนูขนมไทยแบบต้มให้ไปลองทำตามง่าย ๆ กันอีก หรืออยากทำขนมไทยแบบอื่น ๆ คลิกที่นี่ได้เลยค่า
อ่านบทความที่เกี่ยวกับ “เมนูบัวลอย” เพิ่มเติมได้ที่