แจกสูตรฟรี 20 เมนูขนมทำขายในไอจี ทำง่ายขายรุ่ง ยอดฟอลพุ่งไม่หยุด!
  1. แจกสูตรฟรี 20 เมนูขนมทำขายในไอจี ทำง่ายขายรุ่ง ยอดฟอลพุ่งไม่หยุด!

แจกสูตรฟรี 20 เมนูขนมทำขายในไอจี ทำง่ายขายรุ่ง ยอดฟอลพุ่งไม่หยุด!

วันนี้ Wongnai ขอแจกสูตร 20 เมนูขนมทำขายในไอจีสุดฮิต! รับรองว่าวิธีทำไม่ยาก แถมเป็นขนมที่ไม่กลัวเละ ไม่กลัวละลาย ทำง่ายขายคล่อง ยอดฟอล ยอดสั่งพุ่งแน่นอน!
writerProfile
27 เม.ย. 2022 · โดย
เวลาเตรียม
20 นาที
เวลาปรุง
30 นาที
แคลอรี่
500 Kcal/เสิร์ฟ
สำหรับ
2 เสิร์ฟ

Wongnai ขอเอาใจพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ กับสูตรขนมทำขายในไอจี ช่วงนี้หลาย ๆ คนอาจได้รับผลกระทบจากโควิดและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เราขอชี้ช่องทางเพิ่มรายได้ กับการขายของในไอจี หรือขายขนมออนไลน์ ที่สามารถทำขายผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ต้องมีค่าแผง ใครยังคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรารวบรวมเมนูยอดฮิตมาให้แล้วด้วยกัน 20 เมนู จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย!

แจกสูตรฟรี 20 เมนูขนมทำขายในไอจี ทำง่ายขายรุ่ง ยอดฟอลพุ่งไม่หยุด!

1.บราวนีดับเบิลช็อก

รวมสูตรขายขนมในไอจีทั้งที ไม่มีเมนู บราวนี คงจะไม่ได้ เพราะว่าฮิตกันมากเหลือเกินค่ะ สูตรที่เอามาฝากกันวันนี้เป็นบราวนีดับเบิ้ลช็อก ใส่ช็อกโกแลตคูณ 2 ไปเลย รสชาติเข้มข้นจนต้องสั่งซ้ำแน่นอน!

บราวนีดับเบิลช็อก

วัตถุดิบบราวนีดับเบิลช็อก

  1. ดาร์กช็อกโกแลต 125 กรัม
  2. เนยสดชนิดจืด 75 กรัม
  3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 62 กรัม
  4. น้ำตาลทรายแดง 110 กรัม
  5. ไข่ไก่ 1-1/2 ฟอง
  6. ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ผงฟู ½ ช้อนชา
  8. กาแฟผง ½ ช้อนโต๊ะ
  9. เกลือ ¼ ช้อนชา
  10. ช็อกโกแลตชิป 50 กรัม
  11. กลิ่นวานิลา ½ ช้อนชา

วิธีทำบราวนีดับเบิลช็อก

  • นำเนยจืดและดาร์กช็อกโกแลตใส่ถ้วยทนความร้อน นำไปตุ๋นรวมกันบนหม้อต้มน้ำเดือด
  • นำถ้วยอีกใบใส่ไข่ตีจนขึ้นฟูเล็กน้อย ใส่น้ำตาลทรายแดงและกลิ่นวานิลลาลงไปตะล่อมให้เข้ากันจากนั้นเทส่วนผสมช็อกโกแลตลงในไข่คนพอให้เข้ากัน ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู ผงโกโก้ ลงไปในส่วนผสมของเหลว ใส่ผงกาแฟ และเกลือตามลงไป ตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากัน ใส่ช็อกโกแลตชิปจากนั้นคนให้ช็อกโกแลตชิปกระจายตัวทั่วกันดี
  • เตรียมกระดาษไขปูรองพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 1 ปอนด์ เทส่วนผสมบราวนีลงไปในพิมพ์ เคาะไล่อากาศเล็กน้อย นำเข้าอบอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที เมื่อสุกดีแล้ว นำออกมาพักให้เย็น แล้วตัดเสิร์ฟใส่หีบห่อได้เลยจ้า

2.เค้กกล้วยหอม

ต่อด้วย เค้กกล้วยหอม เมนูเค้กสุดคลาสสิก รสชาติหวานหอม ต้นทุนไม่แพง วิธีทำก็เบสิกสุด ๆ รับรองว่าใคร ๆ ก็ทำได้ แถมยังไม่กลัวละลาย จัดส่งง่ายไม่กลัวเละอีกด้วย!

เค้กกล้วยหอม

วัตถุดิบเค้กกล้วยหอม

  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม 
  2. เกลือ ¼ ช้อนชา
  3. ผงฟู ½ ช้อนชา 
  4. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา 
  5. ไข่ไก่ 2 ฟอง 
  6. น้ำตาลทราย 150 กรัม 
  7. นมสด 125 มิลลิลิตร 
  8. กล้วยหอมบด 2 ลูก 
  9. เนยจืดละลาย 80 กรัม 
  10. กล้วยหอมหั่นแว่น (สำหรับตกแต่ง) 

วิธีทำเค้กกล้วยหอม

  • บดกล้วยหอมให้ละเอียดแล้วพักไว้ จากนั้นผสมไข่และน้ำตาลทราย ตีให้ขึ้นฟูหรือเริ่มเปลี่ยนสี แล้วใส่นมสด ตามด้วยเนย คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วจึงใส่เนื้อกล้วยบดลงไป 
  • ร่อนส่วนผสมของแห้ง แป้ง เกลือ เบกกิ้งโซดาและผงฟูลงในส่วนผสมของเหลวที่เราเตรียมไว้ แล้วคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 
  • ตักใส่พิมพ์ความสูงประมาณ ⅓ ของพิมพ์ แล้วนำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที เมื่อเค้กสุกดี จึงนำมาพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยจัดเสิร์ฟ

3.คุกกี้สิงคโปร์

เมนูเบเกอรีที่คุ้นหูคุ้นตาคนไทยกับ คุกกี้สิงคโปร์ แต่ไม่ได้นำเข้ามาจากสิงคโปร์แต่อย่างใด ทำกินก็ง่าย ทำขายหารายได้เสริมก็คุ้ม ใส่กล่องสวย ๆ น่ารัก ๆ รับรองว่าขายดี!

คุกกี้สิงคโปร์

วัตถุดิบคุกกี้สิงคโปร์

วัตถุดิบสำหรับคุกกี้

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 340 กรัม
  2. แป้งมัน 120 กรัม
  3. น้ำตาลไอซิง 160 กรัม
  4. เนยจืด 250 กรัม
  5. น้ำมันพืช 60 มิลลิลิตร
  6. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 50 กรัม
  7. เทียนอบขนม 1 ชิ้น

วัตถุดิบไข่แดงสำหรับทาหน้า

  1. ไข่แดง 2 ฟอง
  2. เกลือป่น ½ ช้อนชา
  3. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา

วิธีทำคุกกี้สิงคโปร์

  • วอร์มเตาอบโดยใช้ไฟบน และล่าง ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
  • นำเนยจืดมาตีจนขึ้นฟู แล้วทยอยใส่น้ำตาลไอซิงลงไปตีให้ทุกอย่างเข้ากัน จากร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ และแป้งมันรวมกันลงในอ่างผสม เทน้ำมันพืชใส่ลงไปในอ่างผสม จากนั้นนวดให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นพักแป้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที
  • นำไข่แดง เกลือป่น และกลิ่นวานิลลามาตีให้เข้ากัน เตรียมไว้ 
  • นำแป้งที่พักไว้มารีดให้เป็นแผ่น โดยให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ใช้ที่กดคุกกี้ขนาด โดยให้มีความห่างของแต่ละชิ้นประมาณ 1 เซนติเมตร นำคุกกี้ที่กดไว้วางเรียงใส่ถาดอบที่มีกระดาษไขรองไว้
  • นำไข่แดงที่เราตีไว้มาทาหน้าคุกกี้ที่ใส่ไว้ในถาดอบ ตามด้วยวางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปด้านบน แล้วทาไข่แดงซ้ำอีกครั้ง นำคุกกี้ไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที นำออกมาพักให้เย็น 
  • นำคุกกี้สิงคโปร์ที่เย็นแล้วมาอบควันเทียนประมาณ 1 ชั่วโมง ให้มีกลิ่นหอม จากนั้นบรรจุลงหีบห่อให้สวยงาม 

4.คุกกี้เนยสด 

คุกกี้เนยสด  เมนูเบเกอรีสุดคลาสสิก กรุบกรอบหวานมัน หอมเนยทุกคำที่ได้กิน สูตรนี้ใส่ไส้แยมเปรี้ยวอมหวานเข้ากันสุด ๆ ยิ่งคนนิยมซื้อเป็นของฝากกันแบบนี้ ยิ่งขายได้ง่าย ๆ เลย

คุกกี้เนยสด

วัตถุดิบคุกกี้เนยสด

  1. เนย 120 กรัม
  2. แป้งเอนกประสงค์ 120 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 50 กรัม
  4. น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม
  5. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  6. ไข่ 1 ฟอง
  7. ผงฟู 1/2 ช้อนชา 
  8. เบคกิ้งโซดา 1/8 ช้อนชา 

วิธีทำคุกกี้เนยสด

  • นำเนยอุณหภูมิห้องตีกับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟู จะช่วยทำให้คุกกี้เนยกรอบร่วนได้ดีมากขึ้น จากนั้นเติมไข่ เกลือ ไอซิ่ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา และกลิ่นวนิลา ตีต่อจนเข้ากัน 
  • ร่อนแป้งเอนกประสงค์แล้วค่อยๆ ตะล่อมจนส่วนผสมเข้ากัน การร่อนของแห้งก่อนจะทำให้เกิดอากาศระหว่างการตะล่อม จะทำให้คุกกี้มีสัมผัสที่กรอบเบา
  • บีบบนถาดอบแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศา 20 นาทีหรือจนขึ้นสี นำออกมาพักไว้ 10 นาทีเพื่อให้คุกกี้เริ่มแข็งตัวแล้วจัดเสิร์ฟหรือเก็บใส่ภาชนะที่ปิดสนิท

5.วุ้นกะทิใบเตย

มาดูสูตรขนมไทย ๆ กันบ้าง กับ วุ้นกะทิใบเตย หอมมัน หวานอ่อน ๆ ยิ่งแช่เย็น ๆ ยิ่งชื่นใจ ลูกค้าถูกใจแน่นอนค่ะ 

วุ้นกะทิใบเตย

วัตถุดิบวุ้นกะทิใบเตย

วัตถุดิบ วุ้นใบเตย

  1. ใบเตยหั่นชิ้น 12 ใบ
  2. น้ำ 550 มิลลิลิตร 
  3. น้ำตาลทราย 95 กรัม 
  4. ผงวุ้น 5 กรัม 

วัตถุดิบ วุ้นกะทิ

  1. น้ำกะทิ 200 กรัม 
  2. น้ำ 200 กรัม 
  3. น้ำตาลทราย 95 กรัม 
  4. ผงวุ้น 5 กรัม 
  5. เกลือ 1/2 ช้อนชา 

วิธีทำวุ้นกะทิใบเตย

  • นำใบเตยหั่นชิ้นปั่นกับน้ำให้พอละเอียด แล้วกรองน้ำใบเตยด้วยผ้าขาวบางและกระชอนตาถี่เพื่อให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้น
  • นำน้ำใบเตยไปตั้งไฟ ใส่ผงวุ้น คนจนผงวุ้นละลายจนหมด จึงจะใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย จากนั้นเทใส่พิมพ์ ช้อนฟองออกเพื่อให้หน้าของวุ้นเรียบ นำไปพักอุณหภูมิห้อง หรือตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัว
  • ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่กะทิและน้ำลงไป ใส่ผงวุ้น คนจนผงวุ้นละลายจนหมด จึงจะใส่น้ำตาลและเกลือ คนจนละลาย นำไปเทใส่บนวุ้นใบเตยที่เซตตัวแล้ว ช้อนฟองออกเพื่อให้หน้าของวุ้นเรียบ นำไปพักให้เย็นลงในตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัว 
  • เมื่อวุ้นแข็งและเซตตัวแล้ว นำมีดแซะที่ขอบเพื่อให้วุ้นหลุดจากพิมพ์ได้ง่าย เมื่อนำออกจากพิมพ์แล้วใช้ใบมีดหยักหั่นวุ้นเป็นชิ้นมาจัดเสิร์ฟ แค่นี้ก็พร้อมใส่แพคเกจจิงแล้ว!

6.มันม่วงฉาบ

ถ้าใครกลัวเรื่องการจัดส่ง อยากส่งไกล ๆ ทั่วไทย ก็ขอแนะนำ มันม่วงฉาบ เมนูขนมทำขายที่เก็บได้นาน แถมไม่กลัวเสียอีกต่างหาก มันม่วงเค็ม ๆ หวาน ๆ กรุบกรอบ ถูกใจจนต้องสั่งซ้ำ!

มันม่วงฉาบ

วัตถุดิบมันม่วงฉาบ

  1. มันม่วง 1 กิโลกรัม 
  2. น้ำมันสำหรับทอด 1 ลิตร 
  3. น้ำตาลปี๊บ 300 กรัม 
  4. เกลือ ½ ช้อนชา 

วิธีทำมันม่วงฉาบ

  • ปอกเปลือกมันม่วง และฝานให้เป็นแผ่นบาง ๆ ประมาณ 1 มิลลิเมตร เตรียมไว้ 
  •  นำกระทะขึ้นตั้งไฟกลาง เทน้ำมันลงไป และรอจนร้อน นำมันม่วงลงไปทอดจนกรอบ และตักขึ้นพักไว้เพื่อสะเด็ดน้ำมัน 
  • นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลปี๊บ และเกลือ เคี่ยวจนละลายแล้วปิดไฟ ใส่มันม่วงทอดลงไปคลุกให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นก่อนบรรจุใส่หีบห่อ

7.เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน

เมนูเบเกอรีแบบไทย ๆ หอมนุ่ม เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเค้ก และฝอยทอง ตัดด้วยครีมมะพร้าว ใครได้ชิมก็ต้องติดใจค่ะ

เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน

วัตถุดิบเค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน

วัตถุดิบแป้ง

  1. แป้งอเนกประสงค์ 130 กรัม
  2. ผงฟู 1 ช้อนชา
  3. เกลือ ¼ ช้อนชา
  4. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  5. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
  6. นมสด 80 มิลลิลิตร
  7. น้ำมันรำข้าว 70 กรัม
  8. ไข่แดง 4 ฟอง
  9. ฝอยทอง 150 กรัม

วัตถุดิบเมอร์แรงก์

  1. ไข่ขาว 4 ฟอง
  2. น้ำตาลทราย 70 กรัม
  3. ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา

วัตถุดิบครีมมะพร้าว

  1. วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร
  2. น้ำมะพร้าว 60 มิลลิลิตร
  3. น้ำตาลไอซิง 30 กรัม
  4. มะพร้าว 50 กรัม 

วิธีทำเค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน

  • วอร์มเตาอบ ไฟบน - ล่าง 250 องศาเซลเซียส 15 นาที และเปลี่ยนเป็นไฟ 180 องศาเซลเซียส
  • นำฝอยทองใส่ลงไปในพิมพ์แฉกขนาด 3 นิ้ว กดฝอยทองให้แน่น เตรียมไว้
  • นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ ร่อนเข้าด้วยกัน
  • นำไข่แดงใส่ในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ใส่กลิ่นวานิลลา นมสด ส่วนของแป้งที่ร่อนไว้ ตีให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมันรำข้าวพร้อมกับตีไปด้วยจนเนื้อเดียวกัน พักไว้
  • ตีเมอแรงก์ โดยนำไข่ขาวใส่ลงไปในชามผสม ตีให้ขึ้นฟอง ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่อจนไข่ขาวฟู ฟองละเอียด จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลลงไป และตีต่อจนตั้งยอดแข็ง
  • นำเมอแรงก์มาผสมกับแป้งที่ตีเตรียมไว้ ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปใส่พิมพ์ที่ใส่ฝอยทองเตรียมไว้ นำไปอบด้วยไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 7 นาที จากนั้นแกะออกจากพิมพ์ และพักไว้บนตะแกง
  • นำวิปปิ้งครีมเทลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลไอซิง ตีให้ขึ้นฟูจนตั้งยอดกลาง จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมะพร้าวลงไป ตีให้เข้ากัน ใส่เนื้อมะพร้าวลงไป และคนให้เข้ากัน
  • นำครีมมะพร้าวใส่ลงไปตรงกลางของเค้กฝอยทองที่อบเสร็จแล้ว พร้อมแพ็คใส่กล่องแล้วจ้า!

8.บราวนีกรอบ

เป็นอีกเมนูที่ฮิตสุด ๆ ในช่วงนี้ สำหรับ บราวนีกรอบ ที่เปลี่ยนบราวนีเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำเป็นคุกกี้แผ่นบางกรุบกรอบ แถมมีรสช็อกโกแลตเข้มข้นอีกด้วย จัดส่งง่าย สบายใจได้เลย!

บราวนีกรอบ

วัตถุดิบบราวนีกรอบ

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วยตวง 
  2. ผงโกโก้ ¼ ถ้วยตวง 
  3. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ 
  4. ผงกาแฟ 1 ช้อนชา 
  5. เกลือ ¼ ช้อนชา 
  6. เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา 
  7. ไข่ขาว 2 ฟอง 
  8. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง 
  9. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา 
  10. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 
  11. อัลมอนด์หั่น 1 ถ้วยตวง 

วิธีทำบราวนีกรอบ

  • ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงโกโก้ แป้งข้าวโพด ผงกาแฟ เกลือ และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน พักไว้
  • ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงสลับกับใส่น้ำตาลทรายลงไป จนไข่ขาวขึ้นฟูตั้งยอด ผสมกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วนำของแห้งที่พักไว้มาผสมกับไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอด ตะล่อมจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันดี ใส่น้ำมันพืชลงไปผสม ตะล่อมจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  • นำส่วนผสมบราวนีมาปาดบาง ๆ ลงบนแผ่นรองอบ โรยด้วยอัลมอนด์หั่นให้ทั่วแล้วนำเข้าเตาอบ อบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที พอสุกกรอบแล้ว นำออกจากเตาอบ
  • พักให้เย็นก่อนบรรจุใส่หีบห่อที่ป้องกันลมเพื่อให้กรอบนาน

9.กล้วยทอดเนย

อีกหนึ่งเมนูทอดแสนกรุบกรอบ กับ กล้วยทอดเนย กล้วยทอดแผ่นบาง รสชาติหวานหอม ได้กลิ่นเนยแบบแท้ ๆ กินมัน กินเพลินเกินห้ามใจสุด ๆ 

กล้วยทอดเนย

วัตถุดิบกล้วยทอดเนย

  1. กล้วยน้ำว้าดิบ 1 หวี 
  2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
  3. น้ำเปล่า ½ ถ้วย 
  4. เนยเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ 
  5. น้ำปูนใส สำหรับแช่กล้วย

วิธีทำกล้วยทอดเนย

  • ปอกกล้วยแล้วแช่น้ำเปล่า เพื่อป้องกันกล้วยดำ จากนั้นนำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำไปแช่ต่อในน้ำปูนใส 2-3 ชั่วโมง
  • ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อน ใส่กล้วยที่แช่น้ำปูนใสแล้วลงทอด ทอดจนสีน้ำตาลได้ที่นำขึ้นมาพักไว้
  • ทำน้ำเคลือบกล้วย ใส่น้ำตาล น้ำและเนย เปิดไฟกลางผสมจนเข้ากัน นำกล้วยที่ทอดแล้วไปคลุกจนทั่วตักขึ้น 
  • พักให้เย็นก่อนบรรจุใส่หีบห่อที่ป้องกันลมเพื่อให้กรอบนาน

10.ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง อีกหนึ่งเมนูเบเกอรีสุดคลาสสิก ทำง่ายแถมทนความร้อน ไม่ต้องกลัวเละระหว่างจัดส่งเลยค่ะ แถมยังเป็นของโปรดของคนทุกรุ่นทุกวัยอีกด้วย พลาดไม่ได้เลย

ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

วัตถุดิบทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

วัตถุดิบแป้ง

  1. แป้งเค้ก 130 กรัม
  2. ผงกาแฟ 30 กรัม 
  3. ผงโกโก้ 30 กรัม 
  4. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  5. ผงฟู 2 ช้อนชา 
  6. เนยจืดละลาย 150 กรัม
  7. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  8. เกลือ ⅛ ช้อนชา 

วัตถุดิบหน้าเค้ก

  1. แป้งเค้ก 40 กรัม 
  2. วิปปิ้งครีม 60 มิลลิลิตร 
  3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  4. เกลือ ¼ ช้อนชา 
  5. ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. เนยจืดละลาย 50 กรัม 
  7. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 200 กรัม

วิธีทำทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

  • วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับเป็นอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส และเตรียมพิมพ์ขนาด 8x8x2 ทาเนย และโรยแป้งเค้กบาง ๆ จะช่วยให้เอาเค้กออกจากพิมพ์ง่ายขึ้น
  • ร่อนของแห้ง ได้แก่ แป้งเค้ก ผงโกโก้ ผงกาแฟ ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน
  • ตีไข่ และน้ำตาลทราย ด้วยความเร็วสูง 5 นาที จนกลายเป็นสีเหลืองอ่อน ใส่ของแห้งที่ร่อนไว้ลงไป ตามด้วยเนยจืดละลาย คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้นำเข้าเตาอบ 20 นาที
  • ใส่วิปปิ้งครีมลงในหม้อ ตามด้วยเนยจืดละลาย ผงกาแฟ น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งเค้ก คนให้เข้ากัน นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง และคนไปเรื่อย ๆ จนหนืด ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป
  • ปรับไฟเตาอบเป็น 200 องศาเซลเซียส เค้กที่อบแล้ว ไม่ต้องนำออกจากพิมพ์ เทหน้าเค้กที่ทำเสร็จแล้วลงไป และเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ 12 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นตามชอบ พักไว้ให้เย็นแล้วจัดใส่กล่อง

11.ขนมเปี๊ยะกุหลาบ

ขนมเปี๊ยะกุหลาบ สูตรนี้แป้งหวานละมุน สีสันน่ารักน่าชัง เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ คล้ายดอกกุหลาบ ห่อด้วยไส้ถั่วกวนแทรกมะพร้าวอ่อนเคี้ยวกรุบ ๆ เป็นสูตรที่คุณแม่ชอบมาก ๆ เลยค่ะ

ขนมเปี๊ยะกุหลาบ

วัตถุดิบขนมเปี๊ยะกุหลาบ

วัตถุดิบไส้ถั่ว

  1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก 200 กรัม 
  2. น้ำมันพืช 80 มิลลิลิตร 
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  4. น้ำมะพร้าว 1 ถ้วยตวง 
  5. เนื้อมะพร้าว ½ ถ้วยตวง

วัตถุดิบแป้งขนมเปี๊ยะกุหลาบ

แป้งขนมเปี๊ยะกุหลาบชั้นนอก
  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 260 กรัม 
  2. แป้งเค้ก 50 กรัม 
  3. น้ำตาลทราย 30 กรัม 
  4. น้ำ 110 มิลลิลิตร
  5. น้ำมัน 110 มิลลิลิตร 
  6. สีผสมอาหาร
แป้งขนมเปี๊ยะกุหลาบชั้นใน
  1. แป้งเค้ก 150 กรัม 
  2. น้ำมัน 80 มิลลิลิตร 
  3. สีผสมอาหาร 
  4. เทียนอบ 1 วง 

วิธีทำขนมเปี๊ยะกุหลาบ

  • นำถั่วเขียวเลาะเปลือกล้างให้สะอาด แล้วเทน้ำเปล่า แช่ทิ้งไว้ข้ามคืน
  • นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมานึ่ง 20 นาที แล้วนำเอาถั่วเขียวเลาะเปลือกมาปั่นกับน้ำมะพร้าวให้เนียน ตั้งหม้อ เปิดไฟ ใส่ถั่วเขียวเลาะเปลือกและน้ำมะพร้าวที่ปั่นรวมกัน กวนกับน้ำตาลทรายและน้ำมัน 10 นาที ใส่เนื้อมะพร้าว กวนให้เข้ากัน ปิดไฟยกลงจากเตา พักให้ไส้ถั่วเขียวมะพร้าวเย็น แล้วแบ่งเป็นก้อนก้อนละ 15 กรัม
  • ผสมแป้งขนมเปี๊ยะชั้นนอก โดยนำแป้งอเนกประสงค์ แป้งเค้ก น้ำมัน น้ำ และสีผสมอาหาร ผสมเข้ารวมกัน แล้วนวดให้เนียน
  • ผสมแป้งขนมเปี๊ยะชั้นใน โดยนำแป้งเค้ก และน้ำมันผสมจนเข้ากัน
  • นำแป้งขนมเปี๊ยะชั้นนอกแบ่งเป็นก้อน ก้อนละ 25 กรัม และแป้งขนมเปี๊ยะชั้นในเป็นก้อนก้อนละ 15 กรัม จากนั้นนำแป้งขนมเปี๊ยะชั้นในห่อด้วยแป้งขนมเปี๊ยะชั้นนอก หลังจากนั้นพักไว้ 15 นาที นำแป้งมารีด แล้วม้วน ทำซ้ำอีกครั้ง 
  • ตัดแบ่งครึ่งแป้งที่ม้วนเสร็จแล้ว รีดเป็นแผ่นกลม หลังจากนั้นนำมาห่อไส้ถั่วมะพร้าวอ่อน
  • นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จนสุก ยกออกจากเตาผึ่งให้เย็นสนิท
  • นำขนมเปี๊ยะกุหลาบจัดวางใส่อ่างชามผสมใหญ่ เว้นที่ไว้ตรงกลางสำหรับควันเทียน นำควันเทียนมาจุดไฟให้เผาเนื้อเทียนอบเล็กน้อย เเล้วดับไฟ นำใส่ลงไปแล้วปิดฝาแล้วอบควันเทียน 1 ชั่วโมง 

12.คุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก

คุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก เมนูเบเกอรีช็อกโกแลตเข้มข้น ด้านในมีไส้ไวท์ช็อกโกแลตเยิ้ม ๆถูกใจสายหวานแน่นอน มีเซอไพรส์ข้างในเป็นกิมมิคน่ารัก ๆ ใคร ๆ ก็ต้องเลิฟ!

คุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก

วัตถุดิบคุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก

  1. ผงโกโก้สีเข้ม 60 กรัม 
  2. แป้งอเนกประสงค์ 275 กรัม 
  3. ผงฟู 2 ช้อนชา 
  4. เกลือ ½ ช้อนชา 
  5. น้ำตาลทราย 220 กรัม 
  6. เนยจืด 200 กรัม
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  8. นมสด 50 มิลลิลิตร 
  9. ไวท์ช็อกโกแลต คอมพาวด์ (เหรียญ) 100 กรัม

วิธีทำคุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก

  • ปั้นเป็นก้อนกลมด้วยมือ แล้ววางลงในถาดอบที่ปูกระดาษไขไว้
  • แล้วนำไวท์ช็อกโกแลต คอมพาวด์ (เหรียญ)  กดลงไปตรงกลางโดว์คุกกี้ แล้วหุ้มปิดให้มิด และปั้นกลับเป็นก้อนกลมเช่นเดิม
  • นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 10 นาทีจนสุก พักให้เย็นบนตะแกรง แล้วตกแต่งด้วยไวท์ช็อกโกแลตละลาย พักไว้ให้เย็นก่อนใส่ในห่อ

13.ปังกรอบเนยหนึบ

ปังกรอบเนยหนึบ เมนูกินเล่นกินเพลิน แถมเก็บได้นานไม่กลัวเสีย เหมาะเป็นขนมทำขายในไอจีสุด ๆ  แถมยังทำได้ทีละเยอะ ๆ อีกด้วย 

ปังกรอบเนยหนึบ

วัตถุดิบปังกรอบเนยหนึบ

  1. นมข้นหวาน ผสมชาไทย 1 หลอด 
  2. นมข้นหวาน กลิ่นนมเย็น 1 หลอด 
  3. ขนมปัง 12 แผ่น 
  4. เนยเค็ม 150 กรัม 
  5. น้ำตาลทราย 90 กรัม
  6. น้ำตาลไอซิง 90 กรัม 
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  8. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 75 กรัม 
  9. ผงฟู 1/2 ช้อนชา 
  10. นมผง 50 กรัม

วิธีทำปังกรอบเนยหนึบ

  • นำขนมปังมาเรียงในถาดอบ แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 นาที เมื่อครบเวลานำออกมาหั่นครึ่งแผ่น แล้วพักไว้
  • ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับนมผงและผงฟู แบ่งให้เป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กันแล้วพักไว้
  • ตีเนยเค็ม น้ำตาลทรายและน้ำตาลไอซิง ด้วยความเร็วสูงประมาณ 5 นาที หรือจนกระทั่งเนยฟูและมีสีอ่อนลง ตอกไข่ไก่ลงในเนย แล้วตีให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลางจากนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน
  • เติมนมข้นหวานผสมชาไทย และนมข้นหวานกลิ่นนมเย็นในอีกส่วนหนึ่ง ตีด้วยความเร็วปานกลางให้เข้ากัน แล้วใส่แป้งที่ร่อนไว้ จากนั้นตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำอีกครั้ง
  • ปาดเนยทั้ง 2 รสชาติลงบนขนมปังให้เต็มแผ่น แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส 10 - 15 นาที หรือจนขนมปังสุกกรอบ

14.บาสก์ชีสเค้ก

บาสก์ชีสเค้ก ชีสเค้กหน้าไหม้สุดฮิต เนื้อชุ่มนุ่มละมุนสุดฟิน ใครได้ชิมก็ต้องร้องว้าว แถมยังใช้วัตถุดิบน้อยกว่าชีสเค้กทั่ว ๆ ไปอีกด้วย!

บาสก์ชีสเค้ก

วัตถุดิบบาสก์ชีสเค้ก

  1. ครีมชีส 250 กรัม 
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. น้ำตาลทราย 75 กรัม
  4. วิปปิ้งครีม 120 มิลลิลิตร
  5. แป้งเค้ก 15 กรัม
  6. เกลือ ¼ ช้อนชา

วิธีทำบาสก์ชีสเค้ก

  • วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับอุณหภูมิเป็น 230 องศาเซลเซียส
  • เตรียมพิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ โดยวางกระดาษรองอบตรงตัวฐาน และรอบพิมพ์
  • ตีครีมชีส เกลือ และน้ำตาลเข้าด้วยกัน ด้วยความเร็วปานกลาง จนเนื้อเนียน ใส่วิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และแป้งเค้ก ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลางจนเข้ากัน  เทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วปาดให้เรียบ นำไปอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิเป็น 230 องศาเซลเซียส 25 นาที 
  • ปิดเตาอบแล้วพักบาสก์ชีสเค้กหรือชีสเค้กหน้าไหมของเราไว้ 15 นาที จากนั้นนำออกจากเตา แล้วพักให้เย็นสนิทจึงตัดเป็นชิ้นใส่กล่องให้สวยงาม

15.ขนมชั้น

เมนูขนมไทยสุดฮอตตลอดกาล ก็ต้อง ขนมชั้น ใช่ไหมคะ เมนูขนมมงคลเนื้อนุ่มหนึบหอมใบเตย หวานละมุนกินเพลินอย่าบอกใคร แถมถ้าส่งระยะไม่ไกลมากก็หายห่วง!

ขนมชั้น

วัตถุดิบขนมชั้น

  1. แป้งมัน 2 ถ้วย
  2. แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย
  3. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
  4. แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วย
  5. น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
  6. น้ำตาลทรายขาว 3 1/2 ถ้วย
  7. หัวกะทิ 3 ถ้วย
  8. สีผสมอาหาร หรือน้ำใบเตยคั้น 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำขนมชั้น

  • เทแป้งมัน แป้งข้าวโพด แป้งข้าวเจ้าและแป้งท้าว ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นคลุกเคล้าส่วนแป้งให้เข้ากันดี แล้วพักไว้ก่อน
  • จากนั้นทำน้ำเชื่อมด้วยการนำหม้อตั้งเตา ผสมน้ำตาลทรายและน้ำลอยดอกมะลิ คนให้เข้ากัน พอน้ำตาลละลายดีแล้ว ยกลงพักให้เย็น พอน้ำเชื่อมเย็นแล้ว นำหัวกะทิเทลงไปคนให้เข้ากัน 
  • เทส่วนผสมหัวกะทิน้ำเชื่อมลงไปในถ้วยที่เราเตรียมแป้งไว้ ค่อย ๆ เทใส่ทีละนิด จากนั้นใช้มือขยำแป้งให้เข้ากันดี โดยใช้เวลาประมาน 20-30 นาที จากนั้นกรองแป้งด้วยกระชอน เพื่อให้ส่วนผสมเนียนสวย เมื่อกรองส่วนผสมเสร็จแล้วให้แบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างละครึ่ง ส่วนที่ 1 ไม่ต้องผสมอะไร และส่วนที่สองให้เทน้ำใบเตยคั้นหรือสีผสมอาหารผสมลงไป 
  • ตั้งลังถึงบนเตาแก๊ส รอให้น้ำร้อนค่อยเทแป้งลงในถาดที่ใส่ในลังถึง นำถาดพิมพ์มาเตรียมไว้ เทแป้งสีเขียวลงไปประมาณ 2 มิลลิเมตร และนำไปนึ่ง 6-10 นาที จากนั้น ก็เทแป้งสีขาวลงไปประมาณ 2 มิลลิเมตร ทำแบบนี้ลงไปประมาณ 9 ชั้น เป็นอันเสร็จ ทิ้งไว้ให้เย็นตัวดี แล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม

16.บานอฟฟี

เมนูเบเกอรีที่วันนี้เรามาเอาใจคนไม่มีเตาอบ! กับ บานอฟฟี สูตรไมโครเวฟ ทำใส่ถ้วยพลาสติกหรือถ้วยฟอยล์ก็เสิร์ฟได้ง่าย ๆ แนะนำว่าใช้วิปปิงครีมแบบนอนเดรี่ จะทำให้ไม่เหลวละลายเวลาเจออากาศร้อนค่ะ

บานอฟฟี

วัตถุดิบบานอฟฟี

  1. แครกเกอร์ 100 กรัม
  2. เนยสดเค็ม 50 กรัม( สำหรับใส่แครกเกอร์ ) 
  3. กล้วยหอม 3 ลูก 
  4. น้ำตาลทราย 90 กรัม
  5. วิปปิ้งครีม 50 กรัม ( สำหรับทำคาราเมลซอส ) 
  6. เนยสดเค็ม 40 กรัม( สำหรับทำคาราเมลซอส ) 
  7. วิปปิ้งครีมเย็นจัด 200 กรัม 
  8. ผงโกโก้ ( สำหรับโรยหน้า )  

วิธีทำบานอฟฟี

  • บดแครกเกอร์พอหยาบ ละลายเนยสดเค็มในไมโครเวฟ และนำมาผสมกับแครกเกอร์ให้เข้ากัน กรุลงในแก้วหรือภาชนะตามชอบ นำไปใส่ตู้เย็นพักไว้
  • ทำซอสคาราเมล โดยตั้งวิปปิ้งครีมให้พออุ่นพักไว้ นำน้ำตาลทั้งไฟให้น้ำตาลละลายจนหมด(ห้ามคน) เทวิปปิ้งครีมอุ่นลงไป รีบคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยสดเค็มลงไปคนใส่เข้ากัน ปิดไฟยกขึ้นพักไว้ให้เย็น 
  • หั่นกล้วยหอมเป็นแว่นๆเรียงลงไปในแก้วที่กรุแครกเกอร์เตรียมไว้ ราดด้วยคาราเมลซอส
  • ตีวิปปิ้งครีมเป็นจัดให้ตั้งยอด บีบลงไปให้เต็มแก้ว โรยหน้าด้วยผงโกโก้ตามชอบ แช่เย็น30 นาที พร้อมเสิร์ฟ

17.กล้วยทอดโมเลน

เมนูกล้วยเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือจัดส่งง่ายขึ้นแถมไกลขึ้นได้ด้วย! กับ กล้วยทอดโมเลน เมนูกล้วยทอดที่พันด้วยแป้งบาง ๆ กรอบ ๆ สามารถใช้ได้ทั้งกล้วยสดและกล้วยตากเลยค่ะ เป็นกล้วยตากก้ได้อารมณ์ไปอีกแบบแถมเก็บได้นานขึ้นอีกด้วย

กล้วยทอดโมเลน

วัตถุดิบกล้วยทอดโมเลน

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 140 กรัม  
  2. น้ำตาลทราย 25 กรัม  
  3. เนยจืดละลาย 50 กรัม  
  4. น้ำเปล่า 50 กรัม  
  5. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 
  6. กล้วยไข่ 3 ลูก  

วิธีทำกล้วยทอดโมเลน

  • นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย เกลือป่น เนย น้ำเปล่า ผสมให้เข้ากัน ใช้มือนวด 10 นาที
  • หั่นกล้วย 4 ส่วน แล้วนำแป้งที่พักไว้มารีดเป็นแผ่นแล้วพันกล้วยไข่ไว้
  • ตั้งน้ำมันทอดให้ร้อน เมื่อน้ำมันร้อนแล้วปรับเป็นไฟอ่อนค่อนไปทางกลาง นำกล้วยที่พันแป้งแล้วลงทอด จนได้สีเหลืองทอง 
  • พักให้เย็นก่อนใส่กล่อง อย่าลืมใส่นมข้นหวานถ้วยเล็ก ๆ คู่ไปด้วยนะ!

18.เค้กไข่ไต้หวัน

เค้กไข่เนื้อนุ่มเด้งดึ๋ง ๆ หอมกรุ่นจากเตา สูตรส่งตรงจากไต้หวัน เนื้อเค้กนุ่มลิ้นละลายในปาก ใส่กล่องสวย ๆ ก็พร้อมส่งแล้ว!

เค้กไข่ไต้หวัน

วัตถุดิบเค้กไข่ไต้หวัน

  1. แป้งเค้ก 80 กรัม
  2. ผงฟู 1 ช้อนชา
  3. น้ำมันข้าวโพดอุ่น 70 กรัม
  4. นมสด 70 กรัม
  5. น้ำตาลทราย 80 กรัม
  6. ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
  7. ไข่แดง 6 ฟอง
  8. ไข่ขาว 6 ฟอง
  9. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
  10. เกลือ ¼ ช้อนชา 

วิธีทำเค้กไข่ไต้หวัน

  • วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับเป็นอุณหภูมิ 150 - 160 องศาเซลเซียส (แล้วแต่เตาของแต่ละบ้าน)
  • เตรียมพิมพ์ขนาด 8x8x2 รองกระดาษอบให้สูง เพราะเวลาอบเค้กจะฟูขึ้นล้นพิมพ์
  • ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน เทน้ำมันข้าวโพดอุ่นลงไปในแป้งที่ร้อนไว้ ตีให้เข้ากัน
  • ใส่นมสด กลิ่นวานิลลา และไข่แดงลงไปตีให้เข้ากัน และพักไว้ 
  • ใส่ไข่ขาวลงชามผสม ตามด้วยครีมออฟทาร์ทาร์ ตีด้วยความเร็วปานกลางพอให้ไข่ขาวฟูเป็นฟองหยาบ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป แล้วตีไปเรื่อย ๆ จนตั้งยอดอ่อน
  • ค่อย ๆ ผสมเมอแรงก์กับแป้งที่ทำไว้ตอนแรก ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ จนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ และใช้ที่ตัดแป้งปาดหน้าให้เนียนเท่ากัน 
  • นำเค้กไข่ที่จะเข้าอบ วางบนถาดที่มีขนาดใหญ่กว่า เทน้ำร้อนลงไปให้สูงประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากนั้นนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150 - 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 60 - 70 นาที (แล้วแต่เตาของแต่ละบ้าน)
  • นำออกจากเตาอบ เคาะถาด 1 ที และยกเค้กไข่ออกจากพิมพ์ ตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามต้องการ พักไว้ให้เย็นก่อนใส่กล่อง

19.เค้กมะยงชิดนึ่ง

ต่อด้วยเมนูขนมที่กำลังจะมาแรงกับผลไม้ประจำฤดูช่วงนี้ อย่าง เค้กมะยงชิดนึ่ง เมนูเบเกอรีแบบไม่ง้อเตาอบ เปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นมะยงชิด เหมาะทำขายลงไอจีช่วงนี้สุด ๆ !

เค้กมะยงชิดนึ่ง

วัตถุดิบเค้กมะยงชิดนึ่ง

  1. มะยงชิด 300 กรัม
  2. แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
  3. ผงฟู 1 ช้อนชา 
  4. เบกกิงโซดา ½ ช้อนชา 
  5. เกลือป่น 1 ช้อนชา 
  6. นมสด 150 มิลลิลิตร 
  7. น้ำตาลทราย 130 กรัม 
  8. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา 

วิธีทำเค้กมะยงชิดนึ่ง

  • นำมะยงชิด น้ำตาลทราย เกลือป่น และนมสด มาปั่นให้ทุกอย่างเข้ากัน เทใส่ชามเตรียมไว้
  • ร่อนแป้ง ผงฟู และเบคกิงโซดาลงในชามที่มีน้ำมะยงชิด คนให้ทุกอย่างเข้ากัน
  • ตักส่วนผสมค้กมะยงชิดที่เตรียมไว้ลงในพิมพ์ขนมโดยให้เหลือขอบประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร
  • ใช้ไม้จิ้มฟันจุ่มน้ำมะนาว และกรีดหน้าให้เป็นกากบาด จะช่วยให้หน้าเค้กแตกสวย
  • นึ่งเค้กมะยงชิดประมาณ 20 - 25 นาที 
  • พักเค้กมะยงชิดที่นึ่งเสร็จแล้วให้เย็นค่อยจัดใส่กล่อง

20.วุ้นกุหลาบแก้ว  

ปิดท้ายกันด้วย วุ้นกุหลาบแก้ว เมนูของหวานเนื้อเด้ง หน้าตาน่ารักสวยงาม เฟมาะสำหรับทำขายในไอจีสุด ๆ เพราะนอกจากจะไม่ต้องพึ่งเตาอบแล้วยังทำได้ทีละเยอะ ๆ อีกด้วยนะ!

วุ้นกุหลาบแก้ว

วัตถุดิบวุ้นกุหลาบแก้ว

วัตถุดิบวุ้นกะทิ

  1. หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง 
  2. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
  3. น้ำตาลทราย 120 กรัม 
  4. เกลือ 1/3 ช้อนชา 
  5. ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. สีผสมอาหารสีแดง 4 หยด 
  7. สีผสมอาหารสีแดง 2 หยด

วัตถุดิบวุ้นใส

  1. น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง 
  2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 
  3. ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ 

อุปกรณ์

  1. พิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 3 ซม. 10 ชิ้น
  2. พิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 5 ซม. 10 ชิ้น 

วิธีทำวุ้นกุหลาบแก้ว

  • นำน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปแช่ในน้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้วุ้นนั้นอิ่มตัวและละลายได้ง่ายขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วนำหม้อขึ้นตั้งไฟ จากนั้นใส่หัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือคนให้เข้ากัน โดยเราจะคนให้ถึงก้นหม้อเพื่อไม่ให้ผงวุ้นติดก้นหม้อ เมื่อน้ำกะทิเดือนพล่านแล้วยกลงจากเตา
  • แบ่งน้ำกะทิออกเป็น 2 ถ้วย จากนั้นหยดสีแดงลงไปทั้ง 2 ถ้วย โดยถ้วยหนึ่งใส่สีแดง 4 หยด และอีกถ้วยใส่สีแดงลงไป 2 หยดแล้วคนให้เข้ากัน
  • หยอดน้ำกะทิสีชมพูเข้มและอ่อนที่ทำไว้ลงในพิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 3 ซม. จนครบทั้ง 10 ชิ้น จากนั้นพักไว้ให้เซตตัว
  • นำเปล่าใส่ลงในหม้อ จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปแช่ในน้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้วุ้นนั้นอิ่มตัวและละลายได้ง่ายขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วนำหม้อขึ้นตั้งไฟ จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน โดยเราจะคนให้ถึงก้นหม้อเพื่อไม่ให้ผงวุ้นติดก้นหม้อ เมื่อน้ำเดือนพล่านแล้วยกลงจากเตา
  • นำวุ้นกะทิดอกกุหลาบที่เซตตัวแล้ว วางลงไปในพิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 5 ซม. โดยจัดไว้ตรงกลาง จากนั้นตักวุ้นใสใส่ลงไปในพิมพ์ให้เต็ม ทำแบบนี้ทุกอัน แล้วรอให้เซตตัวดี
  • แกะวุ้นกุหลาบแก้วออกจากพิมพ์ จัดใส่กล่องให้สวยงาม

เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้ไอเดีย เมนูขนมทำขายในไอจี กันแล้วหรือเปล่า ต้องขอบอกก่อนว่าบางเมนูอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาการเก็บรักษา หรือข้อจำกัดทางการจัดส่งอยู่บ้างนะคะ แต่ถ้าเป็นเมนูของแห้งล่ะก็ ไปไหนไปกันเลยค่ะ ส่งขายได้ง่ายแน่นอน ถ้าเพื่อน ๆ อยากได้สูตรขนมไว้ทำขายกันอีก ก็ขอแนะนำ รวมสูตรเมนูคุกกี้ ให้ไปลองทำกันต่อ ส่วนคราวหน้าจะมีเมนูอะไรมาฝากก็อย่าลืมมาติดตามกันดูน้าา แล้วเจอกันค่ะ :)

ดูรวมสูตรที่น่าสนใจเพิ่มตรงนี้เลย!