15 สูตร “ขนมบัวลอย” เมนูขนมไทยรสหวานยอดฮิต ทำเองง่ายๆ ทำขายปัง!
  1. 15 สูตร “ขนมบัวลอย” เมนูขนมไทยรสหวานยอดฮิต ทำเองง่ายๆ ทำขายปัง!

15 สูตร “ขนมบัวลอย” เมนูขนมไทยรสหวานยอดฮิต ทำเองง่ายๆ ทำขายปัง!

ไปเดินตลาดทีไนต้องซื้อ “ขนมบัวลอย” ติดไม้ติดมือมาทุกที วันนี้เลยมาลองทำบัวลอยเองบ้าง เริ่มตั้งแต่ตวงส่วนผสมบัวลอยเองเลย ถ้าใครอยากลองทำเตรียมจดสูตรกันเลยค่า
writerProfile
28 เม.ย. 2022 · โดย
เวลาเตรียม
30 นาที
เวลาปรุง
40 นาที
แคลอรี่
500 Kcal/เสิร์ฟ
สำหรับ
10 เสิร์ฟ

ภาพจำของ “บัวลอย” คือแป้งนุ่ม ๆ ราดน้ำกะทิหวานฉ่ำใช่ไหมคะ ? วันนี้พิมจะชวนเพื่อน ๆ มาทำบัวลอย ตั้งแต่ตวงส่วนผสมบัวลอย นวดแป้งบัวลอย ไปจนถึงวิธีจัดเสิร์ฟเลยค่ะ พิมรวบมาให้ถึง 15 สูตร มีตั้งแต่แบบง่ายสุด ๆ ไปจนถึงขั้นแอดวานซ์เลยค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปจกสูตรและวิธีทำบัวลอยต่าง ๆ กันเลยค่า

1บัวลอยสามสหาย

บัวลอยสามสหาย

วัตถุดิบบัวลอยสามสหาย

วัตถุดิบบัวลอยเผือก

  1. เผือกนึ่งบด 75 กรัม
  2. แป้งข้าวเหนียว 75 กรัม
  3. แป้งมัน 15 กรัม
  4. น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร

วัตถุดิบบัวลอยฟักทอง

  1. ฟักทองนึ่งบด 75 กรัม
  2. แป้งข้าวเหนียว 75 กรัม
  3. แป้งมัน 15 กรัม
  4. น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร

วัตถุดิบบัวลอยใบเตย

  1. แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
  2. แป้งมัน 15 กรัม
  3. น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร

วัตถุดิบน้ำกะทิสำหรับราด

  1. หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลทราย 300 มิลลิลิตร
  3. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  4. ใบเตย 1 กำ
  5. งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  6. เผือกนึ่งหั่นเต๋า 100 กรัม

วิธีทำบัวลอยสามสหาย

  • เริ่มจากการผสมแป้งเผือก โดยการนำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงไปในชามผสม ตามด้วยแป้งมัน เผือกนึ่งบด และน้ำเปล่า จากนั้นนวดจนเข้ากันและพักไว้ จากนั้นผสมแป้งฟักทอง และใบเตยด้วยวิธีเดียวกัน
  • หลังจากที่ผสมแป้งครบหมดทั้งสามตัวแล้ว ปั้นแป้งให้เป็นลูกกลม ๆ จนหมด พักไว้
  • จากนั้นทำน้ำกะทิ โดยการนำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาล เกลือ และใบเตย ต้มจนเดือด และน้ำตาลละลาย ปิดไฟยกขึ้นพักไว้
  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป (ปริมาณพอสำหรับลวกบัวลอย) รอจนน้ำเดือด จากนั้นใส่แป้งบัวลอยที่ปั้นไว้ลงไป ต้มจนสุก ใช้กระชอนตักใส่น้ำเย็นทีเตรียมไว้
  • นำบัวลอยใส่ถ้วยที่เตรียมไว้ ตักน้ำกะทิที่ต้มไว้ราดลงไป โรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟค่ะ

2บัวลอยไข่หวานสายรุ้ง

บัวลอยไข่หวานสายรุ้ง

วัตถุดิบบัวลอยสายรุ้ง

วัตถุดิบแป้งบัวลอย

  1. แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
  2. แป้งมัน 10 กรัม
  3. สีผสมอาหาร อย่างละ 4 หยด (สีม่วง / สีฟ้า/ สีเขียว / สีเหลือง / สีแดง)
  4. น้ำสะอาด 8 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบน้ำกะทิ

  1. กะทิ 4 ถ้วย (หางกะทิ 2 ถ้วย + หัวกะทิ 2 ถ้วย)
  2. น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 80 กรัม
  4. เกลือป่น 1/4 ช้อนโต๊ะ
  5. มะพร้าวอ่อนหั่นชิ้นพอคำ 50 กรัม
  6. ไข่ไก่ 2 ฟอง (ใส่เพิ่มได้ตามต้องการ)

วิธีทำบัวลอยสายรุ้ง

  • นำแป้งข้าวเหนียวใส่ลงในถ้วยผสม ตามด้วยแป้งมัน สีผสมอาหาร และค่อย ๆ เติม น้ำlสะอาดทีละ 1 ช้อนโต๊ะ ควบคู่ไปกับการนวดแป้งบัวลอย ใส่น้ำจนครบ 8 ช้อนโต๊ะ ให้ได้แป้งที่เนื้อเนียนเป็นเนื้อเดียวกันและนุ่ม ไม่เหลวติดมือ นำผ้าขาวบางหรือแล็ปคลุมแป้งไว้ ไม่ให้ถูกอากาศ แล้วพักแป้งไว้เพื่อปั้น ผสมแป้งซ้ำจนครบ 5 สี
  • เมื่อได้แป้งครบทุกสีแล้ว ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาด 1 ซม. ให้ครบทุกสี แล้วนำไปต้มใน น้ำสะอาดที่ต้มจนเดือดจัด เมื่อแป้งลอยตัวให้ช้อนแป้งขึ้นมา พักไว้ในน้ำเย็น เพื่อต้มรวมกับน้ำกะทิ
  • นำหม้อขึ้นตั้งบนเตาแก๊ส จากนั้นใส่หางกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย และเกลือ โดยใช้ไฟกลาง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นตอกไข่ลงในน้ำกะทิทีละฟอง เมื่อไข่สุกตักขึ้นพักไว้ เตรียมใส่ในบัวลอย
  • หลังจากที่ตักไข่ขึ้นจากน้ำกะทิ ให้เติมหัวกะทิลงไปในหางกะทิ แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นนำบัวลอยที่พักไว้ และมะพร้าวอ่อน ใส่ลงไปในน้ำกะทิ แล้วต้มเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาที เพื่อให้ความหวานมันจากน้ำกะทิ ซึมเข้าให้ไปในแป้งบัวลอย เมื่อครบเวลาแล้วตักใส่ถ้วยท็อปด้วยไข่หวาน และเนื้อมะพร้าว เท่านี้ก็ได้ “บัวลอยสายรุ้ง” แล้วค่ะ

3บัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้

บัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้

วัตถุดิบบัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้

  1. แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
  3. ครีมงาดำรสธรรมชาติ 7 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
  5. น้ำเต้าหู้ สูตรหวานน้อย 1 ลิตร
  6. งาดำ สำหรับโรยหน้า

วิธีทำบัวลอยงาดำน้ำเต้าหู้

  • เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และ
  • ครีมงาดำรสธรรมชาติ จากนั้นใช้มือนวดแป้งและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แรปคลุมเอาไว้ค่ะ
  • ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยงาดำที่ปั้นเอาไว้ลงไป เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำ ให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด
  • ใส่น้ำเต้าหู้ลงในหม้อแล้วยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟปานกลาง จากนั้นใส่บัวลอยงาดำลงในน้ำเต้าหู้ เพื่อให้น้ำเต้าหู้ซึมเข้าไปในบัวลอย เมื่อน้ำเต้าหู้เริ่มร้อนให้ยกลงจากเตา เตรียมจัดเสิร์ฟได้เลยจ้า
  • ตักบัวลอยงาดำใส่ในถ้วยจัดเสิร์ฟ โรยงาดำลงไป เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า

4บัวลอยดอกไม้

บัวลอยดอกไม้

วัตถุดิบบัวลอยดอกไม้

  1. แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
  3. มันม่วงสุก 50 กรัม
  4. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
  5. แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม
  6. แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ฟักทองสุกหั่นชิ้น 50 กรัม
  8. น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
  9. กะทิ 2 ถ้วยตวง
  10. น้ำตาลโตนด 3 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  12. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  13. ใบเตย 2 ใบ

วิธีทำบัวลอยดอกไม้

  • เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และมันม่วงสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งบัวลอยและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ
  • เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วยแป้งมันสำปะหลัง และฟักทองสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งบัวลอยและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ
  • นำบัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ โดยให้ขนาดของบัวลอยฟักทองมีขนาดใหญ่กว่าบัวลอยมันม่วง จากนั้นนำมาติดรวมกันให้เป็นรูปดอกไม้ (ใช้แป้งสีเหลือง 1 อัน ทำเป็นเกสร และแป้งสีม่วง 5 อันทำเป็นกลีบ สำหรับดอกไม้ 1 ดอก)
  • ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ตัดเอาไว้ลงไป
  • เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด
  • นำน้ำกะทิขึ้นตั้งไฟ เมื่อเริ่มร้อนแล้วให้ใส่น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย เกลือ และใบเตยลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำกะทิร้อน ยกลงจากเตาเตรียมจัดเสิร์ฟได้เลย
  • ตักบัวลอยดอกไม้ขึ้นจากน้ำเชื่อมแล้วใส่ลงในถ้วย จากนั้นราดกะทิลงไปในบัวลอย เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า

5บัวลอยไต้หวัน

บัวลอยไต้หวัน

วัตถุดิบบัวลอยไต้หวัน

  1. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
  2. แป้งถั่วเขียว ½ ถ้วยตวง
  3. มันม่วงสุกหั่นชิ้น 300 กรัม
  4. น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง
  5. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
  6. แป้งถั่วเขียว ½ ถ้วยตวง
  7. ฟักทองสุกหั่นชิ้น 200 กรัม
  8. น้ำเปล่า ¾ ถ้วยตวง

วัตถุดิบจัดเสิร์ฟ

  1. น้ำแข็งบดละเอียด 3 ทัพพี
  2. เฉาก๊วย 20 กรัม
  3. ถั่วแดงกวน 1 สกู๊ป
  4. ไอศกรีมวานิลลา 1 สกู๊ป
  5. น้ำเชื่อมคุโระมิสึ สำหรับราดบนบัวลอย

วิธีทำบัวลอยไต้หวัน

  • เทแป้งข้าวเหนียวลงในชามผสม ตามด้วย แป้งถั่วเขียว และฟักทองสุกหั่นชิ้น จากนั้นใช้มือนวดแป้งบัวลอยและมันบดให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว แล้วใส่น้ำเปล่าลงไปนวดให้แป้งติดกันและมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มขึ้น เมื่อแป้งได้ที่แล้วใช้แร็ปคลุมเอาไว้ค่ะ
  • นำแป้งบัวลอยมันม่วง และแป้งบัวลอยฟักทองมานวดให้เป็นเส้นยาว ๆ ก่อนนำมีดมาตัดเป็นชิ้นให้ได้ความยาว 1 เซ็นติเมตร พักไว้เตรียมนำไปต้ม
  • ตั้งน้ำให้เดือดจากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ตัดเอาไว้ลงไป เมื่อบัวลอยลอยตัวขึ้นบนน้ำให้ใช้ตะแกรงช้อนบัวลอยขึ้นจากน้ำเดือด แล้วนำไปใส่ในน้ำเชื่อมเพื่อไม่ให้บัวลอยติดกัน
  • ตักน้ำแข็งบดใส่ลงในถ้วย จากนั้นใช้ช้อนจัดเฉาก๊วยให้เป็นแผ่นบาง ๆ แล้ววางลงบนน้ำแข็ง จากนั้นใส่บัวลอยมันม่วงและบัวลอยฟักทองที่ลวกแล้วลงไป ตามด้วยถั่วแดงและไอศกรีมวานิลลา เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมคุโระมิสึ เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า

6บัวลอยแก้วอัญชัน

บัวลอยแก้วอัญชัน

วัตถุดิบบัวลอยแก้วอัญชัน

  1. แป้งถั่วเขียว 1 ถ้วย
  2. แป้งข้าวเหนียว ¼ ถ้วย
  3. น้ำมะพร้าว ⅓ ถ้วย
  4. น้ำดอกอัญชันสีเข้ม ⅓ ถ้วย
  5. น้ำดอกอัญชันสีอ่อน ⅓ ถ้วย
  6. กะทิ 1 ถ้วย
  7. น้ำตาลทราย ⅓ ถ้วย
  8. เกลือ 1 ช้อนชา
  9. แปะก๊วย 1 ถ้วย
  10. เนื้อมะพร้าว 1 ถ้วย
  11. ใบเตย

วิธีทำบัวลอยแก้วอัญชัน

  • นำแป้งข้าวเหนียว และ แป้งถั่วเขียวผสมกัน จากนั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน
  • นำแป้งแต่ละส่วนไปผสมน้ำมะพร้าว น้ำดอกอัญชันสีเข้ม และน้ำดอกอัญชันสีอ่อน นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
  • นำบัวลอยแต่ละสีมานวดให้เป็นเส้นยาว ๆ ก่อนนำมีดมาตัดเป็นชิ้นให้ได้ความยาว 1 เซ็นติเมตร จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจัด และตักออกพักไว้
  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง ต้มแป้งบัวลอย เทกะทิลงไป ตามด้วยใบเตย น้ำตาลทราย และเกลือ เคี่ยวจนกะทิเดือด และน้ำตาลทรายละลาย
  • ใส่แปะก๊วย และเนื้อมะพร้าวลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นยกออกจากเตา
  • ตักแป้งบัวลอยใส่ถ้วย และราดด้วยน้ำกะทิ พร้อมเสิร์ฟจ้า

7บัวลอยเผือกน้ำขิง

บัวลอยเผือกน้ำขิง

วัตถุดิบบัวลอยเผือกน้ำขิง

  1. เผือก 1 ถ้วย
  2. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  3. แป้งมัน ¼ ถ้วย
  4. น้ำเปล่า (สำหรับแป้ง) 100 มิลลิลิตร
  5. น้ำเปล่า (สำหรับน้ำขิง) 1000 มิลลิลิตร
  6. ขิง 3 แง่ง
  7. น้ำตาลทรายแดง 150 กรัม
  8. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  9. กะทิ 150 มิลลิลิตร
  10. เกลือ ½ ช้อนชา
  11. แปะก๊วย 1 ถ้วย

วิธีทำบัวลอยเผือกน้ำขิง

  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่เผือกลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และกะทิ กวนจนเข้ากัน และแห้งพอปั้นได้ จากนั้นพักไว้ให้ให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วใส่แปะก๊วยลงไป
  • ผสมแป้งข้าวเหนียว แป้งมัน และน้ำเปล่า (สำหรับแป้ง) เข้าด้วยกัน แล้วนวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
  • นำแป้งมันปั้นเป็นลูกกลม ๆ แล้วกดให้แบน วางเผือกกวนลงไป แล้วห่อให้มิด จากนั้นนำไปต้มในน้ำเดือดจัดจนสุก
  • น้ำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายแดง และขิง
  • ต้มประมาณ 30 นาที เพื่อให้ได้รสชาติของขิง นำบัวลอยเผือกใส่ชาม ราดด้วยน้ำขิง พร้อมเสิร์ฟจ้า

8บัวลอยมันม่วงฟักทอง

บัวลอยมันม่วงฟักทอง

วัตถุดิบแป้งบัวลอยมันม่วง และไส้ฟักทอง

  1. แป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำแป้ง) 100 กรัม
  2. แป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำไส้) 30 กรัม
  3. มันม่วงนึ่ง 100 กรัม
  4. ฟักทองนึ่ง 200 กรัม
  5. แป้งมัน 30 กรัม
  6. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  7. น้ำเย็น 60 มิลลิลิตร

วัตถุดิบน้ำกะทิ

  1. กะทิ 500 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลทราย 180 กรัม
  3. เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
  4. มะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย
  5. งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำบัวลอยมันม่วงฟักทอง

  • นำแป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำแป้ง) ใส่ในชามผสม ตามด้วยแป้งมัน ฟักทอง และเทน้ำเย็นลงไป นวดแป้งบัวลอยให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ และพักไว้ จากนั้นทำแป้งมันม่วงด้วยวิธีเดียวกัน
  • นำฟักทองนึ่งใส่ในชามผสม ตามด้วยแป้งข้าวเหนียว (สำหรับทำไส้) และน้ำตาลทราย นวดแป้งบัวลอยให้เข้ากันจนเนื้อเนียน และพักไว้ จากนั้นทำไส้มันม่วงด้วยวิธีเดียวกัน
  • นำไส้ทั้งสองอย่างที่เตรียมไว้มาปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเท่าเหรียญบาท
  • บิดแป้งมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเล็กกว่าไส้นิดหน่อย กดให้แบน นำไส้ที่ปั้นไว้วางตรงกลาง ห่อให้มิด และปั้นให้เป็นลูกกลม ๆ โดยที่แป้งฟักทองคู่กับไส้มันม่วง และแป้งมันม่วงคู่กับไส้ฟักทอง
  • นำบัวลอยทั้งสองแบบไปต้มในน้ำเดือดจนสุก จากนั้นตักใส่น้ำเย็น เพื่อให้บัวลอยเซตตัว
  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือสมุทร ต้มจนเดือด ใส่มะพร้าวอ่อน และงาขาวคั่วลงไป จากนั้นยกออกจากเตา
  • นำบัวลอยที่ต้มตรียมไว้ใส่ลงในถ้วย ราดน้ำกะทิลงไป และโรยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟจ้า

9บัวลอยญวน

บัวลอยญวน

วัตถุดิบบัวลอยญวน

วัตถุดิบไส้บัวลอย

  1. ถั่วเขียวซีกปอกเปลือก 200 กรัม
  2. น้ำตาลทราย 55 กรัม
  3. เกลือ 1 ช้อนชา
  4. พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
  5. รากผักชี 5 ราก
  6. กระเทียม 4 กลีบ
  7. น้ำมันพืช สำหรับผัด

วัตถุดิบแป้งบัวลอย

  1. แป้งข้าวเหนียว 3 ถ้วยตวง
  2. น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  3. หัวกะทิ 35 มิลลิลิตร
  4. น้ำใบเตย 15 มิลลิลิตร
  5. น้ำกระเจี๊ยบ 15 มิลลิลิตร

วัตถุดิบน้ำกะทิ

  1. หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
  2. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาล ¾ ถ้วยตวง
  4. เกลือ ¼ ช้อนชา

วิธีทำบัวลอยญวน

  • เริ่มกันที่ไส้ แช่ถั่วเขียวซีกปอกเปลือกทิ้งไว้ล่วงหน้า 1 คืน นำถั่วที่แช่จนครบเวลาแล้วมาสะเด็ดน้ำให้แห้ง แล้วไปนึ่งโดยรองด้วยผ้าขาวบางประมาณ 20 นาที ปั่นถั่วให้ละเอียด พักไว้
  • นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกรวมกัน แล้วใส่ในกระทะผัดให้กลิ่นหอม ใส่ถั่วที่บดแล้วและน้ำตาลทรายลงไป ผัดจนส่วนผสมจับตัวกัน พักให้เย็น และปั้นเป็นก้อน ๆ ขนาด 1 นิ้วเตรียมไว้
  • ต่อกันที่แป้ง นำแป้งข้าวเหนียว หัวกะทิ น้ำ ผสมนวดให้เข้ากัน และแบ่งแป้ง 2 ส่วน ส่วนแรกใส่น้ำใบเตย ส่วนที่สองใส่น้ำกระเจี๊ยบ และปั้นขนาด 1 ½ นิ้ว แผ่แป้งเป็นวงกลม ห่อไส้ให้มิดชิด ปั้นให้กลม รอต้มได้เลย
  • นำบัวลอย ไปต้มในน้ำเดือด จนสุก และแช่ในน้ำเปล่า
  • ตั้งหม้อใส่หัวกะทิ น้ำเปล่า น้ำตาล เกลือ ใบเตย เปิดไฟอ่อนคนให้น้ำตาลละลาย ให้พออุ่น
  • ตักบัวลอยที่ต้มสุกแล้ว ลงใส่ถ้วย ตามด้วยงาขาวคั่ว พร้อมเสิร์ฟแล้ว

10บัวลอยเสียบไม้

บัวลอยเสียบไม้

วัตถุดิบบัวลอยเสียบไม้

  1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  2. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  3. มันม่วงบด 50 กรัม
  4. ฟักทองบด 50 กรัม
  5. น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร
  6. น้ำเปล่า (แป้งมันม่วง) 50 มิลลิลิตร
  7. น้ำเปล่า (แป้งฟักทอง) 50 มิลลิลิตร
  8. หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
  9. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
  10. เกลือ ½ ช้อนชา
  11. งาขาว และงาดำ ตามชอบ
  12. น้ำตาลทรายแดง ตามชอบ

วิธีทำบัวลอยญวนเสียบไม้

  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน และต้มจนเดือด นำขึ้นมาพักไว้
  • แบ่งแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้า เป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน (ส่วนละ ⅓ ถ้วย)
  • ถ้วยแรกใส่มันม่วงบด และน้ำเปล่า (แป้งมันม่วง) นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
  • ถ้วยที่สองใส่ฟักทองบด และน้ำเปล่า (แป้งฟักทอง) นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
  • ถ้วยที่สาม ใส่น้ำใบเตย นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
  • ปั้นบัวลอยขนาดประมาณเท่าเหรียญห้า หรือตามชอบ จากนั้นนำมาเสียบไม้ และนำไปแช่เย็นให้เซตตัว 20 นาที นำบัวลอยเสียบไม้ไปต้มในน้ำเดือดจัดจนสุก และตักออกใส่น้ำเย็นเพื่อให้เซตตัว
  • จัดบัวลอยเสียบไม้ใส่จาน โรยงาขาว งาดำ และน้ำตาลทรายแดง ราดน้ำราดที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟจ้า

11บัวลอยนมสดลาวาชาไทย

บัวลอยนมสดลาวาชาไทย

วัตถุดิบบัวลอยนมสดลาวาชาไทย

วัตถุดิบทำบัวลอย

  1. แป้งข้าวเหนียว 4 ถ้วยตวง
  2. น้ำเปล่า 50 มิลลิลิตร
  3. น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร
  4. นมสด 400 มิลลิลิตร
  5. นมข้นหวาน ½ หลอด
  6. วัตถุดิบทำไส้บัวลอย
  7. นมสด 400 มิลลิลิตร
  8. นมข้นหวานผสมชาไทย ½ หลอด
  9. เจลาตินแผ่นแช่น้ำ 2 แผ่น
  10. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำบัวลอยนมสดลาวาชาไทย

  • ตั้งหม้อใส่นม ตามด้วย นมข้นหวาน ผสมชาไทย ตรามะลิ เจลาตินแผ่นแช่น้ำ และแป้งข้าวโพด ตั้งไฟอ่อน คนให้ละลายเข้ากัน เทส่วนผสมลงในถาด ตั้งไว้ให้หายร้อน แล้วนำเข้าแช่ตู้เย็นจนเซตตัว
  • ผสมแป้งข้าวเหนียว กับน้ำเปล่าและน้ำใบเตย คนด้วยมือแล้วนวดผสมให้เข้ากัน
  • ปั้นแป้งเป็นก้อนกลม แล้วกดให้แบน ตักไส้ชาไทยที่ทำไว้วางตรงกลาง แล้วปั้นแป้งให้ห่อไส้ไว้
  • นำบัวลอยที่ใส่ไส้เรียบร้อยแล้วลงต้มในน้ำเดือด เมื่อตัวบัวลอยลอยตัวขึ้น จึงตักขึ้นจากน้ำ
  • ตั้งหม้อใส่นม และนมข้นหวาน ใช้ไฟอ่อนคนจนละลายให้เข้ากัน ตักราดลงบนบัวลอยที่ต้มไว้ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทาน!

12บัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม

บัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม

วัตถุดิบบัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม

วัตถุดิบแป้งบัวลอยและไส้

  1. นมสด 1 ถ้วยตวง
  2. ไข่แดง 4 ฟอง
  3. น้ำตาลทราย 80 กรัม
  4. แป้งข้าวโพด 20 กรัม
  5. แป้งคัสตาร์ด 10 กรัม
  6. วานิลลา 1 ช้อนชา
  7. แป้งข้าวเหนียว 1 ½ ถ้วยตวง
  8. แป้งมัน ½ ถ้วยตวง
  9. น้ำเปล่า ½ ถ้วยตวง
  10. สีผสมอาหาร (สีม่วง) ½ ช้อนชา
  11. สีผสมอาหาร (สีส้ม) ½ ช้อนชา

วัตถุดิบสำหรับน้ำกะทิ

  1. กะทิ 500 มิลลิลิตร
  2. น้ำตาลปิ๊บ ¼ ถ้วยตวง
  3. เกลือ 1 ช้อนชา
  4. ใบเตย 1 มัด

วิธีทำบัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็ม

  • บดไข่แดงเค็มเตรียมไว้
  • แยกไข่แดงลงชามผสม ใส่น้ำตาล แป้งข้าวโพด แป้งคัสตาร์ด ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เทนมลงหม้อตั้งไฟ รอให้เดือดใส่กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากันปิดไฟ
  • นำนมที่ต้มเทลงชามไข่แดง ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วเทกลับลงหม้อ เปิดไฟกลางใช้ตะกร้อมือกวนจนไส้ข้นเหนียว หลังจากนั้นใส่ไข่เค็มที่บดเตรียมไว้ คนให้เข้ากันแล้วปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็น
  • นำแป้งผสมน้ำ นวดแป้งให้เข้ากัน แบ่งแป้งบัวลอยให้เท่า ๆ กัน แล้วผสมสี
  • นำแป้งที่นวดเสร็จแล้ว มาห่อไส้ เตรียมไว้
  • ตั้งน้ำใส่หม้อ รอให้น้ำเดือด ใส่บัวลอยที่ห่อไส้ ต้มบ้วลอยให้สุก
  • นำกะทิเทใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่เนื้อมะพร้าว รอให้เดือด ปรุงรสด้วยนำ้ตาลปิ๊บ และเกลือ คนให้เข้ากัน ใส่ใบเตย คนให้ใบเตยหอม ปิดไฟ แล้วนำไปตักราดบัวลอยที่เตรียมไว้ พร้อมจัดเสิร์ฟ

13สาคูบัวลอย

สาคูบัวลอย

วัตถุดิบสาคูบัวลอย

  1. สาคู 200 กรัม (แบ่งครึ่ง)
  2. น้ำอัญชัน 1 ถ้วยตวง (สีเข้ม)
  3. น้ำอัญชัน 1 ถ้วยตวง (สีอ่อน)
  4. เนื้อมะพร้าวขูด 1 ลูก
  5. กะทิ 800 กรัม
  6. ใบเตย 2 มัด
  7. น้ำตาลโตนด 100 กรัม
  8. น้ำตาลทราย 100 กรัม
  9. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำสาคูบัวลอย

  • นำสาคูทั้ง 2 ถ้วยมาใส่น้ำอัญชัน โดยสาคูถ้วยแรกใส่น้ำอัญชัน (สีเข้ม) ลงไปแช่เป็นเวลา 20 นาที ส่วนสาคูถ้วยที่สองใส่น้ำอัญชัน (สีอ่อน) ลงไปแช่เป็นเวลา 20 นาที
  • เมื่อครบเวลาแล้วนำสาคูไปกรองเอาน้ำออก โดยนำสาคูที่กรองแล้วมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ให้ได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 ซม. แล้วพักไว้เตรียมนำไปต้ม
  • นำสาคูไปต้มในน้ำเดือด โดยใส่สาคูบัวลอยลงไปในน้ำเดือด แล้วรอให้สาคูบัวลอยลอยตัวขึ้น แล้วใช้ตะแกรงตักขึ้นไปพักไว้ในน้ำเชื่อม
  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟแล้วใส่กะทิลงไปในหม้อ โดยใช้ไฟกลางค่อนอ่อน เมื่อกะทิเริ่มร้อนให้ใส่น้ำตาลโตนด น้ำตาลทราย และเกลือลงไปคนให้เข้ากัน
  • ใส่สาคูบัวลอยลงไปในน้ำกะทิ ตามด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนขูดลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ต้มทิ้งไว้สัก 3 นาที แล้วยกลงจากเตาเตรียมจัดเสิร์ฟ
  • ตักสาคูบัวลอยลงในถ้วย หรือใครชอบความหอมของงาก็ให้โรยงาขาวคั่วลงไปได้ เท่านี้ก็พร้อมฟินแล้วล่ะจ้า

14บัวลอยนมสดถั่วแดง

บัวลอยนมสดถั่วแดง

วัตถุดิบบัวลอยนมสดถั่วแดง

  1. น้ำตาลมะพร้าว (สำหรับไส้ถั่วแดง) 160 กรัม
  2. น้ำตาลมะพร้าว (สำหรับนมสด) 20 กรัม
  3. ถั่วแดง 1 ถ้วย
  4. เกลือ ¼ ช้อนชา
  5. แป้งข้าวเหนียว 110 กรัม
  6. น้ำ ½ ถ้วย
  7. นมจืด 300 มิลลิลิตร
  8. นมข้นจืด 120 มิลลิลิตร

วิธีทำบัวลอยแดง

  • ต้มถั่วแดงจนนิ่ม นำมากวน เพิ่มความหวานด้วย น้ำตาลมะพร้าว กวนจนเหนียวได้ที่พักไว้ให้เย็น
  • นำแป้งข้าวเหนียวใส่ชามผสม ทยอยเติมน้ำลงไป นวดจนเป็นก้อน นำมาปั้นแล้วใส่ถั่วแดงกวนลงไป
  • นำบัวลอยไปต้มในน้ำเดือด จนลอยขึ้นมา ตักขึ้นพักในน้ำเย็น
  • ต้มนมจืดและนมข้นจืดด้วยไฟกลาง ใส่น้ำตาลมะพร้าวคนจนละลายหมด แล้วพักไว้
  • ตักบัวลอยใส่ถ้วย ราดนมสดร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟ

15บัวลอยนมสดสอดไส้

บัวลอยนมสดสอดไส้

วัตถุดิบบัวลอยนมสดสอดไส้

  1. แป้งข้าวเหนียว 100 กรัม
  2. ฟักทองนึ่ง 100 กรัม
  3. มันม่วงนึ่ง 100 กรัม
  4. น้ำตาลทราย 300 กรัม
  5. นมสด 500 มิลลิลิตร
  6. น้ำสะอาด 100 มิลลิลิตร
  7. ใบเตย 2-3 ใบ

วิธีทำบัวลอยนมสดสอดไส้

  • บดฟักทองนึ่ง มันม่วงนึ่งให้ละเอียด
 แบ่งฟักทองนึ่ง มันม่วงนึ่ง ออกเป็น 2 ส่วน สำหรับทำไส้ และผสมแป้ง

  • เทแป้งข้าวเหนียวใส่กะละมังผสม ใส่ฟักทองนึ่งที่บดแล้วลงผสมแป้งค่อย ๆ เติมน้ำทำละนิด นวดแป้งบัวลอยให้เป็นเนื้อเดียวกับแป้ง สำหรับมันม่วงทำเหมือนกัน
 นำแป้งบัวลอยที่นวดแล้วห่อไว้ด้วยแรปกันอากาศเข้าจะทำให้แป้งแข็ง

  • นำฟักทองนึ่ง มันม่วงนึ่งที่บดแล้ว ส่วนที่แยกไว้ มาปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ใช้ส้อมคนให้เข้ากันชิมให้มีรสหวานตามชอบ

  • นำแป้งที่นวดไว้มาปั้นให้กลม แล้วกดให้แป้งแผ่จากนั้นนำไส้มาใส่ตรงกลาง แล้วห่อหุ้มด้วยแป้งให้มิด คลุกแป้งข้าวเหนียวพักไว้ ไม่ให้แป้งติดกัน

  • ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่ใบเตยลงไปจากนั้นใส่ตัวบัวลอยที่ปั้นไว้ ปั้นพอตัวบัวลอยลอยขึ้นมา แล้วตักมาพักในน้ำอุณหภูมิห้อง ตักใส่ถ้วยเตรียมไว้

  • นำนมสดไปอุ่นพอร้อน เทใส่ถ้วยที่ทำตัวบัวลอยไว้
 จัดเสิร์ฟ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? เมนูบัวลอยในรูปแบบต่าง ๆ ใครได้ลองทำ ลองรับประทานแล้วอย่าลืมมาบอกกันบ้างน้าา ส่วนใครจะนำเอาสูตรไปดัดแปลงทำขายยึดเป็นอาชีพทางเรายินดีมาก ๆ เลยค่ะ และพิมขอแนะนำเมนูขนมไทยแบบต้มให้ไปลองทำตามง่าย ๆ กันอีก หรืออยากทำขนมไทยแบบอื่น ๆ คลิกที่นี่ได้เลยค่า

อ่านบทความที่เกี่ยวกับ “เมนูบัวลอย” เพิ่มเติมได้ที่