Wongnai ขอเอาใจพ่อค้าแม่ขายออนไลน์ กับสูตรขนมทำขายในไอจี ช่วงนี้หลาย ๆ คนอาจได้รับผลกระทบจากโควิดและค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เราขอชี้ช่องทางเพิ่มรายได้ กับการขายของในไอจี หรือขายขนมออนไลน์ ที่สามารถทำขายผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ต้องมีค่าแผง ใครยังคิดไม่ออกว่าจะขายอะไรก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจไปค่ะ เพราะวันนี้เรารวบรวมเมนูยอดฮิตมาให้แล้วด้วยกัน 20 เมนู จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย!
แจกสูตรฟรี 20 เมนูขนมทำขายในไอจี ทำง่ายขายรุ่ง ยอดฟอลพุ่งไม่หยุด!
1.บราวนีดับเบิลช็อก
รวมสูตรขายขนมในไอจีทั้งที ไม่มีเมนู บราวนี คงจะไม่ได้ เพราะว่าฮิตกันมากเหลือเกินค่ะ สูตรที่เอามาฝากกันวันนี้เป็นบราวนีดับเบิ้ลช็อก ใส่ช็อกโกแลตคูณ 2 ไปเลย รสชาติเข้มข้นจนต้องสั่งซ้ำแน่นอน!

วัตถุดิบบราวนีดับเบิลช็อก
- ดาร์กช็อกโกแลต 125 กรัม
- เนยสดชนิดจืด 75 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 62 กรัม
- น้ำตาลทรายแดง 110 กรัม
- ไข่ไก่ 1-1/2 ฟอง
- ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู ½ ช้อนชา
- กาแฟผง ½ ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- ช็อกโกแลตชิป 50 กรัม
- กลิ่นวานิลา ½ ช้อนชา
วิธีทำบราวนีดับเบิลช็อก
- นำเนยจืดและดาร์กช็อกโกแลตใส่ถ้วยทนความร้อน นำไปตุ๋นรวมกันบนหม้อต้มน้ำเดือด
- นำถ้วยอีกใบใส่ไข่ตีจนขึ้นฟูเล็กน้อย ใส่น้ำตาลทรายแดงและกลิ่นวานิลลาลงไปตะล่อมให้เข้ากันจากนั้นเทส่วนผสมช็อกโกแลตลงในไข่คนพอให้เข้ากัน ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู ผงโกโก้ ลงไปในส่วนผสมของเหลว ใส่ผงกาแฟ และเกลือตามลงไป ตะล่อมส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากัน ใส่ช็อกโกแลตชิปจากนั้นคนให้ช็อกโกแลตชิปกระจายตัวทั่วกันดี
- เตรียมกระดาษไขปูรองพิมพ์สี่เหลี่ยมขนาด 1 ปอนด์ เทส่วนผสมบราวนีลงไปในพิมพ์ เคาะไล่อากาศเล็กน้อย นำเข้าอบอุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส ประมาณ 20 นาที เมื่อสุกดีแล้ว นำออกมาพักให้เย็น แล้วตัดเสิร์ฟใส่หีบห่อได้เลยจ้า
2.เค้กกล้วยหอม
ต่อด้วย เค้กกล้วยหอม เมนูเค้กสุดคลาสสิก รสชาติหวานหอม ต้นทุนไม่แพง วิธีทำก็เบสิกสุด ๆ รับรองว่าใคร ๆ ก็ทำได้ แถมยังไม่กลัวละลาย จัดส่งง่ายไม่กลัวเละอีกด้วย!

วัตถุดิบเค้กกล้วยหอม
- แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- ผงฟู ½ ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- นมสด 125 มิลลิลิตร
- กล้วยหอมบด 2 ลูก
- เนยจืดละลาย 80 กรัม
- กล้วยหอมหั่นแว่น (สำหรับตกแต่ง)
วิธีทำเค้กกล้วยหอม
- บดกล้วยหอมให้ละเอียดแล้วพักไว้ จากนั้นผสมไข่และน้ำตาลทราย ตีให้ขึ้นฟูหรือเริ่มเปลี่ยนสี แล้วใส่นมสด ตามด้วยเนย คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วจึงใส่เนื้อกล้วยบดลงไป
- ร่อนส่วนผสมของแห้ง แป้ง เกลือ เบกกิ้งโซดาและผงฟูลงในส่วนผสมของเหลวที่เราเตรียมไว้ แล้วคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- ตักใส่พิมพ์ความสูงประมาณ ⅓ ของพิมพ์ แล้วนำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที เมื่อเค้กสุกดี จึงนำมาพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยจัดเสิร์ฟ
3.คุกกี้สิงคโปร์
เมนูเบเกอรีที่คุ้นหูคุ้นตาคนไทยกับ คุกกี้สิงคโปร์ แต่ไม่ได้นำเข้ามาจากสิงคโปร์แต่อย่างใด ทำกินก็ง่าย ทำขายหารายได้เสริมก็คุ้ม ใส่กล่องสวย ๆ น่ารัก ๆ รับรองว่าขายดี!

วัตถุดิบคุกกี้สิงคโปร์
วัตถุดิบสำหรับคุกกี้
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 340 กรัม
- แป้งมัน 120 กรัม
- น้ำตาลไอซิง 160 กรัม
- เนยจืด 250 กรัม
- น้ำมันพืช 60 มิลลิลิตร
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ผ่าครึ่ง 50 กรัม
- เทียนอบขนม 1 ชิ้น
วัตถุดิบไข่แดงสำหรับทาหน้า
- ไข่แดง 2 ฟอง
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
วิธีทำคุกกี้สิงคโปร์
- วอร์มเตาอบโดยใช้ไฟบน และล่าง ที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส เตรียมไว้
- นำเนยจืดมาตีจนขึ้นฟู แล้วทยอยใส่น้ำตาลไอซิงลงไปตีให้ทุกอย่างเข้ากัน จากร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ และแป้งมันรวมกันลงในอ่างผสม เทน้ำมันพืชใส่ลงไปในอ่างผสม จากนั้นนวดให้ทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นพักแป้งไว้ประมาณ 10 - 15 นาที
- นำไข่แดง เกลือป่น และกลิ่นวานิลลามาตีให้เข้ากัน เตรียมไว้
- นำแป้งที่พักไว้มารีดให้เป็นแผ่น โดยให้มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ใช้ที่กดคุกกี้ขนาด โดยให้มีความห่างของแต่ละชิ้นประมาณ 1 เซนติเมตร นำคุกกี้ที่กดไว้วางเรียงใส่ถาดอบที่มีกระดาษไขรองไว้
- นำไข่แดงที่เราตีไว้มาทาหน้าคุกกี้ที่ใส่ไว้ในถาดอบ ตามด้วยวางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปด้านบน แล้วทาไข่แดงซ้ำอีกครั้ง นำคุกกี้ไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 15 - 20 นาที นำออกมาพักให้เย็น
- นำคุกกี้สิงคโปร์ที่เย็นแล้วมาอบควันเทียนประมาณ 1 ชั่วโมง ให้มีกลิ่นหอม จากนั้นบรรจุลงหีบห่อให้สวยงาม
4.คุกกี้เนยสด
คุกกี้เนยสด เมนูเบเกอรีสุดคลาสสิก กรุบกรอบหวานมัน หอมเนยทุกคำที่ได้กิน สูตรนี้ใส่ไส้แยมเปรี้ยวอมหวานเข้ากันสุด ๆ ยิ่งคนนิยมซื้อเป็นของฝากกันแบบนี้ ยิ่งขายได้ง่าย ๆ เลย

วัตถุดิบคุกกี้เนยสด
- เนย 120 กรัม
- แป้งเอนกประสงค์ 120 กรัม
- น้ำตาลทราย 50 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 40 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ไข่ 1 ฟอง
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เบคกิ้งโซดา 1/8 ช้อนชา
วิธีทำคุกกี้เนยสด
- นำเนยอุณหภูมิห้องตีกับน้ำตาลทรายจนขึ้นฟู จะช่วยทำให้คุกกี้เนยกรอบร่วนได้ดีมากขึ้น จากนั้นเติมไข่ เกลือ ไอซิ่ง ผงฟู เบคกิ้งโซดา และกลิ่นวนิลา ตีต่อจนเข้ากัน
- ร่อนแป้งเอนกประสงค์แล้วค่อยๆ ตะล่อมจนส่วนผสมเข้ากัน การร่อนของแห้งก่อนจะทำให้เกิดอากาศระหว่างการตะล่อม จะทำให้คุกกี้มีสัมผัสที่กรอบเบา
- บีบบนถาดอบแล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศา 20 นาทีหรือจนขึ้นสี นำออกมาพักไว้ 10 นาทีเพื่อให้คุกกี้เริ่มแข็งตัวแล้วจัดเสิร์ฟหรือเก็บใส่ภาชนะที่ปิดสนิท
5.วุ้นกะทิใบเตย
มาดูสูตรขนมไทย ๆ กันบ้าง กับ วุ้นกะทิใบเตย หอมมัน หวานอ่อน ๆ ยิ่งแช่เย็น ๆ ยิ่งชื่นใจ ลูกค้าถูกใจแน่นอนค่ะ

วัตถุดิบวุ้นกะทิใบเตย
วัตถุดิบ วุ้นใบเตย
- ใบเตยหั่นชิ้น 12 ใบ
- น้ำ 550 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 95 กรัม
- ผงวุ้น 5 กรัม
วัตถุดิบ วุ้นกะทิ
- น้ำกะทิ 200 กรัม
- น้ำ 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 95 กรัม
- ผงวุ้น 5 กรัม
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำวุ้นกะทิใบเตย
- นำใบเตยหั่นชิ้นปั่นกับน้ำให้พอละเอียด แล้วกรองน้ำใบเตยด้วยผ้าขาวบางและกระชอนตาถี่เพื่อให้ได้น้ำใบเตยเข้มข้น
- นำน้ำใบเตยไปตั้งไฟ ใส่ผงวุ้น คนจนผงวุ้นละลายจนหมด จึงจะใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย จากนั้นเทใส่พิมพ์ ช้อนฟองออกเพื่อให้หน้าของวุ้นเรียบ นำไปพักอุณหภูมิห้อง หรือตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัว
- ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่กะทิและน้ำลงไป ใส่ผงวุ้น คนจนผงวุ้นละลายจนหมด จึงจะใส่น้ำตาลและเกลือ คนจนละลาย นำไปเทใส่บนวุ้นใบเตยที่เซตตัวแล้ว ช้อนฟองออกเพื่อให้หน้าของวุ้นเรียบ นำไปพักให้เย็นลงในตู้เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัว
- เมื่อวุ้นแข็งและเซตตัวแล้ว นำมีดแซะที่ขอบเพื่อให้วุ้นหลุดจากพิมพ์ได้ง่าย เมื่อนำออกจากพิมพ์แล้วใช้ใบมีดหยักหั่นวุ้นเป็นชิ้นมาจัดเสิร์ฟ แค่นี้ก็พร้อมใส่แพคเกจจิงแล้ว!
6.มันม่วงฉาบ
ถ้าใครกลัวเรื่องการจัดส่ง อยากส่งไกล ๆ ทั่วไทย ก็ขอแนะนำ มันม่วงฉาบ เมนูขนมทำขายที่เก็บได้นาน แถมไม่กลัวเสียอีกต่างหาก มันม่วงเค็ม ๆ หวาน ๆ กรุบกรอบ ถูกใจจนต้องสั่งซ้ำ!

วัตถุดิบมันม่วงฉาบ
- มันม่วง 1 กิโลกรัม
- น้ำมันสำหรับทอด 1 ลิตร
- น้ำตาลปี๊บ 300 กรัม
- เกลือ ½ ช้อนชา
วิธีทำมันม่วงฉาบ
- ปอกเปลือกมันม่วง และฝานให้เป็นแผ่นบาง ๆ ประมาณ 1 มิลลิเมตร เตรียมไว้
- นำกระทะขึ้นตั้งไฟกลาง เทน้ำมันลงไป และรอจนร้อน นำมันม่วงลงไปทอดจนกรอบ และตักขึ้นพักไว้เพื่อสะเด็ดน้ำมัน
- นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลปี๊บ และเกลือ เคี่ยวจนละลายแล้วปิดไฟ ใส่มันม่วงทอดลงไปคลุกให้เข้ากัน พักไว้ให้เย็นก่อนบรรจุใส่หีบห่อ
7.เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน
เมนูเบเกอรีแบบไทย ๆ หอมนุ่ม เค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเค้ก และฝอยทอง ตัดด้วยครีมมะพร้าว ใครได้ชิมก็ต้องติดใจค่ะ

วัตถุดิบเค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน
วัตถุดิบแป้ง
- แป้งอเนกประสงค์ 130 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 70 กรัม
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- นมสด 80 มิลลิลิตร
- น้ำมันรำข้าว 70 กรัม
- ไข่แดง 4 ฟอง
- ฝอยทอง 150 กรัม
วัตถุดิบเมอร์แรงก์
- ไข่ขาว 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 70 กรัม
- ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
วัตถุดิบครีมมะพร้าว
- วิปปิ้งครีม 100 มิลลิลิตร
- น้ำมะพร้าว 60 มิลลิลิตร
- น้ำตาลไอซิง 30 กรัม
- มะพร้าว 50 กรัม
วิธีทำเค้กฝอยทองครีมสดมะพร้าวอ่อน
- วอร์มเตาอบ ไฟบน - ล่าง 250 องศาเซลเซียส 15 นาที และเปลี่ยนเป็นไฟ 180 องศาเซลเซียส
- นำฝอยทองใส่ลงไปในพิมพ์แฉกขนาด 3 นิ้ว กดฝอยทองให้แน่น เตรียมไว้
- นำแป้งอเนกประสงค์ ผงฟู และเกลือ ร่อนเข้าด้วยกัน
- นำไข่แดงใส่ในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลทราย ตีให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย ใส่กลิ่นวานิลลา นมสด ส่วนของแป้งที่ร่อนไว้ ตีให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมันรำข้าวพร้อมกับตีไปด้วยจนเนื้อเดียวกัน พักไว้
- ตีเมอแรงก์ โดยนำไข่ขาวใส่ลงไปในชามผสม ตีให้ขึ้นฟอง ใส่ครีมออฟทาร์ทาร์ลงไป ตีต่อจนไข่ขาวฟู ฟองละเอียด จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลลงไป และตีต่อจนตั้งยอดแข็ง
- นำเมอแรงก์มาผสมกับแป้งที่ตีเตรียมไว้ ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน จากนั้นนำไปใส่พิมพ์ที่ใส่ฝอยทองเตรียมไว้ นำไปอบด้วยไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 7 นาที จากนั้นแกะออกจากพิมพ์ และพักไว้บนตะแกง
- นำวิปปิ้งครีมเทลงไปในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลไอซิง ตีให้ขึ้นฟูจนตั้งยอดกลาง จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำมะพร้าวลงไป ตีให้เข้ากัน ใส่เนื้อมะพร้าวลงไป และคนให้เข้ากัน
- นำครีมมะพร้าวใส่ลงไปตรงกลางของเค้กฝอยทองที่อบเสร็จแล้ว พร้อมแพ็คใส่กล่องแล้วจ้า!
8.บราวนีกรอบ
เป็นอีกเมนูที่ฮิตสุด ๆ ในช่วงนี้ สำหรับ บราวนีกรอบ ที่เปลี่ยนบราวนีเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำเป็นคุกกี้แผ่นบางกรุบกรอบ แถมมีรสช็อกโกแลตเข้มข้นอีกด้วย จัดส่งง่าย สบายใจได้เลย!

วัตถุดิบบราวนีกรอบ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วยตวง
- ผงโกโก้ ¼ ถ้วยตวง
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงกาแฟ 1 ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา
- ไข่ขาว 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- อัลมอนด์หั่น 1 ถ้วยตวง
วิธีทำบราวนีกรอบ
- ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงโกโก้ แป้งข้าวโพด ผงกาแฟ เกลือ และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน พักไว้
- ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงสลับกับใส่น้ำตาลทรายลงไป จนไข่ขาวขึ้นฟูตั้งยอด ผสมกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วนำของแห้งที่พักไว้มาผสมกับไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอด ตะล่อมจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันดี ใส่น้ำมันพืชลงไปผสม ตะล่อมจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำส่วนผสมบราวนีมาปาดบาง ๆ ลงบนแผ่นรองอบ โรยด้วยอัลมอนด์หั่นให้ทั่วแล้วนำเข้าเตาอบ อบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที พอสุกกรอบแล้ว นำออกจากเตาอบ
- พักให้เย็นก่อนบรรจุใส่หีบห่อที่ป้องกันลมเพื่อให้กรอบนาน
9.กล้วยทอดเนย
อีกหนึ่งเมนูทอดแสนกรุบกรอบ กับ กล้วยทอดเนย กล้วยทอดแผ่นบาง รสชาติหวานหอม ได้กลิ่นเนยแบบแท้ ๆ กินมัน กินเพลินเกินห้ามใจสุด ๆ

วัตถุดิบกล้วยทอดเนย
- กล้วยน้ำว้าดิบ 1 หวี
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า ½ ถ้วย
- เนยเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปูนใส สำหรับแช่กล้วย
วิธีทำกล้วยทอดเนย
- ปอกกล้วยแล้วแช่น้ำเปล่า เพื่อป้องกันกล้วยดำ จากนั้นนำมาหั่นเป็นแว่น แล้วนำไปแช่ต่อในน้ำปูนใส 2-3 ชั่วโมง
- ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่น้ำมัน รอจนน้ำมันร้อน ใส่กล้วยที่แช่น้ำปูนใสแล้วลงทอด ทอดจนสีน้ำตาลได้ที่นำขึ้นมาพักไว้
- ทำน้ำเคลือบกล้วย ใส่น้ำตาล น้ำและเนย เปิดไฟกลางผสมจนเข้ากัน นำกล้วยที่ทอดแล้วไปคลุกจนทั่วตักขึ้น
- พักให้เย็นก่อนบรรจุใส่หีบห่อที่ป้องกันลมเพื่อให้กรอบนาน
10.ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง
ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง อีกหนึ่งเมนูเบเกอรีสุดคลาสสิก ทำง่ายแถมทนความร้อน ไม่ต้องกลัวเละระหว่างจัดส่งเลยค่ะ แถมยังเป็นของโปรดของคนทุกรุ่นทุกวัยอีกด้วย พลาดไม่ได้เลย

วัตถุดิบทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง
วัตถุดิบแป้ง
- แป้งเค้ก 130 กรัม
- ผงกาแฟ 30 กรัม
- ผงโกโก้ 30 กรัม
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- เนยจืดละลาย 150 กรัม
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- เกลือ ⅛ ช้อนชา
วัตถุดิบหน้าเค้ก
- แป้งเค้ก 40 กรัม
- วิปปิ้งครีม 60 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนชา
- ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ
- เนยจืดละลาย 50 กรัม
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 200 กรัม
วิธีทำทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง
- วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับเป็นอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส และเตรียมพิมพ์ขนาด 8x8x2 ทาเนย และโรยแป้งเค้กบาง ๆ จะช่วยให้เอาเค้กออกจากพิมพ์ง่ายขึ้น
- ร่อนของแห้ง ได้แก่ แป้งเค้ก ผงโกโก้ ผงกาแฟ ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน
- ตีไข่ และน้ำตาลทราย ด้วยความเร็วสูง 5 นาที จนกลายเป็นสีเหลืองอ่อน ใส่ของแห้งที่ร่อนไว้ลงไป ตามด้วยเนยจืดละลาย คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้นำเข้าเตาอบ 20 นาที
- ใส่วิปปิ้งครีมลงในหม้อ ตามด้วยเนยจืดละลาย ผงกาแฟ น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งเค้ก คนให้เข้ากัน นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง และคนไปเรื่อย ๆ จนหนืด ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป
- ปรับไฟเตาอบเป็น 200 องศาเซลเซียส เค้กที่อบแล้ว ไม่ต้องนำออกจากพิมพ์ เทหน้าเค้กที่ทำเสร็จแล้วลงไป และเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ 12 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นตามชอบ พักไว้ให้เย็นแล้วจัดใส่กล่อง
11.ขนมเปี๊ยะกุหลาบ
ขนมเปี๊ยะกุหลาบ สูตรนี้แป้งหวานละมุน สีสันน่ารักน่าชัง เรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ คล้ายดอกกุหลาบ ห่อด้วยไส้ถั่วกวนแทรกมะพร้าวอ่อนเคี้ยวกรุบ ๆ เป็นสูตรที่คุณแม่ชอบมาก ๆ เลยค่ะ

วัตถุดิบขนมเปี๊ยะกุหลาบ
วัตถุดิบไส้ถั่ว
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก 200 กรัม
- น้ำมันพืช 80 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- น้ำมะพร้าว 1 ถ้วยตวง
- เนื้อมะพร้าว ½ ถ้วยตวง
วัตถุดิบแป้งขนมเปี๊ยะกุหลาบ
แป้งขนมเปี๊ยะกุหลาบชั้นนอก
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 260 กรัม
- แป้งเค้ก 50 กรัม
- น้ำตาลทราย 30 กรัม
- น้ำ 110 มิลลิลิตร
- น้ำมัน 110 มิลลิลิตร
- สีผสมอาหาร
แป้งขนมเปี๊ยะกุหลาบชั้นใน
- แป้งเค้ก 150 กรัม
- น้ำมัน 80 มิลลิลิตร
- สีผสมอาหาร
- เทียนอบ 1 วง
วิธีทำขนมเปี๊ยะกุหลาบ
- นำถั่วเขียวเลาะเปลือกล้างให้สะอาด แล้วเทน้ำเปล่า แช่ทิ้งไว้ข้ามคืน
- นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมานึ่ง 20 นาที แล้วนำเอาถั่วเขียวเลาะเปลือกมาปั่นกับน้ำมะพร้าวให้เนียน ตั้งหม้อ เปิดไฟ ใส่ถั่วเขียวเลาะเปลือกและน้ำมะพร้าวที่ปั่นรวมกัน กวนกับน้ำตาลทรายและน้ำมัน 10 นาที ใส่เนื้อมะพร้าว กวนให้เข้ากัน ปิดไฟยกลงจากเตา พักให้ไส้ถั่วเขียวมะพร้าวเย็น แล้วแบ่งเป็นก้อนก้อนละ 15 กรัม
- ผสมแป้งขนมเปี๊ยะชั้นนอก โดยนำแป้งอเนกประสงค์ แป้งเค้ก น้ำมัน น้ำ และสีผสมอาหาร ผสมเข้ารวมกัน แล้วนวดให้เนียน
- ผสมแป้งขนมเปี๊ยะชั้นใน โดยนำแป้งเค้ก และน้ำมันผสมจนเข้ากัน
- นำแป้งขนมเปี๊ยะชั้นนอกแบ่งเป็นก้อน ก้อนละ 25 กรัม และแป้งขนมเปี๊ยะชั้นในเป็นก้อนก้อนละ 15 กรัม จากนั้นนำแป้งขนมเปี๊ยะชั้นในห่อด้วยแป้งขนมเปี๊ยะชั้นนอก หลังจากนั้นพักไว้ 15 นาที นำแป้งมารีด แล้วม้วน ทำซ้ำอีกครั้ง
- ตัดแบ่งครึ่งแป้งที่ม้วนเสร็จแล้ว รีดเป็นแผ่นกลม หลังจากนั้นนำมาห่อไส้ถั่วมะพร้าวอ่อน
- นำไปอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 นาที จนสุก ยกออกจากเตาผึ่งให้เย็นสนิท
- นำขนมเปี๊ยะกุหลาบจัดวางใส่อ่างชามผสมใหญ่ เว้นที่ไว้ตรงกลางสำหรับควันเทียน นำควันเทียนมาจุดไฟให้เผาเนื้อเทียนอบเล็กน้อย เเล้วดับไฟ นำใส่ลงไปแล้วปิดฝาแล้วอบควันเทียน 1 ชั่วโมง
12.คุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก
คุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก เมนูเบเกอรีช็อกโกแลตเข้มข้น ด้านในมีไส้ไวท์ช็อกโกแลตเยิ้ม ๆถูกใจสายหวานแน่นอน มีเซอไพรส์ข้างในเป็นกิมมิคน่ารัก ๆ ใคร ๆ ก็ต้องเลิฟ!

วัตถุดิบคุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก
- ผงโกโก้สีเข้ม 60 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 275 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- เกลือ ½ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 220 กรัม
- เนยจืด 200 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- นมสด 50 มิลลิลิตร
- ไวท์ช็อกโกแลต คอมพาวด์ (เหรียญ) 100 กรัม
วิธีทำคุกกี้ช็อกโกแลตไส้ไวท์ช็อก
- ปั้นเป็นก้อนกลมด้วยมือ แล้ววางลงในถาดอบที่ปูกระดาษไขไว้
- แล้วนำไวท์ช็อกโกแลต คอมพาวด์ (เหรียญ) กดลงไปตรงกลางโดว์คุกกี้ แล้วหุ้มปิดให้มิด และปั้นกลับเป็นก้อนกลมเช่นเดิม
- นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส นาน 10 นาทีจนสุก พักให้เย็นบนตะแกรง แล้วตกแต่งด้วยไวท์ช็อกโกแลตละลาย พักไว้ให้เย็นก่อนใส่ในห่อ
13.ปังกรอบเนยหนึบ
ปังกรอบเนยหนึบ เมนูกินเล่นกินเพลิน แถมเก็บได้นานไม่กลัวเสีย เหมาะเป็นขนมทำขายในไอจีสุด ๆ แถมยังทำได้ทีละเยอะ ๆ อีกด้วย

วัตถุดิบปังกรอบเนยหนึบ
- นมข้นหวาน ผสมชาไทย 1 หลอด
- นมข้นหวาน กลิ่นนมเย็น 1 หลอด
- ขนมปัง 12 แผ่น
- เนยเค็ม 150 กรัม
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- น้ำตาลไอซิง 90 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 75 กรัม
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- นมผง 50 กรัม
วิธีทำปังกรอบเนยหนึบ
- นำขนมปังมาเรียงในถาดอบ แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 10 นาที เมื่อครบเวลานำออกมาหั่นครึ่งแผ่น แล้วพักไว้
- ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์กับนมผงและผงฟู แบ่งให้เป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กันแล้วพักไว้
- ตีเนยเค็ม น้ำตาลทรายและน้ำตาลไอซิง ด้วยความเร็วสูงประมาณ 5 นาที หรือจนกระทั่งเนยฟูและมีสีอ่อนลง ตอกไข่ไก่ลงในเนย แล้วตีให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลางจากนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน
- เติมนมข้นหวานผสมชาไทย และนมข้นหวานกลิ่นนมเย็นในอีกส่วนหนึ่ง ตีด้วยความเร็วปานกลางให้เข้ากัน แล้วใส่แป้งที่ร่อนไว้ จากนั้นตีให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำอีกครั้ง
- ปาดเนยทั้ง 2 รสชาติลงบนขนมปังให้เต็มแผ่น แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส 10 - 15 นาที หรือจนขนมปังสุกกรอบ
14.บาสก์ชีสเค้ก
บาสก์ชีสเค้ก ชีสเค้กหน้าไหม้สุดฮิต เนื้อชุ่มนุ่มละมุนสุดฟิน ใครได้ชิมก็ต้องร้องว้าว แถมยังใช้วัตถุดิบน้อยกว่าชีสเค้กทั่ว ๆ ไปอีกด้วย!

วัตถุดิบบาสก์ชีสเค้ก
- ครีมชีส 250 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลทราย 75 กรัม
- วิปปิ้งครีม 120 มิลลิลิตร
- แป้งเค้ก 15 กรัม
- เกลือ ¼ ช้อนชา
วิธีทำบาสก์ชีสเค้ก
- วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับอุณหภูมิเป็น 230 องศาเซลเซียส
- เตรียมพิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ โดยวางกระดาษรองอบตรงตัวฐาน และรอบพิมพ์
- ตีครีมชีส เกลือ และน้ำตาลเข้าด้วยกัน ด้วยความเร็วปานกลาง จนเนื้อเนียน ใส่วิปปิ้งครีม ไข่ไก่ และแป้งเค้ก ตีให้เข้ากันด้วยความเร็วปานกลางจนเข้ากัน เทลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วปาดให้เรียบ นำไปอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิเป็น 230 องศาเซลเซียส 25 นาที
- ปิดเตาอบแล้วพักบาสก์ชีสเค้กหรือชีสเค้กหน้าไหมของเราไว้ 15 นาที จากนั้นนำออกจากเตา แล้วพักให้เย็นสนิทจึงตัดเป็นชิ้นใส่กล่องให้สวยงาม
15.ขนมชั้น
เมนูขนมไทยสุดฮอตตลอดกาล ก็ต้อง ขนมชั้น ใช่ไหมคะ เมนูขนมมงคลเนื้อนุ่มหนึบหอมใบเตย หวานละมุนกินเพลินอย่าบอกใคร แถมถ้าส่งระยะไม่ไกลมากก็หายห่วง!

วัตถุดิบขนมชั้น
- แป้งมัน 2 ถ้วย
- แป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
- แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วย
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 3 1/2 ถ้วย
- หัวกะทิ 3 ถ้วย
- สีผสมอาหาร หรือน้ำใบเตยคั้น 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมชั้น
- เทแป้งมัน แป้งข้าวโพด แป้งข้าวเจ้าและแป้งท้าว ผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นคลุกเคล้าส่วนแป้งให้เข้ากันดี แล้วพักไว้ก่อน
- จากนั้นทำน้ำเชื่อมด้วยการนำหม้อตั้งเตา ผสมน้ำตาลทรายและน้ำลอยดอกมะลิ คนให้เข้ากัน พอน้ำตาลละลายดีแล้ว ยกลงพักให้เย็น พอน้ำเชื่อมเย็นแล้ว นำหัวกะทิเทลงไปคนให้เข้ากัน
- เทส่วนผสมหัวกะทิน้ำเชื่อมลงไปในถ้วยที่เราเตรียมแป้งไว้ ค่อย ๆ เทใส่ทีละนิด จากนั้นใช้มือขยำแป้งให้เข้ากันดี โดยใช้เวลาประมาน 20-30 นาที จากนั้นกรองแป้งด้วยกระชอน เพื่อให้ส่วนผสมเนียนสวย เมื่อกรองส่วนผสมเสร็จแล้วให้แบ่งเป็น 2 ส่วนอย่างละครึ่ง ส่วนที่ 1 ไม่ต้องผสมอะไร และส่วนที่สองให้เทน้ำใบเตยคั้นหรือสีผสมอาหารผสมลงไป
- ตั้งลังถึงบนเตาแก๊ส รอให้น้ำร้อนค่อยเทแป้งลงในถาดที่ใส่ในลังถึง นำถาดพิมพ์มาเตรียมไว้ เทแป้งสีเขียวลงไปประมาณ 2 มิลลิเมตร และนำไปนึ่ง 6-10 นาที จากนั้น ก็เทแป้งสีขาวลงไปประมาณ 2 มิลลิเมตร ทำแบบนี้ลงไปประมาณ 9 ชั้น เป็นอันเสร็จ ทิ้งไว้ให้เย็นตัวดี แล้วตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม
16.บานอฟฟี
เมนูเบเกอรีที่วันนี้เรามาเอาใจคนไม่มีเตาอบ! กับ บานอฟฟี สูตรไมโครเวฟ ทำใส่ถ้วยพลาสติกหรือถ้วยฟอยล์ก็เสิร์ฟได้ง่าย ๆ แนะนำว่าใช้วิปปิงครีมแบบนอนเดรี่ จะทำให้ไม่เหลวละลายเวลาเจออากาศร้อนค่ะ

วัตถุดิบบานอฟฟี
- แครกเกอร์ 100 กรัม
- เนยสดเค็ม 50 กรัม( สำหรับใส่แครกเกอร์ )
- กล้วยหอม 3 ลูก
- น้ำตาลทราย 90 กรัม
- วิปปิ้งครีม 50 กรัม ( สำหรับทำคาราเมลซอส )
- เนยสดเค็ม 40 กรัม( สำหรับทำคาราเมลซอส )
- วิปปิ้งครีมเย็นจัด 200 กรัม
- ผงโกโก้ ( สำหรับโรยหน้า )
วิธีทำบานอฟฟี
- บดแครกเกอร์พอหยาบ ละลายเนยสดเค็มในไมโครเวฟ และนำมาผสมกับแครกเกอร์ให้เข้ากัน กรุลงในแก้วหรือภาชนะตามชอบ นำไปใส่ตู้เย็นพักไว้
- ทำซอสคาราเมล โดยตั้งวิปปิ้งครีมให้พออุ่นพักไว้ นำน้ำตาลทั้งไฟให้น้ำตาลละลายจนหมด(ห้ามคน) เทวิปปิ้งครีมอุ่นลงไป รีบคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่เนยสดเค็มลงไปคนใส่เข้ากัน ปิดไฟยกขึ้นพักไว้ให้เย็น
- หั่นกล้วยหอมเป็นแว่นๆเรียงลงไปในแก้วที่กรุแครกเกอร์เตรียมไว้ ราดด้วยคาราเมลซอส
- ตีวิปปิ้งครีมเป็นจัดให้ตั้งยอด บีบลงไปให้เต็มแก้ว โรยหน้าด้วยผงโกโก้ตามชอบ แช่เย็น30 นาที พร้อมเสิร์ฟ
17.กล้วยทอดโมเลน
เมนูกล้วยเหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือจัดส่งง่ายขึ้นแถมไกลขึ้นได้ด้วย! กับ กล้วยทอดโมเลน เมนูกล้วยทอดที่พันด้วยแป้งบาง ๆ กรอบ ๆ สามารถใช้ได้ทั้งกล้วยสดและกล้วยตากเลยค่ะ เป็นกล้วยตากก้ได้อารมณ์ไปอีกแบบแถมเก็บได้นานขึ้นอีกด้วย

วัตถุดิบกล้วยทอดโมเลน
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 140 กรัม
- น้ำตาลทราย 25 กรัม
- เนยจืดละลาย 50 กรัม
- น้ำเปล่า 50 กรัม
- เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
- กล้วยไข่ 3 ลูก
วิธีทำกล้วยทอดโมเลน
- นำแป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำตาลทราย เกลือป่น เนย น้ำเปล่า ผสมให้เข้ากัน ใช้มือนวด 10 นาที
- หั่นกล้วย 4 ส่วน แล้วนำแป้งที่พักไว้มารีดเป็นแผ่นแล้วพันกล้วยไข่ไว้
- ตั้งน้ำมันทอดให้ร้อน เมื่อน้ำมันร้อนแล้วปรับเป็นไฟอ่อนค่อนไปทางกลาง นำกล้วยที่พันแป้งแล้วลงทอด จนได้สีเหลืองทอง
- พักให้เย็นก่อนใส่กล่อง อย่าลืมใส่นมข้นหวานถ้วยเล็ก ๆ คู่ไปด้วยนะ!
18.เค้กไข่ไต้หวัน
เค้กไข่เนื้อนุ่มเด้งดึ๋ง ๆ หอมกรุ่นจากเตา สูตรส่งตรงจากไต้หวัน เนื้อเค้กนุ่มลิ้นละลายในปาก ใส่กล่องสวย ๆ ก็พร้อมส่งแล้ว!

วัตถุดิบเค้กไข่ไต้หวัน
- แป้งเค้ก 80 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- น้ำมันข้าวโพดอุ่น 70 กรัม
- นมสด 70 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- ครีมออฟทาร์ทาร์ ½ ช้อนชา
- ไข่แดง 6 ฟอง
- ไข่ขาว 6 ฟอง
- กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
- เกลือ ¼ ช้อนชา
วิธีทำเค้กไข่ไต้หวัน
- วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับเป็นอุณหภูมิ 150 - 160 องศาเซลเซียส (แล้วแต่เตาของแต่ละบ้าน)
- เตรียมพิมพ์ขนาด 8x8x2 รองกระดาษอบให้สูง เพราะเวลาอบเค้กจะฟูขึ้นล้นพิมพ์
- ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน เทน้ำมันข้าวโพดอุ่นลงไปในแป้งที่ร้อนไว้ ตีให้เข้ากัน
- ใส่นมสด กลิ่นวานิลลา และไข่แดงลงไปตีให้เข้ากัน และพักไว้
- ใส่ไข่ขาวลงชามผสม ตามด้วยครีมออฟทาร์ทาร์ ตีด้วยความเร็วปานกลางพอให้ไข่ขาวฟูเป็นฟองหยาบ ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป แล้วตีไปเรื่อย ๆ จนตั้งยอดอ่อน
- ค่อย ๆ ผสมเมอแรงก์กับแป้งที่ทำไว้ตอนแรก ตะล่อมให้เข้ากันอย่างเบามือ จนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ และใช้ที่ตัดแป้งปาดหน้าให้เนียนเท่ากัน
- นำเค้กไข่ที่จะเข้าอบ วางบนถาดที่มีขนาดใหญ่กว่า เทน้ำร้อนลงไปให้สูงประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากนั้นนำเข้าเตาอบอุณหภูมิ 150 - 160 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 60 - 70 นาที (แล้วแต่เตาของแต่ละบ้าน)
- นำออกจากเตาอบ เคาะถาด 1 ที และยกเค้กไข่ออกจากพิมพ์ ตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดตามต้องการ พักไว้ให้เย็นก่อนใส่กล่อง
19.เค้กมะยงชิดนึ่ง
ต่อด้วยเมนูขนมที่กำลังจะมาแรงกับผลไม้ประจำฤดูช่วงนี้ อย่าง เค้กมะยงชิดนึ่ง เมนูเบเกอรีแบบไม่ง้อเตาอบ เปรี้ยวอมหวาน หอมกลิ่นมะยงชิด เหมาะทำขายลงไอจีช่วงนี้สุด ๆ !

วัตถุดิบเค้กมะยงชิดนึ่ง
- มะยงชิด 300 กรัม
- แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เบกกิงโซดา ½ ช้อนชา
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- นมสด 150 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 130 กรัม
- น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
วิธีทำเค้กมะยงชิดนึ่ง
- นำมะยงชิด น้ำตาลทราย เกลือป่น และนมสด มาปั่นให้ทุกอย่างเข้ากัน เทใส่ชามเตรียมไว้
- ร่อนแป้ง ผงฟู และเบคกิงโซดาลงในชามที่มีน้ำมะยงชิด คนให้ทุกอย่างเข้ากัน
- ตักส่วนผสมค้กมะยงชิดที่เตรียมไว้ลงในพิมพ์ขนมโดยให้เหลือขอบประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร
- ใช้ไม้จิ้มฟันจุ่มน้ำมะนาว และกรีดหน้าให้เป็นกากบาด จะช่วยให้หน้าเค้กแตกสวย
- นึ่งเค้กมะยงชิดประมาณ 20 - 25 นาที
- พักเค้กมะยงชิดที่นึ่งเสร็จแล้วให้เย็นค่อยจัดใส่กล่อง
20.วุ้นกุหลาบแก้ว
ปิดท้ายกันด้วย วุ้นกุหลาบแก้ว เมนูของหวานเนื้อเด้ง หน้าตาน่ารักสวยงาม เฟมาะสำหรับทำขายในไอจีสุด ๆ เพราะนอกจากจะไม่ต้องพึ่งเตาอบแล้วยังทำได้ทีละเยอะ ๆ อีกด้วยนะ!

วัตถุดิบวุ้นกุหลาบแก้ว
วัตถุดิบวุ้นกะทิ
- หัวกะทิ 2 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 120 กรัม
- เกลือ 1/3 ช้อนชา
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
- สีผสมอาหารสีแดง 4 หยด
- สีผสมอาหารสีแดง 2 หยด
วัตถุดิบวุ้นใส
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
อุปกรณ์
- พิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 3 ซม. 10 ชิ้น
- พิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 5 ซม. 10 ชิ้น
วิธีทำวุ้นกุหลาบแก้ว
- นำน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปแช่ในน้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้วุ้นนั้นอิ่มตัวและละลายได้ง่ายขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วนำหม้อขึ้นตั้งไฟ จากนั้นใส่หัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือคนให้เข้ากัน โดยเราจะคนให้ถึงก้นหม้อเพื่อไม่ให้ผงวุ้นติดก้นหม้อ เมื่อน้ำกะทิเดือนพล่านแล้วยกลงจากเตา
- แบ่งน้ำกะทิออกเป็น 2 ถ้วย จากนั้นหยดสีแดงลงไปทั้ง 2 ถ้วย โดยถ้วยหนึ่งใส่สีแดง 4 หยด และอีกถ้วยใส่สีแดงลงไป 2 หยดแล้วคนให้เข้ากัน
- หยอดน้ำกะทิสีชมพูเข้มและอ่อนที่ทำไว้ลงในพิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 3 ซม. จนครบทั้ง 10 ชิ้น จากนั้นพักไว้ให้เซตตัว
- นำเปล่าใส่ลงในหม้อ จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปแช่ในน้ำทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที เพื่อให้วุ้นนั้นอิ่มตัวและละลายได้ง่ายขึ้น เมื่อครบเวลาแล้วนำหม้อขึ้นตั้งไฟ จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน โดยเราจะคนให้ถึงก้นหม้อเพื่อไม่ให้ผงวุ้นติดก้นหม้อ เมื่อน้ำเดือนพล่านแล้วยกลงจากเตา
- นำวุ้นกะทิดอกกุหลาบที่เซตตัวแล้ว วางลงไปในพิมพ์ซิลิโคนรูปดอกกุหลาบ ขนาด 5 ซม. โดยจัดไว้ตรงกลาง จากนั้นตักวุ้นใสใส่ลงไปในพิมพ์ให้เต็ม ทำแบบนี้ทุกอัน แล้วรอให้เซตตัวดี
- แกะวุ้นกุหลาบแก้วออกจากพิมพ์ จัดใส่กล่องให้สวยงาม
เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้ไอเดีย เมนูขนมทำขายในไอจี กันแล้วหรือเปล่า ต้องขอบอกก่อนว่าบางเมนูอาจจะมีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาการเก็บรักษา หรือข้อจำกัดทางการจัดส่งอยู่บ้างนะคะ แต่ถ้าเป็นเมนูของแห้งล่ะก็ ไปไหนไปกันเลยค่ะ ส่งขายได้ง่ายแน่นอน ถ้าเพื่อน ๆ อยากได้สูตรขนมไว้ทำขายกันอีก ก็ขอแนะนำ รวมสูตรเมนูคุกกี้ ให้ไปลองทำกันต่อ ส่วนคราวหน้าจะมีเมนูอะไรมาฝากก็อย่าลืมมาติดตามกันดูน้าา แล้วเจอกันค่ะ :)
ดูรวมสูตรที่น่าสนใจเพิ่มตรงนี้เลย!